วัดบาง
เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้ชม 6,124
[16.473109, 99.5266479, วัดบาง]
โบสถ์วัดบาง วัดแห่งนี้อยู่ท่ามกลางย่านเศรษฐกิจของกำแพงเพชร ด้านหนึ่งติดถนนราชดำเนิน 1 ด้านหนึ่งติดถนนเจริญสุข เมื่อเข้ามาในวัดจะมีบรรยากาศโล่งกว้าง ประกอบด้วยอาคาร (เสนาสนะ) ต่างๆ กระจายกันไป โดยมีเขตสังฆาวาสอยู่แยกออกไปอีกด้านหนึ่งอย่างชัดเจน โบสถ์หรืออุโบสถอยู่ตรงกลางของพื้นที่ มีวิหารหลวงพ่อเพชรอยู่เยื้องออกไปด้านข้าง มุขด้านหลังของอุโบสถล้อมด้วยกระจกใสรอบด้าน ก่อนที่จะเข้าไปไหว้พระกันอยากจะกล่าวถึงประวัติของวัดบางแห่งนี้กันก่อนดังนี้
วัดบางเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองกำแพงเพชร สันนิษฐานว่าที่ชื่อวัดบางคงเป็นเพราะที่ตั้งวัดอยู่ใกล้กับคลองน้ำ ซึ่งแยกจากแม่ปิงไปสู่ "หนองรี" คลองน้ำดังกล่าวเรียกว่า "บาง" เมื่อวัดมาตั้งอยู่ ณ ที่แห่งนี้ จึงตั้งชื่อ "วัดบาง"
วัดบางสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 58.4 ตารางวา
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับทางสาธารณะ
ทิศใต้ ติดต่อกับถนนเจริญสุข
ทิศตะวันออก ติดกับถนนวิจิตร
ทิศตะวันตก ติดต่อกับถนนเทศา
พื้นที่วัดเป็นที่ราบลุ่ม อยู่ในบริเวณตัวเมือง มีถนนล้อมรอบ การคมนาคมสะดวก อยู่ในย่านชุมชนตลาดการค้าอาคารเสนาสนะต่างๆ มีอุโบสถกว้าง 9 เมตร ยาว 24 เมตร ศาลาการเปรียญกว้าง 16 เมตร ยาว 28 เมตร กุฏิสงฆ์จำนวน 2 หลัง สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานในอุโบสถและเจดีย์ 2 องค์
วัดบาง สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ราว พ.ศ. 2420 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ประมาณ พ.ศ. 2430 มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา ปีละ 21 รูป สามเณร 8 รูป (ข้อมูลที่เก็บเมื่อนานมาแล้ว) ทางวัดได้เปิดสอนพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2515 เมื่อปี พ.ศ. 2501 ทางราชการได้ประกาศรวม "วัดกุฎีหงษ์" ซึ่งเป็นวัดร้างเข้าเป็นวัดเดียวกับวัดบางอีกด้วย
หลวงพ่อสุโขทัย พระประธานในอุโบสถ พระนามว่าหลวงพ่อสุโขทัย เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปสำคัญของวัดบางพระพุทธลักษณะงดงาม
หลวงพ่อสุโขทัย วิหารหลวงพ่อเพชร อำนวยการสร้างโดยพระธรรมาธิมุตมุนี พร้อมด้วยคณะกรรมการ ในระหว่างดำเนินการท่านได้มรณภาพเสียก่อน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2524 ต่อมาพระอธิการตุ่น อินทโชโต เจ้าอาวาสวัดบาง พร้อมคณะกรรมการชุดใหม่ ได้ดำเนินการก่อสร้างต่อ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2526 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2528
