คอกช้างเผือก
เผยแพร่เมื่อ 17-08-2018 ผู้ชม 1,275
[-, -, คอกช้างเผือก]
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่เชิงเขาด้านทิศตะวันตกของอำเภอแม่สอด บนฝั่งแม่น้ำเมย ในเขตอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ประวัติความเป็นมา
สันนิษฐานว่า เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นสำคัญในสมัยกรุงสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ตามเกล็ดพงศาวดารกล่าวว่าเมื่อมะกะโท (คนเลี้ยงช้างชนชาติมอญ กาลต่อมาได้เป็นขุนวัง) ได้ลักพาเจ้าหญิงพระธิดาของพ่อขุนรามคำแหงหนีไปอยู่กรุงหงสาวดี ต่อมามะกะโทได้รับแต่งตั้งสถาปนาเป็นพระเจ้าแผ่นดินทรงพระนามว่า พระเจ้าฟ้ารั่ว ที่กรุงสุโขทัยในเวลานั้น มีช้างเผือกอยู่เชือกหนึ่งดุร้ายมาก พ่อขุนรามคำแหงจึงทรงเสี่ยงสัตย์อธิษฐานว่า หากช้างเผือกเชือกนั้นเป็นช้างคู่บารมีของกษัติรย์นครใดก็ขอให้บ่ายหน้าไปทางนั้น เมื่อทรงประกอบพิธีเสร็จก็ปล่อยไป ช้างเผือกเชือกนั้นจึงชูงวงเป็นทักษิณาวัตรเปล่งเสียงร้องสามครั้งแล้วบ่ายหน้าออกจากประตูเมืองไปทางทิศตะวันตก พระองค์ทรงทราบทันทีว่าเป็นช้างคู่บารมีของพระเจ้าฟ้ารั่ว (มะกะโท) จึงร่างสาส์นให้ทหารนำไปให้พระเจ้าฟ้ารั่ว แจ้งว่าให้คอยมารับเอาช้างเผือกเชือกนั้น
พร้อมกับให้ทหารสะกดรอยตามเชือกเผือกเชือกนั้นไปจนถึงเชิงเขาแห่งหนึ่งมีแม่น้ำขวางกั้น จึงได้ทรงพะเนียดล้อมไว้และได้ประกอบพิธีมอบกันที่บริเวณนี้
ลักษณะทั่วไป
คอกช้างเผือกนี้เป็นกำแพงก่ออิฐโบกปูนรูปสี่เหลี่ยม ปากคอกกว้าง ๑๕ เมตร เป็นรูปสอบเล็ก ๆ ขนานกันไปทั้งสองด้าน ยาวประมาณ ๕๐ เมตร
หลักฐานที่พบ
คอกช้างเผือก เป็นกำแพงรูปสี่เหลี่ยม
เส้นทางเข้าสู่คอกช้างเผือก
จากอำเภอแม่สอดไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๗ กิโลเมตร แยกขวาจากทางหลวงหมายเลข ๑๐๕ ตรงกิโลเมตรที่ ๘๒-๘๓ เข้าทางลูกรังประมาณ ๓๕ กิโลเมตร ที่ปากทางเข้ามีป้ายเขียนว่าโรงเรียนท่าอาจ และโรงเรียนวังตะเคียน
คำสำคัญ : คอกช้างเผือก
ที่มา : https://www.thai-tour.com/place/tak/maesot/2847
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2561). คอกช้างเผือก. สืบค้น 17 พฤษภาคม 2565, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=824&code_db=610002&code_type=TK007
ตลาดริมเมย หรือ สุดประจิมที่ริมเมย สะพานมิตรภาพไทย-พม่า (ประตูเชื่อมอันดามันสู่อินโดจีน) ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าสายลวด สุดทางหลวงหมายเลข 105 (สายตาก-แม่สอด) เป็นสะพานสร้างข้ามแม่น้ำเมยระหว่างอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กับ เมืองเมียวดีสหภาพเมียนมาร์ (หรือพม่าเดิม) มีความยาว 420 เมตร กว้าง 13 เมตร สร้างเพื่อเชื่อมถนนสายเอเซียจากประเทศไทยสู่สหภาพเมียนมาร์ ตลอดจนภูมิภาคเอเซียใต้ ถึงตะวันออกกลางและยุโรป เป็นประตูสู่ อินโดจีนและอันดามัน แม่น้ำเมย หรือแม่น้ำต่องยิน เป็นเส้นกั้นเขตแดนไทย เมียนมาร์ที่ยาวถึง 327 กิโลเมตร
เผยแพร่เมื่อ 17-08-2018 ผู้เช้าชม 1,300
