พันงูน้อย
เผยแพร่เมื่อ 16-07-2020 ผู้ชม 1,392
[16.4258401, 99.2157273, พันงูน้อย]
พันงูน้อย ชื่อวิทยาศาสตร์ Achyranthes bidentata Blume (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Achyranthes bidentata var. longifolia Makino)[2] จัดอยู่ในวงศ์บานไม่รู้โรย (AMARANTHACEAE)
สมุนไพรพันงูน้อย ยังมีชื่อตามท้องถิ่นอื่น ๆ อีกว่า หญ้าพันงูน้อย พันธุ์งูเล็ก พันงูเล็ก หญ้าพันงูเล็ก ควยงูน้อย (ไทย), หงู่ฉิก (จีนแต้จิ๋ว), หนิวชี (จีนกลาง) เป็นต้น
ลักษณะของพันงูน้อย
- ต้นพันงูน้อย จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 30-100 เซนติเมตร มีรากอยู่ใต้ดินยาวเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.6-1 เซนติเมตร ลักษณะของลำต้นจะคล้ายกับหญ้าพันงูขาว แต่ก้านค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมและมีสีน้ำตาลเหลือง
- ใบพันงูน้อย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงเป็นคู่ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กว้าง ปลายใบและโคนใบแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2-10 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียว ผิวใบเรียบ ใบมีขนปกคลุมเล็กน้อย ก้านใบยาวประมาณ 5-20 มิลลิเมตร
- ดอกพันงูน้อย ดอกมีขนาดเล็กสีเขียวมีสีขาวปนแดง โดยจะออกที่ง่ามใบและปลายกิ่ง มีกาบใบช่อดอก 1 ใบ ก้านช่อดอกกลมและตั้งตรง ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร กลีบดอกยาวประมาณ 3-5 มิลลิเมตร มีกลีบ 5 กลีบ กลีบเลี้ยง 2 กลีบ ลักษณะเป็นรูปแหลม ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน มีรังไข่ 2 อัน
- ผลพันงูน้อย ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมรี ยาวประมาณ 2-5 มิลลิเมตร ผิวผลเรียบมัน ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด[1]
สรรพคุณของพันงูน้อย
- เหง้าหรือราก (บางที่ก็ใช้ทั้งต้น) มีรสชุ่มเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาสุขุมไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อตับและไต ใช้เป็นยากระจายโลหิต (ราก)
- ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูง (ราก)
- ใช้เป็นยาแก้คอบวม คอเจ็บ (ราก)
- ตำรับยาแก้คอตีบ ระบุให้ใช้รากหญ้าพันงูน้อยสด รากครอบฟันสีสด 30 กรัม และรากว่านหางช้างพอสมควร นำมาตำคั้นเอาแต่น้ำมาผสมกับปัสสาวะให้เด็กรับประทาน (ราก)
- ช่วยแก้อาการปวดท้องน้อยหลังการคลอดบุตรของสตรี (ราก)
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ (ราก)
- ช่วยแก้ปัสสาวะเป็นเลือด (ราก)
- ใช้แก้สตรีที่มีประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ หรือมีเลือดคั่งในมดลูก หรือเลือดอุดตันในมดลูก ให้ใช้หญ้าพันงูน้อยทั้งต้นสด 30-50 กรัม นำมาต้มกับเหล้าขาวรับประทาน (ราก)
- ใช้เป็นยาบำรุงตับ บำรุงไต (ราก)
- ใช้เป็นยาแก้ฝีบวม (ราก)
- ช่วยแก้อาการฟกช้ำ (ราก)
- ช่วยแก้อาการปวดตามร่างกาย ปวดหลัง ปวดเอว (ราก)[1]ส่วนตำรายาพื้นบ้านล้านนาจะใช้รากพันงูน้อยหรือรากพันงูขาว รากพันงูแดง แลกรากเดือยหิน นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ปวดหลัง (ราก)
- ใช้แก้อาการปวดขาและหัวเข่า ด้วยการใช้หญ้าพันงูน้อย 20 กรัม, มะละกอจีน 12 กรัม, หลักหั่ง 12 กรัม นำไปบดให้เป็นผงปั้นเป็นยาลูกกลอนรับประทาน (ทั้งต้น)
- ช่วยแก้อาการมือเท้าเป็นเหน็บชา (ราก)
หมายเหตุ : การนำมาใช้เป็นยาตาม [1] ในส่วนของรากหรือเหง้า (บางที่ก็ใช้ทั้งต้น) ให้ใช้ต้นแห้งครั้งละ 10-20 กรัม นำมาต้มกับน้ำดื่ม[1] หญ้าพันงูน้อยและหญ้าพันงูขาว สามารถนำมาใช้แทนกันได้