ภายในวิหาร ประดิษฐานหลวงพ่อเพชรเป็นพระประธานในวิหาร โดยมีรูปเหมือนอดีตเจ้าอาวาสอยู่ด้านหน้า
หลวงพ่อเพชรวัดบาง หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปเนื้อสำริดศิลปะแบบเชียงแสน ปางมารวิชัย ที่เรียกว่า สิงห์ ๑ ที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก มีหน้าตักกว้าง 2 ศอก 1 คืบ 5 นื้ว สูง 3 ศอก 1 คืบ มีพุทธลักษณะงดงาม และมีขนาดใหญ่กว่าหลวงพ่อเพชรของจังหวัดพิจิตร ที่มีอายุกว่า 800 ปี เดิมทีหลวงพ่อเพชรประดิษฐานอยู่ที่วัดตอม่อ ปัจจุบันเป็นตลาดศูนย์การค้า ซึ่งวัดดังกล่าวเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดร้าง หลวงพ่อผิวอดีตเจ้าอาวาสวัดบางและหลวงพ่อภา อดีตเจ้าอาวาสวัดเสด็จพร้อมด้วยชาวบ้านเห็นว่า ถ้าปล่อยให้หลวงพ่ออยู่ที่วัดตอม่อต่อไปก็คงไม่มีคนดูแล และอาจถูกมิจฉาชีพขโมยไปได้ ดังนั้น จึงได้ย้ายหลวงพ่อเพชรมาที่วัดบาง ซึ่งในสมัยนั้นยังไม่มีถนนหนทางต้องตัดไม้ทำเป็นเลื่อน ค่อยชะลอหลวงพ่อเพชรเลื่อนมา ซึ่งต้องใช้เวลานานมาก กว่าที่นำหลวงพ่อมาถึงวัดบางได้ เจ้าอาวาสวัดบางเล่าว่า เบื้องต้นใต้ฐานขององค์หลวงพ่อเพชรมีการผุกร่อนตามอายุ ต่อมาจึงได้จัดสร้างวิหารหลวงพ่อเพชรขึ้นเมื่อปี 2526 ก่อนจะอัญเชิญหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ที่ผ่านมาทางวัดไม่มีพระคอยดูแล จึงได้ปิดประตูวิหารไว้ ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่ทราบว่าภายในวิหารมีหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ ดังนั้นทางคณะสงฆ์และกรรมการจึงมีความเห็นพ้องต้องกันว่าควรเปิดประตูวิหารเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสกราบไหว้ขอพรหลวงพ่อเพชร ผู้ที่ทำการศึกษาและผู้รู้เกี่ยวกับเรื่องพระพุทธรูปได้กล่าวว่า หลวงพ่อเพชรองค์นี้นับเป็นอันซีน Unseen กำแพงเพชร เพราะเป็นพระพุทธรูปยุคเชียงแสนที่เก่าแก่ เป็นพระเนื้อสำริดองค์ใหญ่ที่สุดองค์เดียวที่สมบูรณ์ที่สุดซึ่งเหลืออยู่ในประเทศไทย ดูจาพระพุทธลักษณะแล้วผู้สร้างได้จะต้องเป็นพระมหากษัตริย์เท่านั้น และช่างที่สร้างต้องเป็นช่างหลวง จึงสามารถสร้างได้งดงามอยู่ที่หาที่ติมิได้
บริเวณวัดบาง
พระซุ้มกอ เป็นพระเครื่องที่เลื่องลือกันมากของกำแพงเพชร วัดบางจึงสร้างพระซุ้มกอองค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางวัดให้ประชาชนได้นมัสการ
เปิดให้สักการะทุกวัน ตั่งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
ภาพโดย : https://www.google.co.th/search?
