ในหลวงกับการเสด็จกำแพงเพชร ครั้งที่ 1 เสด็จบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรฯ”
เผยแพร่เมื่อ 18-02-2020 ผู้ชม 2,320
[16.3937891, 98.9529695, ในหลวงกับการเสด็จกำแพงเพชร ครั้งที่ 1 เสด็จบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรฯ”]
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช “ ในหลวง” ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สดุในโลก ได้ทรงอุทิศพระวรกายพระราชหฤทัย และพระสติปัญญา บำเพ็ญพระราชกรณียกิจทั้งปวง เพื่ออาณาประชาราษฎร์ของพระองค์อย่างมากมายมหาศาล จนยากยิ่งที่จะหาพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกมาเทียบเคียงได้ ดังนั้นในโอกาสมหามงคล จึงขอนำเรื่องราวแห่งความปลื้มปิติมาน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อชาวกำแพงเพชรด้วยการเสด็จถึง 3 ครั้ง ตลอดระยะเวลากว่า 69 ปีที่ครองราชย์ เป็นช่วงเวลาที่พระองค์ทรงงานอย่างไม่เคยว่างเว้น และทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่พร้อมทั้งความบริสุทธิ์และบริบรูณ์ตลอด 69 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นช่วงเวลาที่พสกนิกรชาวไทยอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุขภายใต้ร่มพระ พระราชกรณียกิจทั้งหลายที่พระองค์ทรงบำเพ็ญ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ที่พระองค์ทรงมีตอ่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จพระราชดำเนินเมืองกำแพงเพชรเพื่อทรงประกอบพระราชกรณียกิจและทรงเยี่ยมราษฎรถึง 3 ครั้ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ยังคงประทับตราตรึงอยู่ในจิตของปวงชนชาวกำแพงเพชรอยู่มิเสื่อมคลาย พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จพระราชดำเนินในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร มีดังนี้
ครั้งที่ 1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จในพื้นที่ของจังหวัดกำแพงเพชร โดยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลและบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ บริเวณวังโบราณในเขตอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2510 เนื่องในวันคล้ายทรงกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราช ในการเสด็จเมื่อครั้งนั้น ทั้งสิงพระองค์ทรงได้ปลูกต้นสักเอาไว้ที่หน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร (ปัจจุบันเป็นที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชร) ซึ่งต้นสักทั้ง 2 ต้นได้เจริญงอกงามเป็นอนุสรณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณอยู่จนทุกวันนี้
ความเป็นมาของการเสด็จทรงบำเพ็ญพระราชกุศลและบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชดำริว่า การเสด็จไปถวายราชสัการถวายบังคม ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์เพียงแห่งเดียว ยังไม่เป็นการเพียงพอ ด้วยสมเด็จพระนเรศวรนั้นได้ทรงประกอบพระมหาวีรกรรมไว้ใหญ่หลวงนัก ได้ทรงกอบกู้เอกราชและนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ชาติบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎร