การปลูกกล้วยไข่
เผยแพร่เมื่อ 20-01-2020 ผู้ชม 11,795
[16.4258401, 99.2157273, การปลูกกล้วยไข่]
เราจะปลูกกล้วยไข่กำแพงเพชรให้ได้ผลผลิตที่สูง ลดการลงทุน ด้วยมาตรฐานการส่งออกได้อย่างไรกันนะ แรกสุดเรามาพิจารณาว่าพื้นที่สวนเรามีลักษณะที่กล้วยไข่กำแพงเพชรเติบโตได้ดีไหม สวนเราต้องเป็นที่ดอนหรือที่ราบที่ไม่มีน้ำท่วมขัง ใกล้แหล่งน้ำธรรมชาติ มีดินร่วนหรือดินร่วนเหนียว มีความอุดมสมบูรณ์สูง ระบายน้ำได้ดี หน้าดินลึกมากกว่า 40 เซนติเมตร ระดับน้ำใต้ดินลึกมากกว่า 75 เซนติเมตร ค่าความเป็นกรดด่างของดินระหว่าง 5.5-7.0 มีอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 25-28 องศาเซลเซียล การเตรียมพื้นที่เริ่มที่ "การไถดะ" ด้วยรถไถแล้ว "ตากดิน" ประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพื่อปรับดินและกำจัดวัชพืช
ปลูกเดือนไนอย่างไรดีนะ
ช่วงที่ดีที่สุดคือปลายฤดูฝน ประมาณเดือนสิงหาคมถึงกันยายน ไม่ควรเกินเดือนตุลาคม เพราะจะเป็นช่วงที่ได้รับน้ำฝนจากธรรมชาติ และหลังจาก 6-8 เดือน ก็จะเป็นช่วยให้ผลผลิตที่ตรงกับความต้องการของตลาด วิธีการปลูกเราจะเลือกหน่อจากต้นที่ตัดเครือแล่้ว มีลำต้นแข็งแรงตรงอวบใหญ่และเป็นหน่อที่มีใบแคบ เตรียมปลูกในระยะที่เหมาะสมที่สุดคือ 2x2 หรือ 2x3 เมตร ต้องขุดหลุมกว้าง 50x50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 3-5 กิโลกรัม วางหน่อพันธุ์ที่หลุม จัดวางหน่อพันธุ์ในด้านที่ติดกับต้นแม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน กลบดินลงหลุมปลูกและกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
ต้องปฏิบัติดูแลรักษาอย่างดี
เราจะต้องพรวนดิน ภายหลังปลูกกล้วยไข่ประมาณ 1 เดือน เพื่อกำจัดวัชพืชและให้ดินเก็บความชึ้นจากน้ำฝน ในขณะที่รากกล้วยยังขยายไปไม่มากนัก และตัดหน่อกล้วยที่งอกขึึ้นมาให้ไม่ให้แย่งอาหารจากต้นแม่ที่เรียกว่า "การแต่งหน่อ" เราจะต้องมีการให้ปุ๋ยอินทรย์ใส่ 1 ครั้ง ปุ๋ยที่ดีคือปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ถ้าจะใช้ปุ๋ยเคมีก็สามารถใส่ได้ 4 ครั้ง วิธีการใส่ปุ๋ย ควรห่างจากต้น 30 เซนติเมตร หรือใส่ลงในหลุมเล็ก 10 เซนติเมตร ท้ั้ง 4 ด้าน แล้วพรวนดินกลบ
ภูมิปัญญาที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการปลูกกล้วยไข่กำแพงเพชร คือ "การแต่งหน่อ" หลังจากการปลูกกล้วยไข่สักเดือน กล้วยจะเริ่มทยอยแตกหน่อ หน่อเล็กๆ เหล่านี้จะแย่งน้ำและอาหารจากต้นหลัก ทำให้ผลเล็ก จำนวนหวีน้อย ชาวสวนจะต้องกำจัดหน่อ คือเกิดก่อนเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม โดยการเฉือนโคนหน่อทิ้งติดดิน แต่จะต้องเตรียมหน่อพันธุ์ที่ดีไว้ปลูกในฤดูต่อไป โดยเลือกหน่อที่อวบแข็งแรงไว้ 1 หน่อ หน่อพันธุ์ที่เลือกเป็นหน่อที่งอกประมาณเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน
การให้น้ำในฤดูฝน เมื่อฝนทิ้งช่วงควรรีบให้น้ำ ส่วนในฤดูแล้งจะต้องให้น้ำมากขึ้น เร่ิมให้น้ำตั้งแต่หมดฝน ประมาณเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม ส่วนใหญ่ใช้วิธีสูบน้ำปล่อยเข้าแปลง หรือใช้ระบบน้ำแบบพ่น
การกำจัดวัชพืช ในแปลงกล้วยไข่ทั้งวัชพืชใบแคบและใบกว้าง เกษตรกรชาวสวนกล้วยไข่กำแพงเพชรมักจะใช้แรงงานในการดายหญ้าในแปลงปลูกหรือใช้รถไถ หากมีความจำเป็นต้องใช้สารกำจัดวัชพืชกลุ่มพาราควอท หรือที่รู้จักในชื่อกรัมมอกโซน ใช้ในอัตราที่กำหนดพ่นโดยไม่ให้ถูกใบและลำต้นกล้วยไข่
การเก็บเกี่ยว
จะเป็นวันหลังจากวัดที่ตัดปลี ห่อผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว 30 วันจะได้กล้วยไข่ที่มีคุณภาพสูง ขนาดใหญ่ สีสวย หรือที่เรียกว่า "เกรด A" การเก็บเกี่ยวต้องใช้มีดสะอาดและคมตัดเครือกล้วยไข่ไม่ให้เครือกล้วยสัมผัสพื้นดิน ขนย้ายด้วยพาหนะท่ี่สะอาดและมีวัสดุหนานิ่มรองรับเพื่อไม่ให้กล้วยช้ำ
ลดต้นทุนได้ด้วยหน่อที่สองในการปลูกรุ่นสอง หลังจากตัดหน่อ 1 ให้ผลผลิตโดยการตัดเครือแล้ว เกษตรกรต้องฟันต้นต่อแม่จากดินประมาณ 70 เซนติเมตร เจาะลำต้นบริเวณกลางลำต้นให้เป็นหลุมแบบหลุมขนมครก เพื่อใส่ปุ๋ยสูตรเสมอประมาณ 1 ช้อนแกง เพื่อบำรุงหน่อลูกหรือต้นที่ 2 ส่วนโคนต้นใส่ขี้นกกระทา ประมาณ 3 ขีด ช่วงเร่งให้หน่อลูกเติบโตสร้างปลีดอกหรือลำต้นแข็งแรง ใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-25 ประมาณ 200 กรัม/ต้น จนกล้วยออกปลีใช้เวลาประมาณ 15 วัน
ลูกโต หวีใหญ่ สีสวยทำได้อย่างไร
เมื่อปลีกล้วยคลี่หมด ให้เกษตรกรเลือกหวีที่สมบูรณ์เอาไว้ตัด "หวีเต่า" หรือลูกเล็กทิ้งเหลือหวีกล้วยที่มีคุณภาพประมาณ 5 หวี ตลาดจะต้องการและเรียกว่ากล้วยไข่เกรด A ใช้ถุงฟรอยล์ห่อกล้วย มัดให้แน่นพอสมควร ให้น้ำโคนต้นปกติ
เคล็ดเด็ดพิชิตลมพายุ
ภัยธรรมชาติที่มีปัญหาต่อชาวสวนกล้วยไข่กำแพงเพชร คือ ลมฤดูร้อน ซึ่่งจะมี 2 ครั้ง คือ ลมพายุฤดูร้อนในเดือนมีนาคมถึงเมษายน อันเป็นช่วงที่กล้วยไข่กำแพงเพชรกำลังเจริญเติบโต กับลมพายุฤดูฝนในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน เป็นช่วงที่กล้วยไข่กำลังตกเครือให้ผลผลิต ทำให้เกิดความเสียหายกับสวนกล้วยไข่กำแพงเพชร มีวิธีดังนี้
วิธีแรก "การพูนโคนกล้วยไข่" โดยการโกยดินเข้าสุมโคนกล้วย ช่วยลดปัญหาการโค่นล้มของต้นกล้วย เมื่อมีลมแรง
วิธีที่สอง "การปลูกไม้บังลม" เพื่อบรรเทาความรุนแรงของกระแสลมในสวน ไม้บังลมที่มีคุณลักษณะดีควรจะมีลำต้นชูสูง แต่แข็งแรงระบบรากลึกมั่นคง ไม่คลอนแคลนหรือโค่นล้มง่าย ทรงพุ่มแคบแต่มีใบแน่น มีการเติบโตเร็วไม่ต้องดูแลรักษามากนัก อายุยืนศัตรูโรคแมลงน้อย ไม่บังลมที่ดี ยกตัวอย่างได้เช่น ใผ่รวก