ข้อห้ามในการใช้สมุนไพรพันงูน้อย
- ผู้ที่มีพลังหย่อนหรือพร่อง หรือสตรีมีครรภ์ หรือมีประจำเดือนมามากเกินควร ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของพันงูน้อย
- สารที่พบ ได้แก่โพแทสเซียม และสารจำพวก Alkaloid เช่น Oleanolic acid, ส่วนรากและเมล็ดพบสาร Ecdysterone, Innokosterone เป็นต้น[1]
- สารที่สกัดได้จากหญ้าพันงูน้อยมีผลต่อการหดเกร็งตัวของมดลูกของกระต่าย ไม่ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม และมีผลต่อการหดเกร็งตัวของมดลูกที่อยู่นอกตัวของหนูทดลองอีกด้วย แต่จะมีฤทธิ์กระตุ้นการหดเกร็งตัวของมดลูกของแมวน้อยกว่า แสดงว่าหญ้าพันงูน้อยจะออกฤทธิ์ต่อมดลูกของสัตว์ทดลองแต่ละชนิดแตกต่างกันออกไป[1]
- เมื่อนำสารที่สกัดได้จากหญ้าพันงูน้อยหรือน้ำที่ต้มกับหญ้าพันงูน้อยมาฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำของสัตว์ทดลอง พบว่าสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลง และทำให้การหายใจถี่ขึ้น[1]
- เมื่อนำน้ำที่ต้มกับหญ้าพันงูน้อย มาฉีดเข้าทางท้องน้อยของสัตว์ทดลอง พบว่าสามารถแก้ปวดได้ แต่จะมีฤทธิ์น้อยกว่ามอร์ฟีนมาก[1]
คำสำคัญ : พันงูน้อย
ที่มา : https://medthai.com/
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2563). พันงูน้อย. สืบค้น 29 กันยายน 2566, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1748&code_db=610010&code_type=01
Google search
คางเป็นพรรณไม้ยืนต้นที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ซึ่งตามกิ่งก้านจะมีขนขึ้นปกคลุม ต้นสูงใหญ่ ใบดกหนาทึบ ใบเล็กเป็นฝอยคล้ายใบมะขามไทย คล้ายใบทิ้งถ่อนหรือ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีจำนวน 3-4 ใบ ใบย่อยของแต่ละเป็นใบประกอบจะมีจำนวน 15-25 คู่ เรียงอยู่ตรงข้ามกัน ไม่มีก้านใบ ใบย่อยเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบมนหรือใบแหลม
เผยแพร่เมื่อ 23-02-2017 ผู้เช้าชม 3,583
แตงกวา มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย ในบ้านเราก็นิยมปลูกแตงกวาเป็นอาชีพ เนื่องจากเป็นผักที่ปลูกง่าย ให้ผลผลิตเร็ว การเก็บรักษาง่ายกว่าผักชนิดอื่น ๆ โดยแตงกวานั้นจัดเป็นพืชล้มลุก มีรากแก้วและรากแขนงจำนวนมาก สามารถแผ่กว้างและหยั่งลึกได้มากถึง 1 เมตร ลำต้นเป็นเถาเลื้อยยาว 2-3 เมตร (ด้วยเหตุนี้จึงนิยมปลูกขึ้นค้างเพื่อประหยัดเนื้อที่ในการปลูกและง่ายต่อการเก็บเกี่ยว) มีข้อยาว 10 ถึง 20 เซนติเมตร และหนวดบริเวณข้อช่วยเกาะยึดลำต้น
เผยแพร่เมื่อ 02-06-2020 ผู้เช้าชม 5,259
ชุมเห็ดไทยเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยมักพบขึ้นเองตามริมคลอง ตามที่รกร้าง หรือตามริมทางทั่วไป เมล็ดมักนำมาใช้เป็นยาโดยเฉพาะช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีกรดครัยโซเฟนิค ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง โดยต้องนำเมล็ดไปตากให้แห้งอีกครั้ง ก่อนนำมาใช้ให้นำมาคั่วจนเริ่มพองตัวและมีกลิ่นหอม โดยเมล็ดที่ได้จะมีรสขมเล็กน้อย ลื่นเป็นเมือก
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้เช้าชม 1,359
ต้นกกกันดารเป็นพืชล้มลุก อายุหลายปี มีเหง้าสั้น หนา ไม่ค่อยแตกแขนงออกไป ลำต้นเป็นรูปสามเหลี่ยม เรียบเกลี้ยง สูงประมาณ 20-40 เซนติเมตร ออกเป็นกอแน่นต้นเดียว ไม่ออกรวมเป็นกระจุกกันหลายต้นลักษณะเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับรอบลำต้น มองเห็นเป็นวงใกล้พื้นดิน ใบบิดหมุนเป็นเกลียวที่ส่วนปลายคล้ายกงจักร แผ่นใบรูปแถบถึงรูปเคียว กว้าง 1-4 มิลลิเมตร ยาว 5-18 เซนติเมตร ปลายใบกลม หลังใบเป็นมันเกลี้ยง ขอบใบเรียบ เป็นคลื่น มีขนสาก ใบหนาคล้ายแผ่นหนัง แผ่นใบตอนโคนเป็นกาบหุ้มลำต้น กาบใบสีเขียวอ่อน
