วันกองทัพไทย เป็นวันที่ระลึกในวาระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับมังสามเกียดของพม่า โดยถือเอาวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีเป็นวันกองทัพไทยตามการคำนวณจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่ระบุว่า พระองค์กระทำยุทธหัตถี ในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จ.ศ. 954 คำนวณได้ ตรงกับวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 1593 หรือ พ.ศ. 2135 แบบ พ.ศ. ราชการ หรือ พ.ศ. 2136 แบบ พ.ศ. มาตรฐานอุตสาหกรรม (พ.ศ. ISO) เดิมนั้นกระทรวงกลาโหมได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายนของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 ได้เปลี่ยนโดยให้ถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทย ตามมติของคณะรัฐมนตรีในสมัยนั้น ตามการคำนวณของ นายฉันทิชย์ กระแสสินธุ์ คำนวณได้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2135 (พ.ศ.ISO 2136) ซึ่งเชื่อว่าเป็นการคำนวณที่ไม่ถูกต้อง
ราวปี พ.ศ. 2535 - 2538 นักคำนวณปฏิทินที่สำคัญ ได้แก่ นาย ประเสริฐ ณ นคร ราชบัณฑิต, พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์ เลขาธิการมูลนิธิพระดาบส และ นายลอย ชุนพงษ์ทอง ที่ปรึกษาการคำนวณปฏิทินสำนักพระราชวัง และสหวิทยาการแห่งราชบัณฑิตสภา ได้ตรวจสอบและลงความเห็นตรงกันว่า วันที่ทรงกระทำยุทธหัตถีนั้น แท้จริงแล้วไม่ได้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม แต่น่าจะตรงกับวันที่ 18 มกราคม ปีดังกล่าว ทางราชการยังคงถือเอาวันที่ 25 มกราคม เป็นวันกองทัพไทยต่อไป จนกระทั่งวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2549 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ 25 มกราคม ของทุกปีเป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม อนึ่ง ม.ล.ปิ่น มาลากุล เป็นท่านแรก ที่คำนวณไว้ ตั้งแต่ พ.ศ. 2499 ว่าตรงกับ 18ม.ค. แต่ทางกองทัพไม่ทราบเรื่อง จึงมิได้นำไปใช้ ม.ล.ปิ่น มาลากุล อดีตมหาดเล็กรับใช้ในรัชกาลที่ ๖ เล่าไว้เมื่อปลายชีวิตของท่านว่า สมัยที่ท่านผู้เล่ายังเป็นมหาดเล็กรับใช้อายุราว 15 ปี วันหนึ่งล้นเกล้าฯ มีพระราชกระแสรับสั่งถามว่า ปิ่นรู้ไหม สมเด็จพระนรเศวรยกทัพออกจากกรุงศรีอยุธยาไปทำยุทธหัตถีวันไหน ท่านว่าไปเปิดพงศาวดาร ๓ ฉบับกล่าวไว้ไม่ตรงกันเลย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คิดสมการคณิตศาสตร์สำหรับคำนวณปฏิทินล้านปีได้สำเร็จเมื่อไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และเมื่อมีการจัดตั้งท้องฟ้าจำลองกรุงเทพฯ ขึ้นแล้ว ท่านได้ขอให้ อ.สิงโต ปุกหุต หมุนปฏิทินดวงดาวย้อนหลังไปตามที่พงศาวดารทั้ง 3 ฉบับบันทึกไว้ ผลที่ได้รับคือ วันกระทำยุทธหัตถีที่บันทึกไว้ในพงศาวดารฉบับกลวงประเสริฐอักษรนิติ (แพ ตาละลักษณ์ - พระยาปริยัติธรรมธาดา) ตรงกับวันแรม 2 ค่ำ เดือนยี่ตามที่แสดงไว้ในปฏิทินดวงดาววันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2137 ซึ่งตรงกับที่ท่านคำนวณไว้ในปฏิทินล้านปีก่อนหน้านั้น