คำสำคัญ : วัดบาง
ที่มา : http://www.touronthai.com/article/834
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2560). วัดบาง. สืบค้น 20 มกราคม 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=284&code_db=610009&code_type=01
Google search
วัดนี้อยู่ริมถนน เมื่อผ่านไปจะเห็นเจดีย์ทรงลังกาขนาดย่อมยอดหัก ซึ่งมองเห็นแต่ไกล โดยเฉพาะวัดนี้มีผู้พบพระพิมพ์เป็นรูปพระพุทธรูปประทับนั่งอยู่ในซุ้มเรือนแก้ว คล้ายลักษณะตัว ก จึงเรียกว่าพระซุ้มกอ โบราณสถานของวัดนี้เป็นเจดีย์แบบทรงลังกายอดหัก มีคูน้ำล้อมรอบบริเวณอีกชั้นหนึ่ง
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้เช้าชม 6,540
วัดเป็นแหล่งรวมของศิลปกรรมอันล้ำค่าทั้งด้านสถาปัตยกรรม ปฏิมากรรมและจิตรกรรมที่ศิลปินได้ถ่ายทอดลักษณะเด่นของคำสอนทางพระพุทธศาสนาออกมาในงานศิลปะอย่างกลมกลืนน่าชื่นชมเป็นพุทธศิลป์ที่ให้คุณค่าทั้งด้านความงามและทั้งเป็นสื่อให้คนได้เข้าถึงธรรมปฏิบัติซึ่งช่วยกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ให้อ่อนโยนและสะอาด บริสุทธิ์ขึ้น พุทธศิลป์ที่ปรากฏในวัดจึงเป็นศิลปะแห่งอุดมคติที่ให้คุณค่าและความหมายเชิงจริยธรรมอย่างสูง สำหรับแนวทางการสนับสนุนให้ศาสนสถานที่สำคัญของวัดให้เป็นสถานที่แหล่งท่องเที่ยว อาทิเช่น พระปรางค์ อุโบสถวิหาร สถูปเจดีย์ พระพุทธรูป ศาลาการเปรียญ หอไตร เป็นต้น นอกจากจะเป็นสิ่งจูงใจให้ประชาชนสนใจเข้าวัดมากขึ้น ยังช่วยสะท้อนให้เห็นถึงอายธรรม ภูมิปัญญา วิถีชีวิต และเทคโนโลยี รวมถึงวัดยังเป็นแหล่งเชื่อมโยงความเป็นมาของวัฒนธรรมกับชุมชน และยังเป็นสถานที่ที่รวบรวมมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าทางศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาและอัจฉริยะของบรรพบุรุษที่เกิดการสั่งสมและถ่ายทอดทางวัฒนธรรม
เผยแพร่เมื่อ 27-06-2022 ผู้เช้าชม 3,200
วัดบ่อเงิน ตั้งอยู่เลขที่ 264 หมู่ที่ 12 ตำบลเทพนคร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรโดยสำนักพุทธศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ อนุญาตให้ตั้งเป็นวัดบ่อเงิน ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2525 หลักฐานที่ดินในการตั้งวัดบ่อเงิน เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เล่มที่ 13 (3) หน้า 53 จากที่ดินอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เดิมวัดบ่อเงิน ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 7 ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
เผยแพร่เมื่อ 30-09-2022 ผู้เช้าชม 1,684
อยู่ถัดจากวัดพระสี่อิริยาบถไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เมตร สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างถึง 2 สมัย คือสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา ผังรวมของวัดแบ่งเขตพุทธาวาสให้อยู่ในกลุ่มกลางล้อมรอบด้วยเขตสังฆาวาสหรือกุฏิสงฆ์ โดยมีพระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม มีซุ้มทั้ง 4 ด้านเป็นประธาน ด้านหน้าเป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ ยกฐานประทักษิณสูง บนฐานประทักษิณนี้ ประดิษฐานพัทธสีมาไว้ทั้งแปดทิศ มุขด้านหน้าของฐานประทักษิณ มีรูปสิงห์ นาค ประดับ
เผยแพร่เมื่อ 08-02-2017 ผู้เช้าชม 3,624