วิธีที่สาม "การค้ำยัน" ในหลายพื้นที่ใช้ไม่ค้ำยัน โดยใช้ไม่ใผ่รวกที่มีลำต้นตรงสูง ประมาณ 4 เมตร ดอกริมลำต้นกล้วยไข่เมื่อเริ่มติดปลีแล้วมัดต้นกล้วยไข่ให้กับกับลำไผ่รวก เป็นการเสริมให้กลำต้นของกล่วยไข่แข็งแรง ไม่หักโค่นง่าย แม้มีการโยกไปตามลม
โรคที่สำคัญของกล้วยไข่กำแพงเพชร ก็คือโรคใบไหม้และโรคใบจุด ที่เกิดจากเชื้อราบางชนิด ทำลายรากและท่อน้ำ ท่ออาหารของกล้วย ทำให้ใบอุดตันมีอาการขาดน้ำ มีสีเหลือง ชงักการเติบโต การรักษาโรคระบาดทางดิน ต้องรักษาความสะอาดโคนกล้วยไข่ไม่ทำให้รก ระบายน้ำดี หากพบอาจต้องมีการเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกพืชชนิดอื่นสัก 2-3 ปี อาจมีการใช้ยาฆ่าเชื่อรา เช่น การราดด้วยแคปแทน 40 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ร่วมด้วย
คำสำคัญ : กล้วยไข่
ที่มา : ศูนย์ภูมิสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น. (2559). กล้วยไข่กำแพงเพชร นวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อการสนับสนุนด้านเกษตรกรรม จังหวัดกำแพงเพชร. กำแพงเพชร: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2563). การปลูกกล้วยไข่. สืบค้น 12 พฤษภาคม 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1278&code_db=610007&code_type=01
Google search
บนถนนเทศา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ตั้งแต่วัดเสด็จขึ้นมาจนถึงการประปากำแพงเพชร มีบ้านเรือนไทยเก่าแก่อายุนับร้อยปีจำนวนมาก เป็นโชคดีของกำแพงเพชรที่บ้านเหล่านี้เหลือจากไฟไหม้ใหญ่ที่กำแพงเพชร เมื่อวันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2506 ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ค.ศ. 1963 เวลาประมาณ 10 น. เกิดไฟไหม้กำแพงเพชรครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ไหม้บ้านเรือนบนถนนเทศาทั้งสายประมาณร้อยหลังคาเรือน
เผยแพร่เมื่อ 06-03-2020 ผู้เช้าชม 1,413
นายยูเล่ง แซ่ม้า อายุ 64 ปี เรียนรู้การตีมีดจากพ่อ พ่อเรียนรู้มาจากปู่ ปู่เรียนรู้มาจากทวด สืบทอดมาแสนนาน เขาเริ่มตีมีดมาตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยการใช้เหล็กแท่งหรือเหล็กแหนบ เป็นวัตถุดิบสำหรับตี เตาที่ใช้ตีมีดเป็นเตาแบบโบราณที่ใช้ปู้หรือไฟสำหรับเป่าให้เหล็กแดง ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนเจาะเข้าไปให้เป็นโพรงเป็นกระบอกสูบและใช้ขนไก่สำหรับเป็นลูกสูบ การสูบเบาแรงมากแทบไม่ต้องออกแรง เพียงดึงเบาๆ ก็ทำให้เกิดลมอัดอย่างแรง ทำให้ไฟลุกอย่างคุโชน ทำให้เหล็กแดง เมื่อได้ที่แล้วจึงนำมาใช้ตี มีเทคนิคการตีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เผยแพร่เมื่อ 27-04-2020 ผู้เช้าชม 1,936