น้ำพุร้อนแม่ภาษา ตั้งอยู่ใน ตำบลแม่กาษา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก การเดินทางไปน้ำพุร้อนสะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณยี่สิบกว่านาที จากเมืองแม่สอด น้ำพุร้อนแม่กาษา บริเวณโดยรอบบ่อน้ำพุร้อนมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีการปรับปรุงตกแต่งสนามหญ้าและสวนหย่อม มีน้ำพุร้อนให้สำหรับต้มไข่ มีบ่อน้ำแร่ให้แช่เท้า และมีห้องอาบน้ำแร่
เผยแพร่เมื่อ 21-12-2020 ผู้เช้าชม 328
อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 68 สายตาก-แม่สอด มีลักษณะเป็นทางขึ้นเนินที่แปลก คือเมื่อนำรถไปจอดไว้ตรงทางขึ้นเนินโดยไม่ได้ติดเครื่องรถจะไหลขึ้นเนินไปเอง
เผยแพร่เมื่อ 26-01-2021 ผู้เช้าชม 143
เผยแพร่เมื่อ 17-08-2018 ผู้เช้าชม 687
ตั้งอยู่ถนนอินทรคีรี เขตเทศบาลเมืองแม่สอด พื้นที่ตั้งหน้าวัดติดถนนใหญ่ด้านหลังติดลำห้วยแม่สอด สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2328 ภายในวัดมีปูชนียวัตถุโบราณสถาน
เผยแพร่เมื่อ 26-01-2021 ผู้เช้าชม 148
ชมความมหัศจรรย์แห่งองค์พระธาตุที่ตั้งอยู่บนชะง่อนผาสูง โดยมีหินก้อนใหญ่ซึ่งมีฐานคอดกิ่วราวกับจะแยกขาด จากกันวางตัวอยู่บนหน้าผานั้น ซึ่งชาวบ้านต่างพากันขนานนามว่า “เจดีย์หินพระอินทร์แขวน” อีกทั้งหินที่อยู่บนดอยนี้ยังมีสีดำหรือน้ำตาลไหม้ บางคนจึงเรียกพระธาตุองค์นี้ว่า “พระธาตุดอยดินจี่” ซึ่งหมายถึงดินที่ถูกไฟไหม้นั่นเอง ทั้งนี้ ภายในเจดีย์มีพระธาตุประดิษฐานอยู่ ที่เรียกกันว่า “พญาล่อง” ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของ ชาวจังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียง และในบริเวณวัดพระธาตุฯ ยังมีเรือโบราณที่มีอายุประมาณ 200 ปี พบเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2539 โดยชาวบ้านวังตะเคียนได้ช่วยกันกู้ขึ้นมาเก็บรักษาไว้ที่เชิงดอยดินจี่เรือลำนี้เป็นเรือขุดจากไม้ซุงทั้งต้น กว้าง 126 เมตร ยาว 13.35 เมตร สูง 0.52 เมตร หนา 0.04 เมตร ส่วนหัวเรือและท้ายเรือมีความยาวเท่ากัน ประมาณ 1.20 เมตร ภายในเรือมีช่องสำหรับสอดไม้กระดานเพื่อทำเป็นที่นั่งจำนวน 4 ช่อง โดยมีระยะห่างไม่เท่ากัน ซึ่งจากรูปและขนาดของเรือ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรือที่ใช้ในการขนส่งอาหารหรือสินค้าระหว่างทั้งสองฝั่งแม่น้ำเมย ไม่เพียงเป็นความมหัศจรรย์ที่น่าทึ่งเท่านั้น หากเมื่อมองลงมาจากองค์พระธาตุ คุณจะพบทิวทัศน์ที่งดงาม ด้วยความลงตัวแม่น้ำเมยเคียงคู่กับเทือกเขาสลับซับซ้อนในเขตประเทศเมียนมาร์ และด้วยศรัทธาในองค์พระธาตุ ชาวอำเภอแม่สอดและผู้คนฝั่งพม่าจะจัดงานนมัสการพระธาตุหินกิ่วดอยดินจี่ขึ้นเป็นประจำในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
เผยแพร่เมื่อ 17-08-2018 ผู้เช้าชม 1,018
เดินถนนคนเดินกันก็บ่อยแล้ว เดินตลาดสมัยใหม่กันมาก็เยอะเหมือนกัน คราวนี้เราขอเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินตลาดสดกันบ้าง มีโอกาสมาเที่ยวถึงจังหวัดตากทั้งที ตลาดดังที่ห้ามพลาดเลยก็คือ “ตลาดดอยมูเซอ” ริมทางหลวงหมายเลข 105 (แม่สอด – ตาก) ตลาดสดที่รวบรวมผลผลิตทางการเกษตรของชาวไทยภูเขาที่มีดีเกินความคาดหมาย