วัดบ้านใหม่สุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดท่องเที่ยว 3 วิถี แต่ก่อนจะไปเดินเล่นที่ตลาด แวะมาชมความงดงามของตัวพระวิหาร รวมทั้งเสาและประตูวิหารที่แกะสลักอย่างอ่อนช้อยสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของวิถีภาคเหนือ พร้อมกราบสักการะหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ พระพุทธรูปศิลปะล้านนาในวิหารวัด เดินเข้าไปภายในวิหารรู้สึกได้ถึงความร่มเย็นและเงียบสงบ วัดบ้านใหม่สุวรรณภูมิ เป็นวัดในท่าขุนราม ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นตามแบบฉบับล้านนาทางเหนือ ที่ไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชม
เผยแพร่เมื่อ 30-09-2022 ผู้เช้าชม 1,238
ที่ท้ายเมืองเก่าของกำแพงเพชร มีวัดอยู่ทางทิศตะวันออก นอกกำแพงเมือง พงศาวดารฉบับหลวงประเสริฐเรียกว่า วัดยม เป็นวัดขนาดใหญ่ เป็นที่พักทัพ ของ กษัตริย์ อยุธยาที่ยกมาเมืองกำแพงเพชร หรือไปตีเมืองเหนือ ลักษณะของวัดที่ปรากฏ มีเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือเจดีย์ทรงดอกบัวตูม ขนาดใหญ่ที่งดงามและสมบูรณ์ ที่สุด และเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ องค์เดียว ทางฝั่งกำแพงเพชร วัดนี้ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดกะโลทัย เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ในยุคเดียวกับการสร้างเมืองนครชุม มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือเป็นวัดที่ได้เคยใช้เป็นที่ประทับแรมของกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งยกทัพไปตีเมืองเหนือ วัดกะโลทัยมีโบราณสถานที่ โดดเด่น คือเจดีย์ทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เช่นเดียวกับวัดเจดีย์กลางทุ่ง และ วัดวังพระธาตุ
เผยแพร่เมื่อ 11-02-2017 ผู้เช้าชม 3,626
เป็นวัดสำคัญ ที่สุดของบ้านร้านดอกไม้ ซึ่งปัจจุบัน เรียนขานกันว่าบ้านลานดอกไม้ ซึ่งมีที่มาว่าเมื่อเจ้าดารารัศมี พระวรชายา ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครา เสด็จ กลับชียงใหม่ ได้ประทับที่ บ้านร้านดอกไม้ ซึ่งประชาชนได้ เตรียมร้านดอกไม้เพื่อเตรียมการรับเสด็จเจ้าดารารัศมี ชาวบ้านกล่าวขานกันว่า เจ้าดารารัศมี เรียกชุมชนแห่งนี้ว่าบ้านร้าน ดอกไม้ ต่อมา เลือนไปกลายเป็นบ้านลานดอกไม้ ในที่สุด
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้เช้าชม 4,261
วัดป่ามืดในแห่งนี้ ที่น่าชมยิ่ง ไม่เหมือนวัดใดทุกแห่งในกำแพงเพชร คือมณฑปที่ขนาดใหญ่และงดงามที่สุด ในอดีตเมื่อมองภาพย้อนกลับไป วัดป่ามืดในจะงดงามน่าชม เหลือที่จะพรรณนา เมื่อมีโอกาสชมมณฑปของวัดป่ามืดใน จะประทับใจไปอีกนานแสนนาน
เผยแพร่เมื่อ 23-02-2017 ผู้เช้าชม 2,741
วัดมหาโพธิ์มงคล เดิมเป็นวัดร้างเก่าแก่ กล่าวกันว่า เมื่อ พ.ศ. 2499 ได้มีประชาชน 60-70 ครอบครัว อพยพมาจากอุบลราชธานี เพื่อมาทำมาหากิน ในเขตจังหวัดกำแพงเพชร และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่าทุ่งโพธิ์ทะเล ซึ่งเขตท่ี่ตั้งหมู่บ้านนี้ มีพระอุโบสถเก่าแก่หลังหนึ่ง และพระพุทธรูปเก่าๆ ซึ่งมีกระเบื้อง ก่้อนอิฐ ศิลาแลงปรักหักทับถมอยู่ พระครูวิบูย์ศิลาภรณ์ ได้นำญาติโยมซึ่งมีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในบวรพุทธศาสนา ก่อตั้งสำนักสงฆ์ นามว่าสำนักสงฆ์ใหญ่ชัยมงคล
เผยแพร่เมื่อ 09-01-2020 ผู้เช้าชม 2,239
วัดฆ้องชัย ตั้งอยู่ทางด้านหน้าหรือด้านตะวันออกของวัดพระสี่อิริยาบถ มีกำแพงวัดเฉพาะด้านตะวันตกและด้านใต้เพียงสองด้านเท่านั้น นอกกำแพงวัดด้านทิศตะวันตกและด้านใต้เพียงสองด้าน ลักษณะเด่นของฐานวิหารฆ้องชัยคือ การก่อฐานสูงเป็นเสาศิลาแลงแปดเหลี่ยม ภายในอาคารยังปรากฏแท่นอาสนสงฆ์และแท่นประดิษฐานพระประธาน ซึ่งเดิมเป็นพระพุทธรูปนั่งเจดีย์ประธานตั้งอยู่ถัดจากวิหารไปทางด้านหลัง
เผยแพร่เมื่อ 08-02-2017 ผู้เช้าชม 2,202