นกเงือก นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของรักแท้ ยังเป็นนักปลูกป่ามือฉมัง เป็นกลไกสำคัญตามกระบวนการทางธรรมชาติในการขยายพันธุ์พืช และสร้างความหลากหลายให้กับป่าใหญ่ มูลนิธิศึกษาวิจัยนกเงือก คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ทำงานด้านการอนุรักษ์นกเงือก ต้องการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชน และทำให้เห็นคุณค่าของงานอนุรักษ์ จึงได้กำหนดให้วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น วันรักนกเงือกโดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา
นกเงือก (Hornbills) เป็นสัตว์โบราณถือกำเนิดมาเมื่อประมาณ 50-60 ล้านปี มีจุดเด่นตรงจะงอยปากหนาที่ใหญ่ รวมทั้งมีโหนกทางด้านบนเป็นโพรง ซึ่งภายในโพรงมีเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำ เนื่องจากธรรมชาติของนกเงือกมีลิ้นที่สั้น เราจึงมักได้เห็นภาพการกินอาหารของพวกมันโดยการจับอาหารอยู่ที่ส่วนปลายปากแล้วโยนกลับลงคอ อาหารหลักๆ ของนกกลุ่มนี้ คือ ผลไม้ และสัตว์เลื้อยคลานเล็กๆ
ลักษณะของตัวนกจะมีทั้งที่มีขนสีดำ-ขาว บางชนิดอาจจะมีสีอื่นๆ บ้าง อย่าง น้ำตาล หรือเทา ส่วนที่ถือว่าฉูดฉาดที่สุดบนตัวนกเงือกจะอยู่ที่บริเวณหนังคอ ไม่ก็ขอบตา มีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่มาก บางชนิดอาจใหญ่ถึง 1.5 เมตร ขณะที่เมื่อกางปีกออกอาจวัดความยาวของปีกได้ถึง 2 เมตร เลยทีเดียว และด้วยความที่มีปีกใหญ่และแข็งแรง เวลานกเงือกบินจึงมักส่งเสียงดัง
จากการศึกษาของนักวิชาการพบว่า นกเงือกทั่วโลกมีอยู่ราว 55 ชนิด สำหรับประเทศไทยพบอยู่ 13 ชนิด ได้แก่