ซึ่งยังเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาติไทยอย่างเหลือล้น จึงสมควรที่จะได้เผยแพร่พระราชกฤษฏาภินิหาร เทิดทูนพระเกียรติคุณโดยกตัญญูตาธรรมให้ยิ่งขึ้น ทรงพระราชดำริว่าไม่มีทางใดที่จะดีกว่าเสด็จฯ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลบวงสรวงอุทิศส่วนพระราชกุศลถวายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และบรรดาบรรพชนชาวไทยในอดีตที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเป็นชาติพลี ณ สถานที่ต่าง ๆ อันเป็นที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เคยประทับ ได้เคยทรงประกอบพระวีรกรรม ได้เคยชุมนุมทัพหรือได้เคยกรีฑาทัพผ่าน ดังนั้นในวันที่ 24 มกราคม 2510 พระองค์ท่านจึงได้เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ บริเวณพระราชวังโบราณในเขตจังหวัดกำแพงเพชรด้วย เพราะเมืองกำแพงเพชรเคยเป็นสถานที่ตั้งทัพหลวงของพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช การเสด็จพระราชดำเนินเมืองกำแพงเพชรในครั้งนั้น ได้มีพสกนิกรชาวกำแพงเพชรหลายท่านได้เข้าเฝ้าในหลวงอย่างใกล้ชิด หนึ่งในนั้นคือ คุณยายสุรีย์ โสภณโภไคย อายุ 77 ปี ที่ให้ข้อมูลแห่งความปลื้มปิติแก่หนังสือพิมพ์ข่าวสดว่า เคยเข้าเฝ้าในหลวงและได้ถวายพระพุทธรูปทองคำปางสุโขทัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะเสด็จฯ เยี่ยมราษฏรที่จังหวัดกำแพงเพชรเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2510 ในครั้งนั้นคุณยายสุรีย์ ยังมีอายุ 37 ปี เดิมอยู่ที่อำเภอคลองขลุง เปิดร้านขายทองและขายหนังสือพิมพ์ ก่อนวันที่ในหลวงเสด็จฯ ประมาณ 7 วัน ท่านผู้ว่าฯ ร.ต.ท. ปิ่น สหัสสโชติ ได้เรียกไปบอกว่าในหลวงจะเสด็จฯกำแพงเพชรเป็นครั้งแรก เห็นว่ามีพระดีก็เลยให้นำไปทูลเกล้าฯ ถวาย และมาคิดว่าจะทูลเกล้าฯ ถวายในหลวงทั้งทีจะเป็นพระองค์เล็ก ๆ ก็คงไม่ค่อยจะงาม พอดีที่บ้านมีพระพุทธรูปทองคำปางสุโขทัย สูงประมาณหนึ่งคืบ เลยนำมาถวายแก่พระองค์ท่าน ตอนที่นั่งทูลเกล้าฯ ถวายพระพุทธรูป พระองค์ท่านหยิบพระขึ้นมาดูแล้วก็บอกว่าพระพุทธรูปทองคำเหรอ ก็ตอบว่า เพคะ ท่านก็ตรัสว่า ลูกขึ้นยืนเถอะ แล้วท่านตรัสถามว่าเอามาถวายไม่เสียดายหรือ ยายก็ตอบว่าไม่เสียดายเพคะ เต็มใจและก็ปลื้มในที่ได้ถวาย ท่านก็ยิ้มและตรัสว่า พระอะไรของกำแพงเพชรที่เรียกว่าพระซุ้มกอ ยายก็ทำมือวาดเป็นตัว ก.ไก่ และบอกว่ามีพระอยู่นัว ก. ไก่ เลย เรียกว่าพระซุ้มกอ และในวันนั้นก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระพระสมเด็จนางพระพญา แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถอีกด้วย หลังจากครั้งนั้น คุณยายสุรีย์ยังได้มีโอกาสถวายพระซุ้มกอเลี่ยมทองและพระกำแพงเขย่งแด่พระองค์ท่านในการเสด็จฯมาครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 อีกด้วย
คำสำคัญ : ในหลวงเสด็จกำแพงเพชร
ที่มา : กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร. (2557). ประวัติศาสตร์เมืองกำแพงเพชร ยุคหิน-ปัจจุบัน (เรียบเรียงจากการสัมมนาและทบทวน เมื่อวันที่ 27-28 กันยายน 2557). กำแพงเพชร: กองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร.