ลักษณะสถาปัตยกรรม บ้านห้างหรือเรือนปั้นหยาประยุกต์สองชั้น ขนาดหน้ากว้าง 20.50 เมตร ลึก 11.50 เมตร มีเรือนประกอบด้านข้างอีกสองหลัง มีนอกชานแล่นกลางขนาดกว้าง 10 เมตร ยาวเกือบ 20 เมตร เชื่อมบ้านสามหลังเข้าด้วยกัน ด้านหลังมีสะพานเชื่อมต่อไปยังครัว และ ห้องน้ำห้องส้วม ห่างจากตัวบ้าน ราว 7 เมตร โครงสร้างทั้งหมดทำด้วยไม้เบญจพรรณ สภาพบ้านรื้อมา (มีเรื่องเล่าขานว่า ซื้อมาจากเรือนพระยารามรณรงค์สงคราม เจ้าเมืองกำแพงเพชร) นำมาปลุกใหม่ แต่ดัดแปลงบางส่วนออกให้เหมาะกับการเป็นสำนักงานห้างค้าไม้
เผยแพร่เมื่อ 05-03-2020 ผู้เช้าชม 1,801
ดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นสิ่งประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุมีลักษณะคล้ายรูปร่างดอกไม้ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากแรงงานฝีมือมนุษย์ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์การผลิต โดยมีการใช้วัตถุดิบการผลิตจากธรรมชาติ หรือวัตถุดิบที่เกิดจากการสังเคราะห์มาผลิตโดยผ่านขั้นตอนการประดิษฐ์ ดัดแปลง อบ ย้อม เผา เคลือบสารเคมี รวมทั้งทำการตกแต่งตัดต่อเติม เพื่อก่อให้เกิดความสวยงาม โดยดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอาจจะมีความเหมือนหรือไม่เหมือนธรรมชาติก็ได้ขึ้นกับวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยคุณสมบัติของดอกไม้ประดิษฐ์ที่สำคัญคือ มีความคงทน ง่ายต่อการเคลื่อนย้ายและดูแลรักษา มีความสวยงาม สามารถนำไปใช้ในการประดับในโอกาสต่างๆ
เผยแพร่เมื่อ 10-04-2020 ผู้เช้าชม 2,669
เป็นเรือนไม้สักพักอาศัย 2 ชั้น ทรงมนิลาประยุกต์หลังคาปั้นหยามีมุขยื่นด้านหน้าประดับไม้ฉลุแบบเรือนขนมปังขิง (เรือนขนมปังขิง เป็นชื่อเรียกอาคารประเภทหนึ่ง ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ซึ่งแพร่เข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 มีการประดับตกแต่ลวดลายฉลุที่วิจิตรพิสดาร หรูหรา สวยงาม เหมือนขนมปังขิง) หลังคามุงกระเบื้องดินเผาทางเข้าหน้าบ้านและหน้าเรือนที่เฉลียงมีซุ้มประตู ตัวเรือนยกพื้นสูงเกือบ 2 เมตร
เผยแพร่เมื่อ 05-03-2020 ผู้เช้าชม 1,841
พระเครื่องของจังหวัดกำแพงเพชรมีชื่อเสียงในด้านความสง่างามด้วยศิลปะอันเกิดจากประติมากรรมของสกุลช่างกำแพงเพชร ในอดีตมีผู้ค้นพบกรุพระพิมพ์หรือที่เรียกกันในปัจจุบันว่า “พระเครื่อง” บริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ที่ถูกปล่อยให้รกร้างเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นจุดกำเนิดของกรุพระเครื่องตระกูลทุ่งเศรษฐี รวมถึงได้มีการพบตำนานการสร้างพระพิมพ์ซึ่งจารึกในแผ่นลานเงินรวมอยู่ในกรุที่ถูกค้นพบ ทำให้คนรุ่นหลังได้ทราบถึงตำนานความเป็นมาของพระเครื่องนครชุมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ด้วยเหตุนี้กำแพงเพชรจึงกลายเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในด้านพระเครื่อง
เผยแพร่เมื่อ 16-04-2020 ผู้เช้าชม 3,160
