วิีธีการศึกษาพระเนื้อดิน
เผยแพร่เมื่อ 14-08-2019 ผู้ชม 45,660
[16.4733496, 99.5203839, วิีธีการศึกษาพระเนื้อดิน]
วิธีการศึกษาพระเนื้อดิน โดยเฉพาะพระซุ้มกอ ก่อนอื่นท่านต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพระเนื้อดินนั้นปลอมง่าย เพราะมวลสารทำจากดินหาได้ง่ายๆ ทั่วๆ ไป ท่านจะเอาดินแบบไหนก็แสวงหาได้ง่าย การทำปลอมก็ทำง่าย จะทำคนเดียว/ทำเป็นกลุ่ม/ทำกันสองสามคน/ทำเป็นทีม เหล่านี้ทำได้ทั้งนั้น ทำสองสามคนจะดีเพราะช่วยถอดแบบเเกะแม่พิมพ์ได้ ดังนั้นพระเนื้อดินจึงปลอมได้ง่ายสุดๆและดินก็มีหลากหลายชนิด มันอยู่บนโลกใบนี้นับล้านๆ ปี มาแล้ว ผู้แสวงหาก็ปลอมได้แนบเนียน และดูเก่าจริง การเล่นพระเนื้อดินผู้เขียนว่าการเผานั้นไม่น่าจะเรียกกันน่าจะเรียกว่าการสุ่มไฟมากกว่า เพราะพระองค์เล็กๆไม่ใช่ตุ่มน้ำ/จานชามที่จะมาสร้างเตาไฟกัน พระหลักหมื่นหลักแสนก็กองนิดเดียว ไม่ใช่กองโตเลย สุ่มไฟก็เพื่อให้พระคงทนไม่แตกหักง่ายๆ การทำพระก็ต้องผสมน้ำว่านเพราะช่วยการรักษาพระให้คงทนไม่แตกรานเปาะหักง่าย คนโบราณนิยมเรื่องว่านกันมานานแล้ว แม้แต่เอามาใช้กับคนก็ทำกันเพื่อให้เนื้อหนังคงทนอาวุธ เห็นไหมละความเก่งของคนยุคก่อน
พระซุ้มแกะนั้นอย่าไปใฝ่ใจให้มากเพราะถ้าจะแกะกันจริงๆ ก็คงไม่กี่สิบองค์ เซียนยุคก่อนชอบแหกตาคนเล่นพระโดยหวังผลจะได้พระนั้นจากชาวบ้าน ดังนั้นอย่าไปเชื่อพวกเซียนนี้ พวกนี้เลวมากๆทำเอาพระแท้เสียมวยมาเยอะแล้ว เพราะถูกหลอกเอาไปกินจากเซียนพระพวกนี้ วลีที่ว่ามึงมีกูแล้วไม่จนก็อย่าไปใฝ่ใจเพราะคนยุคก่อนไม่ได้สร้างพระไว้ขาย อย่าเชื่อเพราะถ้าท่านเชื่อแสดงว่าภูมิปัญญาท่านต่ำ สมควรแล้วที่ถูกหลอกง่ายๆ อันนี้ก็เป็นไม้เด็ดของพวกเซียนขายพระอีกเช่นเคย อย่าเชื่อว่าวลีนี้จะมีบันทึกไว้ในแผ่นโบราณ ถ้ามีก็แปลว่าปลอมอีกเช่นกัน เซียนพระนี้มันเก่งจริงเรื่องแหกตาคน
ถ้าท่านชอบพระเนื้อดินพระกรุ ให้ท่านยึดหลักการเล่น ดังนี้
1. ให้ดูลายพิมพ์กนกพระ ลายกนกพระท่านต้องอ่านให้ออกว่าเป็นฝีมือคนเก่งยุคก่อน คนยุคปัจจุบันทำไม่ได้แบบนั้น พระทางภาคเหนือจะแสดงออกถึงฝีมือ เช่นพระรอด/พระคง/พระบาง/พระเปิม คนภาคเหนือเก่งด้านฝีมือ แม้ปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ ดูตัวอย่างวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัยเป็นต้นแสดงออกถึงฝีมือ ท่านเข้าใจเรื่องลายกนกไหม ไปสนใจและศึกษาซะ