เรื่องวันที่ 18 มกราคม เป็นวันกระทำยุทธหัตถีนี้ เคยเรียนถามท่านว่า ทำไมท่านไม่ประกาศให้โลกรู้ ท่านตอบสั้นๆ ว่า คนเขาเชื่อว่าเป็นวันที่ 25 มกราคมแล้ว ก็ยากที่จะไปเปลี่ยนแปลง นายลอย ชุนพงษ์ทอง ได้อธิบายสาเหตุที่คำนวณผิด ในการประชุมทางวิชาการปฏิทินไทย เชิงดาราศาสตร์ จัดโดยสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ. 2550 ว่า น่าจะเกิดจากนับจำนวนวัน ถอยหลังจากวันเถลิงศกของปีนั้น ซึ่งใน ค.ศ.1593 นั้น ตรงกับวันที่ 9 เมษายน แต่เข้าใจผิดว่า วันเถลิงศกตรงกับวันที่ 15 เมษายน เหมือน พ.ศ. 2522 ที่คำนวณ ประกอบกับ ค่ำกำเนิดของวันเถลิงศกตามหลักสุริยยาตร์ ตรงกับขึ้น 8 ค่ำ แต่ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ และหลักปฏิทินไทย ควรเป็นขึ้น 9 ค่ำ เมื่อตามนับถอยหลัง จึงทำให้วันทีได้ช้าไป 7 วัน กลายเป็น 25 ม.ค. อาจกล่าวอีกอย่างว่า แทนที่จะนับถอยหลังจาก ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 5 ของวันที่ 9 เม.ย. ก็นับจาก 8 ค่ำ เดือน 5 ของวันที่ 15 เม.ย. จึงผิด 2 ต่อ รวมกันได้ 7 วัน
วันกองทัพไทยยึดเอาวันกระทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งในยุคเริ่มแรกสมัย พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในช่วงปี 2523 ได้ใช้วันที่ 25 มกราคม ต่อมานักประวัติศาสตร์ทักท้วงว่าการยึดเอาวันที่ 25 มกราคม 2135 เป็นวันยุทธหัตถีเป็นการคำนวณที่ผิดพลาด และพบว่าวันยุทธหัตถีตามบันทึกของพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ แท้จริงแล้วตรงกับวันที่ 18 มกราคมตามปฏิทินปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2548 คณะรัฐมนตรีได้ลงมติอนุมัติให้วันที่ 18 มกราคมของทุกปีเป็นวันยุทธหัตถี ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักฐานที่ราชบัณฑิตยสถานและคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติเสนอ ซึ่งเป็นผลทำให้ประวัติศาสตร์ของวันยุทธหัตถีเปลี่ยนไป ดังนั้นเพื่อดำรงความมุ่งหมายเดิมในการกำหนดวันที่ระลึกถึงกองทัพไทยและกองทัพบก รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับมติของคณะรัฐมนตรีดังกล่าว กระทรวงกลาโหมและกองทัพบกจึงได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยและวันกองทัพบก จากเดิมวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่ 18 มกราคมของทุกปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2550
โดยการใช้เว็บไซต์ของ KPRU คุณรับทราบว่าคุณได้อ่านและทำความเข้าใจ นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และข้อกำหนดในการให้บริการ ของเรา ยอมรับ
แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ เพื่อพัฒนาบัณฑิตและท้องถิ่น
สำนักวิทยบริการฯ
เปิดให้บริการ ช่วงเปิดภาคเรียน
เวลา 08.30 น. - 16.30 น. วัน จันทร์ - เสาร์
เวลา 08.30 น. - 16.30 น. วัน อาทิตย์
เปิดให้บริการ ช่วงปิดภาคเรียน
เวลา 08.30 น. - 16.30 น. ทุกวัน
ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ
มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร กำหนด
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
เลขที่ 69 หมู่ที่ 1 ตำบลนครชุม อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร 62000
โทรศัพท์ 055-706555 ต่อ 1503
เว็บไชต์ : https://arit.kpru.ac.th
ติดต่อผู้ดูแลเว็บ : anucha_pu@kpru.ac.th