ตาลถูกกล่าวขานเปรียบเทียบในวรรณกรรมมาช้านาน ตาลจึงเป็นพืชที่ชาวไทยรู้จักเป็นอย่างดีและนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางและเหมาะสม ทุกส่วนของตาลล้วนนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ตาลโตนด เป็นต้นไม้ตระกูลเก่าแก่ มีมากกว่า 4,000 ชนิด ขึ้นอยู่ทั่วประเทศไทย มีอายุยืนนับร้อยๆ ปี นักชีววิทยามีความเห็นว่า ตาลโตนดมีถิ่นกำเนิดทางฝั่งตะวันออกของอินเดีย ขยายไปสู่ศรีลังกา สหภาพเมียนม่าร์ ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา ในประเทศไทยพบมากที่จังหวัดเพชรบุรี สุพรรบุรี นครปฐม มีปลูกมาก่อนสมัยทวารวดี ตาดโตนดเป็นพืชตระกูลปาล์มพัด มีชื่อหลายชื่อด้วยกัน เช่น ตาลใหญ่ ตาลนา ภาคเหนือเรียก ปลีตาล ภาคใต้เรียกโนด เขมรเรียกตะนอย ตาลโตนดที่พบในจังหวัดกำแพงเพชร มี 3 สายพันธุ์
เผยแพร่เมื่อ 10-04-2020 ผู้เช้าชม 4,250
การตีผึ้งเป็นอาชีพที่สำคัญในอดีตของชาวกำแพงเพชร การตัดหวาย การตักยาง การตีผึ้ง การทำยาสูบถูกบันทึกไว้ในวรรณกรรมทุ่งมหาราช ของครูมาลัย ชูพินิจ นับว่าเป็นวิถีชีวิตของคนกำแพงเพชร แต่ในปัจจุบันเราจะไม่เห็นการตีผึ้งหลวงได้ง่ายนัก เพราะขาดผู้ที่ชำนาญการในการตีผึ้ง แต่เราก็โชคดีที่พบกับหนุ่มสมชาย ภู่สอน ผู้ยึดอาชีพตีผึ้งมากว่าสิบปี เมื่อเดินมาที่สวน พบผึ้งหลวงรังขนาดใหญ่ อยู่บนต้นกระท้อน หนุ่มสมชายเริ่มต้นทำคบไฟเพื่อจุดเป็นควันเพื่อให้ผึ้งเมาขณะตี และไม่สามารถต่อยเขาได้ เริ่มเอาควันเข้าไปลนที่รังผึ้งหลวง ผึ้งแตกรังบินว่อนเต็มท้องฟ้า เมื่อผึ้งหนีไปหมดแล้ว ได้ใช้มีดปาดรังผึ้งหลวงลงมา เพื่อนำมาคั้นเอาน้ำผึ้งมาใช้ประโยชน์ต่อไป
เผยแพร่เมื่อ 10-04-2020 ผู้เช้าชม 4,372
ริมถนนเทศา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นับแต่วัดเสด็จขึ้นมา มีบ้านเรือนไทยอยู่มากมาย แต่ละหลังอายุไม่ต่ำกว่าร้อยปี รอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งใหญ่ในกำแพงเพชร เมื่อเดือนเมษายน 2506 ทางด้านซ้ายมือ เมื่อขึ้นมาทางเหนือ ตามถนนเดินรถทางเดียว พบบ้านสามหลังต่อเนื่องกันยาวเหยียดลงในในสวนหลังบ้าน บ้านแต่ละหลังล้วนมีสถาปัตยกรรมเป็นของตนเอง หาชมที่อื่นใดไม่ได้อีกแล้ว
เผยแพร่เมื่อ 06-03-2020 ผู้เช้าชม 1,867
แคนหรือเก้งชนเผ่าม้ง ดนตรีชาวเขาเผ่าม้ง ไพเราะแว่วมาอย่างโหยหวน แสดงความสูญเสีย ที่สลับซับซ้อน ชาวม้ง เรียกดนตรีชิ้นนี้ว่า เก้ง คนพื้นราบเรียกกันว่า แคน แต่เดิมดนตรีที่เรียกว่าเก้งใช้ในการเป่าเพื่อส่งวิญญาณของผู้ตาย เมื่อได้ยินเพลงจากแคน แสดงถึงมีการตาย มีการลั่นกลองประกอบ เมื่อมีการตายชาวม้งต้องนำศพไปฝังบนเขาผู้นำขบวนจะเดินเป่าแคนเพื่อส่งวิญญาณไปสวรรค์ จากการสัมภาษณ์ นายหวั่งเซ้ง จังเจริญกุล ชาวเขาเผ่าม้ง อายุ 63 ปี มีอาชีพทำแคนขายท่านเล่าให้ฟังว่า ดนตรีประจำชาวเขาเผ่าม้งที่สำคัญ คือ แคนหรือเก้ง ใช้เป่าเพื่อส่งวิญญาณผู้ตายไปสู่สวรรค์
เผยแพร่เมื่อ 24-04-2020 ผู้เช้าชม 6,169