2. ดูเรื่องเนื้อดิน ดินต้องมีส่วนผสมของน้ำว่าน จะถูกสุมไฟหรือเนื้อดินดิบก็ตาม บางองค์เนื้อละเอียดเพราะกรองมาดี บางองค์เนื้อหยาบแต่ต้องมีกรวดทรายเก่าไม่คมแต่ขุ่น สายตาบอกว่าเก่าแน่นอน ต้องมีลอยย่นของคราบน้ำดิน แบบคราบน้ำลดบนชายหาดทรายดูเป็นรอนๆ
3. อย่าสนใจเรื่องการชี้ตำหนิเกินควรเพราะไม่ได้ทำด้วยเครื่องจักร หายๆแหว่งๆไม่เป็นไร
4. เพราะเป็นพระกรุ ดังนั้นต้องมีขี้กรุ พระไม่มีขี้กรุอย่าเล่นแต่ถ้านึกชอบจะเล่นต้องราคาถูกๆ เอาแค่หลักร้อยก็พอ พระกรุต้องมีขี้กรุไม่งั้นจะเรียกพระกรุได้อย่างไร ขี้กรุต้องศึกษาอันนี้ใช้เวลาและประสบการณ์นะครับไม่ใช่อ่านแล้วเข้าใจเลย ความเป็นธรรมชาติของมันเองสีคราบกรุ ความแห้ง ความมันงามเมื่อปราดด้วยสำลีหรือขนแปรงภูกัน
5. พระกรุภายในต้องเป็นฟองอากาศ หย่อนลงน้ำร้อนฟองอากาศจะพุ่งเป็นสายๆ
6. พระต้องมีเสียงกังวาลบ้างเมื่อกระทบโลหะ ไม่หนึกๆ หนักๆ เพราะแสดงว่าไม่เก่าจริง
7. ดูการตัดขอบพระด้านข้าง ลักษณะแบบมีลอยตัด ด้านหลังมีลอยปราดจะเรียบๆหรือเป็นเส้นๆหรือเป็นลอยกระดานก็ได้ อย่างไรเสียต้องมีคราบกรุติดแสดงด้วย
8. การดูราดำหรือราปลอมนั้นไม่ยาก ถ้าราปลอมคือเอาสีหมึกมาทาหรือแต้มเอายางลบมาลบจะไม่ออกเพราะหมึกซึมเข้าไปในเนื้อดิน แต่ถ้าราดำธรรมชาติเอายางลบมาลบจะออกจนถึงเนื้อดินเลย
แปดข้อนี้ท่านต้องเข้าใจจริงก่อนได้พระแท้แน่นอน
คำสำคัญ : พระเครื่อง
ที่มา : https://www.facebook.com/pages/category/Education-Website/พระกรุกำแพงเพชรแท้-1531831083790933/
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2562). วิีธีการศึกษาพระเนื้อดิน. สืบค้น 7 กุมภาพันธ์ 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=1148&code_db=610005&code_type=01
Google search
พระซุ้มเสมาทิศ มีผู้ค้นพบมากมายหลากหลายกรุ ในแถบพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ล้วนเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงโด่งดังทั้งสิ้น ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ 2450 เป็นต้นมาจน ประมาณ พ.ศ 2490-6 มีการเปิดกรุอย่างเป็นทางการและมีผู้พบพระซุ้มเสมาทิศ ทั้งที่กรุวัดอรัญญิก จังหวัดพิษณุโลก โดยพบพร้อมกับพระชินราชใบมะยม มีทั้งเนื้อดิน และชินแข็งสภาพผุกร่อนไม่สมบูรณ์เป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับที่พบตามวัดร้าง และเนินดินตามเขตเมืองเก่าในจังหวัดชัยนาท มีบางส่วนพบที่จังหวัดกำแพงเพชร