ในพ.ศ.2528 คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ“คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนางานสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ให้กำหนดวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็น“วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จย่า”เป็น“วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ” ด้วยเหตุผลที่ว่าพระองค์ทรงอุทิศพระวรกายและเวลา เพื่อประโยชน์ให้บังเกิดแก่ประชาชนตลอดมา โดยมิได้ทรงเห็นแก่ความเหนื่อยยาก สมควรเป็นปูชนียบุคคลที่นักสังคมสงเคราะห์ควรถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานของตนต่อไป
วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ภาครัฐบาลและภาคเอกชน จึงได้ร่วมกันจัดงานแสดงกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ“สมเด็จย่า” ที่ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าโดยไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา การสังคมสงเคราะห์คือการช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้ทุกคนอยู่ในสังคมไทย ได้อย่างมีความสุขและให้ทุกคนมีความสามารถ รวมถึงพัฒนาสังคมให้มีความเจริญก้าวหน้าด้วย
การสังคมสงเคราะห์มีในประเทศไทยเป็นเวลานานมาแล้ว สมัยก่อนนี้“วัด” เป็นศูนย์กลางของการสังคมสงเคราะห์ ปัจจุบันนี้มีทั้งภาครัฐบาล และภาคเอกชน ทางฝ่ายรัฐนั้นมีหน่วยงานที่ร่วมรับผิดชอบเกี่ยวกับความผาสุกของประชาชนชาวไทย คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)
ส่วนภาคเอกชนนั้นกระทำการสังคมสงเคราะห์ โดยการจัดตั้งเป็น สมาคมและมูลนิธิเพื่อการกุศล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นองค์การที่ตั้งขึ้นโดยประชาชน เป็นของประชาชนและทำงานเพื่อประชาชนโดยแท้ ในปัจจุบันนี้มีจำนวน ประมาณกว่า 10,000 องค์การ ที่ช่วยรัฐและหน่วยงานของรัฐให้บริการสังคม- สงเคราะห์
สมาคมและมูลนิธิหลายองค์การได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริ หรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมและมูลนิธิเหล่านี้ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติ เป็นเอนกประการ ทั้งในการสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคม รวมทั้งการพัฒนาสังคมด้านต่างๆ เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และมูลนิธิอานันทมหิดล เป็นต้น
มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ และสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ เป็นองค์การที่ทำงานเพื่อการสังคมสงเคราะห์โดยแท้ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ หมายถึงมูลนิธิที่พระมหากษัตริย์และประชาชนร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยผู้ ที่ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ มูลนิธินี้ถือกำเนิดขึ้น เนื่องมาจากการเกิดวาตภัยและอุทกภัยขึ้นในจังหวัด ภาคใต้เมื่อ พ.ศ. 2505 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำประชาชนให้ช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ ผู้ประสบเคราะห์กรรมเหล่านั้น ได้รับการบริจาคเฉพาะเงินสดถึง 11 ล้านบาท หลังจากที่พระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านั้นแล้ว ยังเหลือเงินอยู่อีกถึง 3 ล้านบาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้จัดตั้งเป็น “มูลนิธิราชประชานุเคราะห์”ขึ้น
สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ได้พระราชทานเงินจำนวนหนึ่งล้านบาทเป็นทุนริเริ่มการสร้างตึกทำงานของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และได้พระราชทานนามตึกนี้ว่า“ตึกมหิดล” เพื่อเทิดทูนพระเกียรติคุณในด้านสังคมสงเคราะห์ของสมเด็จพระบรมราชชนก
โครงการที่สำคัญที่สุดของสภาสังคมสงเคราะห์ฯ คืออุดมการณ์ที่รัฐรับเป็นอุดมการณ์ของชาติ คือ “โครงการแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” ซึ่งมีที่มาจากพระบรมราชปณิธานในพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” โดยพระราชดำรัสที่ว่า“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม”เป็นที่มาแห่ง“แผ่นดินธรรม”ส่วนพระราชดำรัสที่ว่า “เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เป็นที่มาแห่ง “แผ่นดินทอง”
โดยการใช้เว็บไซต์ของ KPRU คุณรับทราบว่าคุณได้อ่านและทำความเข้าใจ นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และข้อกำหนดในการให้บริการ ของเรา ยอมรับ
แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาบัณฑิตและท้องถิ่น
สำนักวิทยบริการฯ
เปิดให้บริการ ช่วงเปิดภาคเรียน
เวลา 08.30 น. - 16.30 น. วัน จันทร์ - เสาร์
เวลา 08.30 น. - 16.30 น. วัน อาทิตย์
เปิดให้บริการ ช่วงปิดภาคเรียน
เวลา 08.30 น. - 16.30 น. ทุกวัน
ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ
มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร กำหนด
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
เลขที่ 69 หมู่ที่ 1 ตำบลนครชุม อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร 62000
โทรศัพท์ 055-706555 ต่อ 1503
เว็บไชต์ : https://arit.kpru.ac.th
ติดต่อผู้ดูแลเว็บ : anucha_pu@kpru.ac.th