เผยแพร่เมื่อ 17-08-2018 ผู้เช้าชม 1,216
เป็นอ่างเก็บกักน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภค และผลิดกระแสไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักดีของชาวแม่สอดเพราะว่าถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นสถานที่พักผ่อนได้เลยทีเดียว เนื่องจากมีบรรยากาศดี ด้านทิศตะวันออกจะมองเห็นหุบเขาพะวอ ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน พอตกตอนเย็นก็จะมีประชาชนมาเที่ยวพักผ่อน มาออกกำลังกาย และชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นบรรยากาศดีมาก ชาวแม่สอดของยืนยันกับอีกหนึ่งความประทับใจนี้ จึงอยากให้มาเยี่ยมชมกันด้วย
เผยแพร่เมื่อ 21-12-2020 ผู้เช้าชม 315
สถานที่ตั้งวัดโพธิคุณก่อนปีพุทธศักราช 2523 ยังเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่เคยมีที่พักสงฆ์ สำนักสงฆ์ หรือวัดมาก่อนเลย มีประชาชนในตัวอำเภอแม่สอดมาจับจองแผ้วถางทำไร่พืชผักผลไม้อยู่ 5 เจ้าของด้วยกัน ประชาชนหมู่ที่ 6 ตำบลแม่ปะเป็นชาวพุทธทั้งสิ้น เพราะมีร่องรอยที่จะทำเป็นที่พักสงฆ์อยู่ทั้งที่บ้านห้วยหินฝนและบ้านห้วยเตย (เรื่องชื่อบ้านนั้นเอาไว้เล่าในเรื่องสันติเกนิทาน ) แต่ไม่มีพระภิกษุ-สามเณรมาอยู่ประจำ ทั้งนี้ทั้งนั้นยากแก่การสันนิษฐาน แต่พออนุมานได้ว่า อาจเป็นเพราะสถานที่ตรงนี้ขณะนั้นยังมีไข้ป่า เช่น ไข้มาลาเรียชุกชุมก็เป็นได้ และชาวบ้านโดยรวมมีความเป็นอยู่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์นัก ส่วนมากมีอาชีพรับจ้างและหาของป่ายังชีพกันตามมีตามได้ และความเป็นอยู่ก็กระจัดกระจายเปลี่ยนแปลงโยกย้ายกันอยู่ตามที่ที่จับจองห่างๆกัน ไฟฟ้าไม่มีใช้ น้ำกินน้ำใช้ก็อาศัยน้ำตามลำธาร ยังไม่มีระบบการบริหารและจัดการให้เป็นองค์รวมอย่างมีกฎเกณฑ์เหมือนอย่างเป็นหมู่บ้านแล้วในปัจจุบันนี้
เผยแพร่เมื่อ 17-08-2018 ผู้เช้าชม 960
น้ำตกธารารักษ์ หรือน้ำตกผาชัน อยู่ในเขตบ้านเจดีย์โคะ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตามธรรมชาติเป็นน้ำตกขนาดเล็กมีชั้นเดียว มีลักษณะเป็นน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาหินปูนสูงประมาณ 30 เมตร น้ำตกแห่งนี้มีลักษณะพิเศษคือมีเจดีย์อยู่ข้างตัวน้ำตก ในบริเวณนั้นเป็นเทือกเขาไม่สูงนัก ด้านหน้ามีหนองน้ำซึ่งเด็กในพื้นที่จะไปเล่นน้ำกันที่นี่ เนื่องจากเป็นที่ค่อนข้างโล่งกว้าง และมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ใต้น้ำตกจึงมีลมเย็นๆ พัดตลอดน่าเป็นที่พักผ่อน นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปดูเจดีย์บนยอดเขาได้ โดยการขับรถไปตามทางหลวงห่างจากน้ำตกประมาณ 700 เมตรจะมีทางเข้าไปตามถนนผ่านหมู่บ้านเจดีย์โค๊ะ ลัดเลาะไปตามไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน แล้วเลี้ยซ้ายเข้าไปตามป้ายจะมีบอก หรือไม่ก็ถามชาวบ้านละแวกนั้นดู ไปได้ไม่ยาก เมื่อมาถึงบนยอดเขาแล้วจะเห็นเจดีย์ตั้งตระหง่าน พร้อมด้วยเส้นทางไปดูต้นทางของน้ำตกได้
เผยแพร่เมื่อ 21-12-2020 ผู้เช้าชม 597