กรุวัดอาวาสใหญ่ส่วนมากเป็นพิมพ์กลาง เนื้อดินและเนื้อชินแก่ตะกั่วมีไขขาวแซมตามซอกองค์พระและที่กรุวัดอาวาสน้อย เนื้อชินจะเป็นลักษณะเป็นชินแข็งมีสนิมตีนกาและตามรอยผุระเบิดจะเป็นปื้นเกร็ดกระดี่มีปรอทขาวสีซีดแห้งสมอายุ เมื่อสัมผัสถูกความชื้นนานไปจะกลับเป็นสีเทาเข้มจนเกือบดำ กรุสำคัญที่ถือได้ว่ามีพระพิมพ์ซุ้มเสมาทิศทุกพิมพ์อยู่เป็นจำนวนมาก
เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้เช้าชม 7,217
พระลีลา หรือ พระกำแพงเขย่ง เป็นหนึ่งในกลุ่มพระพิมพ์ที่ได้รับความนิยมในวงการพระเครื่อง ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องพุทธคุณที่เชื่อถือศรัทธากันมา และมีรูปลักษณะงดงามทางพุทธศิลป์ โดยนิยมทำเป็นพระพิมพ์ใน 2 ลักษณะ ได้แก่ พระพิมพ์ขนาดเล็กที่สามารถพกพานำติดตัว และองค์พระขนาดใหญ่ประมาณศอก เรียกว่า พระกำแพงศอก พระกำแพงลีลานี้ บางครั้งเรียกว่า พระกำแพงเขย่ง คำว่า พระกำแพง นี้สันนิษฐานว่าเป็นคำเรียกจากลักษณะการพิมพ์รูปพระที่ย่อส่วนมาจากพระพุทธรูปปางลีลาที่เป็นปฏิมากรรมเอกลักษณ์สมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่เรียกว่าพระ 4 อิริยาบถ ได้แก่ พระนั่ง พระยืน พระเดิน และพระนอน ซึ่งพระพุทธรูปปางลีลาอยู่ในอิริยาบถเดิน มักปั้นให้มีลักษณะอ่อนช้อย นิยมปั้นติดกับกำแพงหรือผนังซุ้มสถูปเจดีย์ ไม่ปั้นเป็นพระลอยองค์เหมือนรูปพระอิริยาบถอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานอื่นถึงคำว่า กำแพงนั้น มาจาก กำแพงเพชร ซึ่งเป็นกลุ่มเมืองสำคัญโบราณในสมัยสุโขทัยที่มีการค้นพบพระพิมพ์ปางลีลาในรูปแบบต่างๆ จำนวนมาก ส่วนคำว่า เขย่ง เรียกจากลักษณะการย่างพระบาทของพระพุทธรูปปางลีลา บิดสะโพกเล็กน้อยและเอียงกายทางซ้าย ซึ่งเรียกว่า กริดพัง คนโบราณแลดูว่าเหมือนว่าพระกำลังก้าวเขย่ง จึงเรียกต่อกันมาว่า พระกำแพงเขย่ง
เผยแพร่เมื่อ 16-08-2019 ผู้เช้าชม 19,035
เมื่อพูดถึงพระกรุวัดคูยาง ก็อดที่จะกล่าวถึงพระสงฆ์ผู้ที่คนเคารพนับถือว่าเป็นผู้ทรงวิทยาคุณ ขนานนามว่าพระเกจิอาจารย์เสียมิได้ โดยเฉพาะในส่วนของวัดคูยางแล้วก็นับว่าเป็นที่รู้จักและยอมรับนับถือของคนทั่วไป ไม่น้อยไปกว่าวัดอื่นๆ เลย เช่น พระครูธรรมาธิมุตมุนี (กลึง) พระครูเมธีคณานุรักษ์ (ปลั่ง) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระวิเชียรโมลี และพระวิเชียรธรรมคณี (ทองพาน) อดีตเจ้าอาวาสวัดคูยางและอดีตเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชรทั้ง 3 รูป เป็นต้น โดยเฉพาะพระครูธรรมาธิมุตมุนี (กลึง) ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงพ่อขำ อินทะปัญญา วัดลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร หลวงพ่อศุข วัดปากคลอง มะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท และหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จังหวัดพิจิตร เป็นต้น
เผยแพร่เมื่อ 23-08-2019 ผู้เช้าชม 6,148
ที่ตั้งกรุพระวัดเชิงหวาย อยู่ถนนกำแพงพรานกระต่ายเข้าทางกรุวัดดงหวาย เรียบถนนริมคลองประมาณ 700 เมตร ประเภทพระที่พบ ได้แก่ พระกำแพงขาว พระท่ามะปราง พระร่วงประทานพร พระยอดขุนพลพิมพ์ใหญ่ พระซุ้มยอพิมพ์เล็ก พระซุ้มจิก พระนางพญากำแพงพิมพ์ใหญ่ พระนางพญากำแพงพิมพ์เล็ก พระโพธิบัลลังก์ พระลีลากำแพง พระกำแพงห้าร้อย พระร่วงนั่งทรงสมาธิ พระซุ้มยอพิมพ์ใหญ่ พระอู่ทองกำแพงพิมพ์ใหญ่ พระอู่ทองกำแพงพิมพ์กลาง พระอู่ทองกำแพงพิมพ์เล็ก พระกำแพงคืบ และพิมพ์อื่นๆ
เผยแพร่เมื่อ 20-08-2019 ผู้เช้าชม 3,456
ลีลาหน้าเงินและลีลาหน้าทองนี้ เป็นพระที่ท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อนได้มาเมื่อครั้งในอดีตท่านธุดงส์ไปยังสุโขทัย เมื่อท่านมรณภาพแล้ว หลวงพ่อสม ท่านรวบรวมบรรจุไว้ในสถูปเพื่อแสดงความเคารพบูชาครูอาจารย์ของท่าน ต่อมา บริเวณสถูป(วัดเมืองรามเก่า)ริมตลิ่งถูกแม่น้ำกัดเซาะ หลวงพ่อสมท่านจึงดำริที่จะย้ายสถูปไปอยู่ในวัดเมืองรามปัจจุบันท่านได้ขอแรงกำลังพลจากทหารค่าย ม.พันสิบ จังหวัดทหารบกน่านนำกำลังและเครื่องมือไปรื้อถอนเพื่อย้ายอัฐิไปบรรจุยังสถูปที่แห่งใหม่ การรื้อถอนครั้งนี้ ทำให้พระลีลาหน้าเงิน / หน้าทอง แตกกรุออกมา ท่านจึงให้พระเณรที่ไปด้วย รวบรวมเก็บไว้ส่วนหนึ่งและแจกให้กับทหารทุกคนที่ไปช่วยคนละองค์
เผยแพร่เมื่อ 21-02-2017 ผู้เช้าชม 12,984
พระนางกำแพง หนึ่งในพระเครื่องเมืองกำแพงเพชร ที่เรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน และมีพุทธศิลปะที่แสดงถึงศิลปะสุโขทัยหมวดสกุลช่างกำแพงเพชรได้อย่างชัดเจนที่สุด ทั้งยังเป็นพระที่สร้างในสมัยเดียวกับพระกำแพง ซุ้มกอ พระกำแพงเม็ดขนุน ฯลฯดังนั้น เนื้อหามวลสาร ความหนึกนุ่มซึ้งของเนื้อพระ รวมถึงด้านพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยมและโชคลาภจึงเท่าเทียมกัน และเป็นที่นิยมและแสวงหา ในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องเช่นเดียวกัน แต่ด้วยพระในตระกูลพระเครื่องเมืองกำแพงเพชรนั้นก็มีปรากฏอยู่มากมายหลายพิมพ์และหลายกรุ โดยเฉพาะ "พระนางกำแพง" มีขึ้นแทบจะทุกกรุในบริเวณทุ่งเศรษฐี ทำให้ค่านิยมและการแสวงหาจึงลดหลั่นกันลงไป