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2563). ในหลวงกับการเสด็จกำแพงเพชร ครั้งที่ 1 เสด็จบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรฯ”. สืบค้น 15 กุมภาพันธ์ 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=1285&code_db=610001&code_type=01
Google search
มีหลักฐานจากการตรวจค้นและศึกษาข้อมูลของจิตร์ ภูมิศักดิ์ ได้พบว่าเมืองไตรตรึงษ์ยังคงมีสภาพเป็นบ้านเมืองแต่อาจลดขนาดเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ ต่อมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ดังหลักฐานที่พบรายชื่อเมืองในจารึกวัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์) ซึ่งจารึกไว้ในคราวซ่อมแซมวัดครั้งใหญ่ระหว่าง พ.ศ. 2374-2381 สมัยรัชกาลที่ 3 โดยมีใบบอกเมืองขึ้นของเมืองกำแพงเพชร (เมืองโท) ว่ามี 5 เมือง คือ เมืองโกสามพิน 1 (น่าจะหมายถึงเมืองโกสัมพี) เมืองบงการบุรี 1 (ไม่รู้ว่าเป็นเมืองใด) เมืองโบราณราช 1 (ไม่รู้ว่าเป็นเมืองใด) เมืองนาถบุรี 1 (ไม่รู้ว่าเป็นเมืองใด) เมืองไตรตรึงษ์ 1
เผยแพร่เมื่อ 02-03-2020 ผู้เช้าชม 1,281
สมเด็จพระไชยราชาธิราช เป็นพระโอรสของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ต่างพระมารดาของสมเด็จพระบรมหน่อพุทธางกูร ซึ่งพระมารดานั้นเป็นเชื้อสายราชวงศ์เชียงราย ได้รับแต่งตั้งเป็นพระไชยราชา ตำแหน่งพระมหาอปุราชาครองเมืองพิษณุโลก ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2077 พระชนมายุ 19 พรรษา ได้ยกทัพจากเมืองพิษณุโลกเข้ายึดอำนาจจากสมเด็จพระรัษฎาธิราชกุมาร พระนัดดา ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา ทรงพระนามว่า สมเด็จพระไชยราชาธิราช เหตุการณ์ในรัชสมัยของสมเด็จพระไชยราชาธิราชที่เกี่ยวข้องกับเมืองกำแพงเพชร ปรากฎหลักฐานจากพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2020 ผู้เช้าชม 8,848
เมืองโบราณเทพนคร ตำบลเทพนคร อำเภอเมือง ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง ตรงกันข้ามกับเมืองโบราณนครไตรตรึงษ์ เมืองเทพนครเป็นชุมชนโบราณมีคูน้ำและคันดินล้อมรอบชั้นเดียว เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างประมณ 800 เมตร ยาวประมาณ 900 เมตร แนวคัดดินและคูเมืองถูกทำลายไปเกือบหมด เหลือพอเห็นบ้างทางทิศตะวันออกเท่านั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกไถปรับระดับเพื่อเกษตรกรรมหมด
เผยแพร่เมื่อ 11-03-2020 ผู้เช้าชม 3,882
กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมิ จากพงศาวดารโยนก ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม 7 หน้า 435-436 กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมิ ได้เรียงลำดับไว้ว่า ลำดับที่ 6 พระยากาแต เชื้อนเรศร์หงสา ลำดับที่ 7 อู่ทอง มาแต่เชลียง ลำดับที่ 8 ขุนหลวงพะงั่ว ลำดับที่ 7 อู่ทอง มาแต่เชลียง ซึ่ง “เชลียง” ก็หมายถึงเมืองกำแพงเพชรนั่นเอง เรื่อง “อธิบายรัชกาลครั้งกรุงเก่า” ซึ่งเป็นพระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ในหนังสือประชุมพงศาวดารฉบบักาญจนาภิเษก เล่ม 1 หน้า 356 ได้กล่าวถึงความเกี่ยวข้องของสมเด็จพระบรมราชาธิราช (หลวงพะงั่ว) กับสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ไว้ว่า...
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2020 ผู้เช้าชม 17,547
เทศนาจุลยุทธการวงศ ์ พระเจ้าศิริไชยเชียงแสน (บุรุษแสนปม) ได้ทรงสร้างเมืองเทพนคร เมื่อจุลศักราช 681 (พุทธศกัราช 1862) ในช่วงระยะที่ยังไม่พบเมืองเทพนครนั้น นักประวัติศาสตร์จึงยังไม่เชื่อว่าเรื่องราวในเทศนาจุลยุทธการวงศ์เป็นความจริง เป็นเพียงตำนานที่เล่ากันต่อมา ในคราวหลังพบหลักฐานทางโบราณคดี มีเมืองไตรตรึงษ์และเมืองเทพนครเกิดขึ้นจริง ดังผังเมืองโบราณและภาพถ่าย ซึ่งกรมศิลปากรได้ทำบัญชีทะเบียนทรัพย์สินด้านโบราณสถาน จังหวัดกำแพงเพชรไว้
