วันที่ ๔ ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็น “วันสิ่งแวดล้อมไทย” จัดตั้งขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและสถานการณ์สิ่งแวดล้อมระดับโลกเมื่อทรงมีพระราชดำรัสแก่กลุ่มบุคคลต่างๆที่เข้าร่วมถวายความอาลัยเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดา เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เพื่อย้ำเตือนให้พสกนิกรชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกโดยเฉพาะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกและถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
“วันก่อนเราพูดถึงปัญหากันว่าประเทศไทยนี้คงจะแห้งแล้งไปสักหน่อยไม่มีน้ำเหลือให้ซื้อน้ำจากต่างประเทศ ซึ่งอาจจะใช่แต่ผมเชื่อว่าคงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะถ้าดูจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าประเทศไทยที่ยังมีเหลืออยู่ก็คงต้องบริหารจัดการให้ดีถ้าบริหารจัดการดีก็มีมาก มีตัวเลข แต่ตัวเลขยังไม่แยกแยะได้เฉกเช่นตัวเลขคาร์บอนที่แยกออกได้ ก็มีน้ำมากมายในโลกที่นำมาใช้จริงก็เป็นหมื่นๆ ส่วนของน้ำที่มีอยู่ อาจจะไม่ถึงก็ต้องบริหารจัดการให้ดีตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องน้ำน้ำนี้ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ คือ น้ำไว้ใช้เอง เพราะเราใช้บริโภค น้ำเพื่อการเกษตร น้ำเพื่ออุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ต้องการน้ำที่ดีแปลว่าน้ำสะอาด
มีน้ำมากมายในโลกส่วนใหญ่เป็นน้ำทะเล ซึ่งตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้วยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือ จะต้องป้องกันไม่ให้น้ำเสียเน่าเสีย น้ำเสียจะมีอยู่เสมอแต่ขออย่าให้น้ำเสียมากเกินไปจนเป็นโทษ นี่คืออีกโครงการหนึ่งที่เราต้องดำเนินการและหากไม่จัดการอย่างรวดเร็ว เราก็จะนอนจมอยู่กับน้ำเสีย น้ำดีก็จะไม่ได้ถูกใช้แม้จะไปซื้อน้ำจากต่างประเทศก็ตามกลายเป็นน้ำเน่าเสียเพราะใช้ไม่ระวัง
หากเรามีน้ำก็ใช้ให้ระวังและควบคุมน้ำเสียให้ดี อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เพราะภูมิประเทศของประเทศไทย "ยังให้" ใช้คำว่า "ยังให้" แปลว่ายังเหมาะสมกับการดำรงชีวิตอยู่ในประเทศนี้ไม่เหมาะ ที่ จะอยู่อาศัย ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่ดีมากสำหรับการตั้งถิ่นฐานแต่ต้องอนุรักษ์ไว้เพื่อป้องกันประเทศไทยที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมไม่ให้กลายเป็นทะเลทราย"
จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่เป็นจุดเริ่มต้นการเคลื่อนไหวของทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันริเริ่มโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนปลูกฝังให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ จาก
นั้นเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๔ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดให้วันที่ ๔ ธันวาคมของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ ๔ ธันวาคมของทุกปีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรงจะประสานงานกับกรมหรือองค์กรต่างๆในการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ทุกคนเห็นความสำคัญของวันสิ่งแวดล้อมไทย
นอกจากนี้ ในปี ๒๕๕๐ ได้กำหนดให้วันที่ ๔ ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันอาสาสมัครรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” หรือ “วัน DMC แห่งชาติ” โดยมีอีกคำเรียกหนึ่งว่า “วันอาสาสมัครรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจิตอาสารักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านในการร่วมพลังประชาชนเพื่อสร้างสรรค์ความดีเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชาติ
Your privacy is important to us. We need your data just for the important process of services. Please allow if you accept the term of privacy comply with PDPA Read term and privacy policy Allow