เผยแพร่เมื่อ 23-02-2017 ผู้เช้าชม 8,114
พระพุทธรูปโบราณใน 100 ส่วนจะเป็นเนื้อสำริดเสีย 99.5 ส่วน ดังนั้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาขึ้นไป พระพุทธรูปส่วนมากจะถูกสร้างด้วยเนื้อสำริดเท่านั้น ส่วนเนื้อศิลาไม่นำมาเขียนในที่นี้ ศิลปะการสร้าง จะสร้างอย่างประณีตฝีมือเป็นเลิศ เพราะสร้างเสร็จจะไม่มีร่องรอยในการตบแต่งหรือเพิ่มเติมใดๆ พระที่ถูกนำมาบรรจุตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา นับว่านานหลายร้อยปี ฉะนั้นพระกรุใน 100 ส่วน ประมาณ 80 ส่วนจะมีรอยเดาะหรือชำรุดผุกร่อนตามองค์พระจุดใดจุดหนึ่ง ซึ่งจะปรากฏให้เห็นโดยเป็นธรรมชาติ
เผยแพร่เมื่อ 14-08-2019 ผู้เช้าชม 8,336
พระกำแพงขาว เป็นพระปางลีลา ศิลปะสุโขทัย สกุลช่างกำแพงเพชร สาเหตุที่เรียกว่า พระกำแพงขาว เพราะว่าตอนขึ้นจากกรุใหม่ ๆ มีคราบฝ้าของกรุและปรอทจับตามองค์พระ คนรุ่นเก่าจึงเรียกว่า พระกำแพงขาวพระกำแพงขาว จัดว่าเป็นพระเอกลักษณ์ของเมืองกำแพงเพชรทีเดียว เพราะนอกจากเป็นฝีมือของช่างสกุลกำแพงเพชรแล้ว ในด้านพุทธคุณ พระกำแพงเพชรมีชื่อเสียงกระฉ่อนและโด่งดัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแคล้วคลาด เมตตา และด้านโภคทรัพย์
เผยแพร่เมื่อ 21-02-2017 ผู้เช้าชม 7,114
พระกำแพงกลีบจำปา จัดเป็นพระอยู่ในตระกูลเดียวกันกับพระกำแพงเม็ดขนุน จะมีเนื้อดิน และเนื้อชินเงินเท่านั้น เป็นพระที่พบไม่มากนัก ส่วนใหญ่พระพิมพ์นี้จะตื้นประมาณ 80% จะชำรุดเพราะเป็นพระที่เนื้อเปราะบางด้านพุทธคุณแล้วเหมือนกับพระกำแพงเพชรเม็ดขนุนและพลูจีบทุกอย่าง ขุดพบที่วัดพิกุล วัดอาวาสน้อย และบริเวณลานทุ่งทั่ว ๆ ไป
เผยแพร่เมื่อ 21-02-2017 ผู้เช้าชม 6,632
พระท่ามะปราง กรุวัดท่ามะปราง ต้นกำเนิด "พระเงี้ยวทิ้งปืน" ชนเผ่าหนึ่ง มีชื่อว่า เงี้ยว อาศัยอยู่ตามพื้นที่สูงบนเขา แล้วย้ายรกรากมาตั้งถิ่นฐานทางภาคตะวันออกของประเทศพม่า ตรงบริเวณที่มีชายแดนทางใต้ มีพื้นที่ติดต่อกับล้านนาของไทย เป็นที่ตั้งเผ่าพันธุ์ ตลอดระยะเวลากว่าศตวรรษ
เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้เช้าชม 20,687