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2020 ผู้เช้าชม 3,238
เมืองไตรตรึงษ์เป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่อีกเมืองหนึ่งของจังหวัด กำแพงเพชรพบหลักฐานแสดงว่าเป็นเมืองเก่าในสมัยทวารวดีต่อเนื่องมาถึงสมัยสุโขทัย ดังหลักฐานวัตถุโบราณจากการขุดค้นภายในบริเวณเมืองพบเศษภาชนะ ดินเผา ตะกรันขี้เหล็กจ้านวนมาก พบตะเกียงดินเผาสมัยทวาราวดี จึงสันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะพัฒนามาตั้งแต่สมัยทวารวดีหรือก่อนหน้านั้น
เผยแพร่เมื่อ 02-03-2020 ผู้เช้าชม 1,718
มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า พญาลิไท กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย เมื่อขึ้นครองราชย์ ณ กรุงสุโขทัย บรรดาหัวเมืองต่างๆ พากันแข็งเมือง ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจของพญาลิไท เช่น เมืองบางพาน เมืองคณฑี เมืองนครชุม พญาลิไท จึงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรงนำพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ มาจากประเทศศรีลังกา มาแสดงความเป็นไมตรี เมื่อเมืองนครชุมรับไมตรี พญาลิไท จึงนำพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์พระบรมธาตุนครชุม ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์
เผยแพร่เมื่อ 16-04-2020 ผู้เช้าชม 2,473
ในกำแพงเพชรมีเรื่องเล่าขาน ถึงพระบรมสารีริกธาตุ ขนาดเท่าผลส้มเกลี้ยงสุกสว่าง ลอยวนไปมาเหนือพระเจดีย์ อยู่หลายแห่ง อาทิเจดีย์วัดวังพระธาตุ เจดีย์วัดเสด็จ (ปัจจุบันเหลือแต่ฐาน) เจดีย์วัดกะโลทัย เจดีย์วัดพระบรมธาตุ และเจดีย์วัดบ้านธาตุ มีเรื่องเล่าว่า ในวันเดือนมืดสนิท จะมีดวงไฟขนาดใหญ่ออกจากพระเจดีย์ดังกล่าว ลอยทักษิณาวรรต ๓ รอบ ณ พระเจดีย์แล้ว ทุกดวงจะเสด็จมาที่เจดีย์วัดพระบรมธาตุ แสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นบ่อยครั้ง
เผยแพร่เมื่อ 17-04-2020 ผู้เช้าชม 1,630
ในหนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลกัษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดกำแพงเพชร หน้า 31 ได้กล่าวถึง เมืองโบราณบริเวณลุ่มแม่น้ำปิง ซึ่งมีการค้นพบและพอมีหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นเมืองเก่าแก่มาช้านาน คือ เมืองแปบ เมืองเทพนคร เมืองไตรตรึงษ์ เมืองพาน เมืองคณฑี เมืองนครชุม เมืองชากังราว เมืองพังคา เมืองโกสัมพี เมืองรอ เมืองแสนตอ เมืองพงชังชา และบ้านคลองเมือง ซึ่งล้วนตั้งอยู่อาณาเขตจังหวัดกำแพงเพชรทั้งสิ้น และในหนังสือเรื่องเล่มเดียวกันนั้นในหน้า 37-38 ได้กล่าวถึงเมือง 2 เมืองว่าเป็นเมืองในสมัยทวารวดี คือเมืองไตรตรึงษ์ และเมืองโบราณที่บ้านคลองเมือง
เผยแพร่เมื่อ 18-02-2020 ผู้เช้าชม 4,792
ในหนังสือพระราชพงศาวดาร ฉบับ รศ. 125 ซึ่งดำเนินเรื่องตามต้นพระราชพงศาวดารได้กล่าวไว้ดังนี้ “เดิมพระเจ้าแผ่นดินพระองค์หนึ่งครองราชย์สมบัติอยู่ ณ เมืองเชียงรายโยนกประเทศ เป็นพระนครใหญ่ มีพระเจ้ามหาราชพระองค์หนึ่ง ครองราชย์สมบัติอยู่ ณ เมืองสตอง ยกกองทัพมาตีเมืองเชียงรายได้ทำสงครามแก่กัน พระเจ้าเชียงรายพ่ายแพ้เสียเมืองแก่พระยาสตอง จึงกวาดครอบครัวอพยพชาวเมืองเชียงราย หนีข้าศึกลงมายังแว่นแคว้นสยามประเทศนี้ ข้ามแม่น้ำโพมาถึงเมืองแปปเป็นเมืองร้าง อยู่คนละฟากฝั่งกับเมืองกำแพงเพชร
เผยแพร่เมื่อ 02-03-2020 ผู้เช้าชม 2,408