เผยแพร่เมื่อ 12-05-2020 ผู้เช้าชม 1,491
ต้นผักโขมสวน จัดเป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลักษณะของลำต้นตั้งตรง มีความสูงได้ถึง 1.30 เมตร ส่วนยอดมีขนสั้นปกคลุม เจริญเติบโตได้เร็ว ต้องการความชื้นสูง มีแสงแดดตลอดวัน และชอบดินร่วน สามารถพบได้ทั่วไปของทุกภาค ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีถึงรูปไข่ มีความกว้างประมาณ 6-10 เซนติเมตรและยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง ดอกมีสีเขียวอ่อนหรือสีแดง ช่อดอกมีขนาดประมาณ 4-25 มิลลิเมตร
เผยแพร่เมื่อ 27-05-2020 ผู้เช้าชม 1,864
ต้นตีนเป็ดน้ำ มีถิ่นกำเนิดในอินเดียจนถึงทางตอนใต้ของจีน ส่วนในประเทศไทยนั้นจะพบได้เฉพาะทางภาคใต้ โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็ก ทรงร่ม เรือนยอดเป็นทรงกลมทึบ ลำต้นแตกกิ่งต่ำ เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีเทา มีช่องระบายอากาศเป็นร่องยาว มีน้ำยางสีขาวข้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดแก่ ปลูกได้ดีในดินทั่วไป ชอบแสงแดดเต็มวัน เจริญเติบโตได้เร็ว ไม่ต้องการการดูแลมาก มักพบขึ้นตามบริเวณริมน้ำ ตามป่าชายเลน ป่าบึงน้ำจืด และป่าชายหาด
เผยแพร่เมื่อ 01-06-2020 ผู้เช้าชม 7,597
ผักเป็ดน้ำ จัดเป็นพรรณไม้น้ำหรือพรรณไม้ล้มลุก มีอายุราว 1 ปี ชอบขึ้นตามแอ่งน้ำรกร้างหรือริมน้ำทั่วไป มีลำต้นอยู่บนผิวน้ำ ลำต้นมีความสูงประมาณ 1 เมตร เลื้อยทอดไปตามผิวน้ำหรือพื้นดิน แตกกิ่งก้านสาขามาก ส่วนรากจะติดอยู่ตามข้อต้น ลำต้นกลมเป็นข้อๆ ภายในของลำต้นกลวง ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นไปปลูกลงในแอ่งน้ำ
เผยแพร่เมื่อ 10-07-2020 ผู้เช้าชม 2,872
ต้นอินจัน หรือ ต้นจัน เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตช้า เป็นต้นไม้โบราณที่ในปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์ สมัยนี้หาดูได้ค่อนข้างยาก ซึ่งเมื่อก่อนจะนิยมปลูกไว้ตามวัด ต้นอินจันนับว่าเป็นไม้ผลที่ค่อนข้างแปลก โดยต้นเดียวกันแต่ออกผลได้ 2 แบบ ซึ่งไม่เหมือนกัน ผลหนึ่งลูกกลมป้อม ๆ ขนาดใหญ่กว่ามาก เราเรียกว่า "ลูกอิน" แต่อีกผลลูกแบน ๆ แป้น ๆ มีขนาดเล็กกว่า เราจะเรียกว่า "ลูกจัน"
เผยแพร่เมื่อ 28-05-2020 ผู้เช้าชม 5,153
ต้นจิกน้ำ เป็นไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ มีความสูงประมาณ 5-15 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มรีหรือแผ่กว้าง มีลำต้นเป็นปุ่มปม เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่องและเป็นสันแหลมตามยาว กิ่งก้านมักคดงอ ปลายกิ่งมักลู่ลง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้และอัฟกานิสถาน ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียในแถบรัฐควีนส์แลนด์ และสำหรับประเทศไทยบ้านเราก็จะพบต้นจิกน้ำได้ทั่วทุกภาคตามริมฝั่งน้ำ ริมคลอง ริมบึง ป่าพรุและป่าชายเลน
เผยแพร่เมื่อ 26-05-2020 ผู้เช้าชม 31,075
ต้นจุกโรหินี จัดเป็นไม้ล้มลุกที่มีลำต้นเลื้อยทอดไปตามต้นไม้ เถากลมสีเขียว ตามข้อเถามีรากงอกออก มีไว้สำหรับใช้ยึดเกาะ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด สามารถพบได้ตามป่าดงดิบทั่วไป ป่าชายเลน ป่าแพะ และป่าเบญจพรรณ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ หรือออกเป็นใบเดี่ยว ใบมี 2 แบบ ลักษณะแตกต่างกันมาก ออกดอกเป็นช่อสั้นๆ ขนาดเล็ก ช่อละประมาณ 6-8 ดอก โดยจะออกตามง่ามใบตรงข้ามกับใบ
เผยแพร่เมื่อ 26-05-2020 ผู้เช้าชม 2,967