พระกรุกำแพงเพชร

พระกรุกำแพงเพชร

เผยแพร่เมื่อ 15-08-2019 ผู้ชม 5,855

[16.4821705, 99.5081905, พระกรุกำแพงเพชร]

       "การเรียนรู้พระกรุมีความสำคัญมาก เพราะปัจจุบันผิดเพี้ยนไปเกือบทั้งหมด ความถูกต้องแท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำพูดของใครคนใดคนหนึ่ง สิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงความถูกต้องแท้จริงของพระกรุ ต้องมาจากธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นขององค์พระนั้นๆ" คำกล่าวของ "ชัยฤทธิ์ โสภณโภไคย" เจ้าของพิพิธภัณฑ์โสภณไคย ตั้งอยู่กลางเมืองกำแพงเพชร ถือเป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่รวบรวมพระกรุกำแพงเพชรไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง
       ชื่อของ "ชัยฤทธิ์" รู้จักกันดีในแวดวงนักเลยพระกรุ โดยเฉพาะที่กำแพงเพชร เพราะนอกจากจะเป็นผู้ที่มีพระกรุกำแพงเพชรไว้ในครอบครองมากทีสุดแล้ว ยังนับเป็น "ผู้รู้" เรื่องพระกรุกำแพงเพชรอย่างหาตัวจับได้ยาก ระหว่างศึกษาข้อมูลและข้อเท็จจริงของพระกรุ บางคนถึงกับกล่าวหาว่าเขาเป็น "คนบ้า" ที่จู่ๆ ก็ปืนขึ้นไปบนกำแพงวัด ก้มๆ เงยๆ อยู่บนนั้นนานหลายวัน ขณะที่บางครั้งก็ไปขุดดินใต้ต้นไม้ลึกลงไปเป็นเมตร โดยไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร แต่สำหรับชัยฤทธิ์แล้วการกระทำเหล่านั้น ทำให้ได้ความรู้กลับมาเป็นผลตอบแทน ไม่ใช้รู้แบบงูๆ ปลาๆ แต่ละเอียด ลึกซึ้ง และรอบด้าน
       นอกจากมีพิพิธภัณฑ์ของตัวเองแล้ว ชัยฤทธิ์ยังเป็นนักอนุรักษ์ที่อยากถ่ายทอดความรู้และเรื่องราวอันล้ำค่าของพระกรุกำแพงเพชรให้แก่คนรุ่นหลังได้สืบสานรักษาพระดีของเมืองกำแพงเพชรให้คงอยู่อย่างถูกต้องชั่วลูกชั่วหลาน เขาจึงตัดสินใจเปิดอบรมเรือ่งพระกรุกำแพงเพชรของแท้ในแนวทางและวิธีการของเขาเอง ซึ่งมีรายละเอียดเฉพาะตัว
       ก่อนหนัานี้ชัยฤทธิ์ ไม่คิดจะเป็น "ผู้ชี้แนะ" เท่าไหร่นัก เขามักถ่อมตัวว่าไม่มีความรอบรู้พอที่จะเป็นครูบาอาจารย์สอนใครได้ ได้แต่นำความรู้ที่มีทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นตัวอักษร จนได้หนังสือดีออกมาหนึ่งเล่ม ชื่อ "พระกรุกำแพงเพชร" เนื้อหาบอกเล่าถึงพระกรุของเมืองกำแพงเพชรที่มีในปัจจุบัน รวมถึงกระกรุพิมพ์ต่างๆ ลักษณะ รูปร่างแต่ละพิมพ์เป็นอย่างไร
       ชัยฤทธิ์ กล่าวว่าที่ผ่านมาคนนจำนวนมากถูกหลอกในวงการขายพระ และคนทำพระปลอมก็นิยมทำปลอมพระซุ้มกอและพระลีลาเม็ดขนุน เพราะอยู่ในชุด "เบญจภาคี" อีกทังเชื่อ "มีกูแล้วไม่จน" ซึ่งเขากล่าวปนเสียงหัวเราะว่า คนที่ไม่จนคือคนที่ขายพระปลอมนั่นเอง เพราะทำขายกันจนรวยเป็นล่ำเป็นสัน "ในอดีตคนรุ่่นก่อนจะนิยมเรียกพระกรุ โดยระบุว่าเป็นวัดนั้น วันนี้ เช่น กรุวัดพิกุล กรุวัดบรมธาตุ เป็นต้น ที่ต้องเรียกอย่างนี้ก็เพื่อให้พระกรุของวัดนั้นๆ ทำราคาได้ ปัจจุบันก็ยังเป็นหมือนในอดีตที่เรียกกัน แต่อยากถามว่าการระบุว่าเป็นพระกรุวัดนั้้น วันนี้ เขารู้แท้แน่ชัดหรือไม่ ว่ามันใช่พระกรุจริงๆ หรือทำปลอมขึ้นมา ผมว่าทุกคนต่างก็ไม่รู้ เพราะไม่ใช่คนสร้าง ไม่ใช่คนขุด แล้วถามว่าคนวงการพระในปัจจุบันยอมรับความจริงข้อนี้กันได้ไหม คำตอบสำหรับผมคือ เขารับไม่ได้ เพราะมีเรื่องผลประโยชน์เงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องระบุว่าเป็นพระกรุวัดอะไร" นี้คืออีกเหตุผลหนึ่งของการเปิดอบรมดูพระกรุครั้งนี้
       สำหรับการอบรม ชัยฤทธิ์บอกเล่าตั้งแต่เบื้องต้นของพระองค์จริง การดูพระเนื้อเป็นอย่างไร คราบรา นวลกรุ "คำว่านวลกรุ ต้องดูว่า รา กับ นวลกรุ อันไหนเกิดก่อนกัน คำตอบคือราต้องเกิดติดเนื้อองค์พระก่อน เพราะฉะนั้น พระองค์ไหนก็ตามถ้าเกิดราปิดทับนวลกรุ โยนท้ิงได้ทันที เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ราต้องอยู่ใต้นวบกรุ เพราะนวลกรุเป็นส่ิงสะสมที่เกิดขึ้นทีหลัง ค่อยสะสมไปเรื่อยๆ จนติดแน่น ดังนั้นนวลกรุจะปิดทับราเสมอ ต้องไม่ลืมหลักวิทยาศาสตร์ข้อนี้ ถ้าลืมเมื่อไรก้เท่ากับว่าเราเข้าไปตกบ่วงของคนขายพระปลอม ต้องระวัน"
       ข้อสำคัญประการหนึ่งของการเรียนรู้ คือต้องเห็นด้วยตา ด้วยเหตุนี้ในการอบรมของชัยฤทธิ์ เขาจึงลงทุนหอบหิ้วพระกรุของแท้จากพิพิธภัณฑ์สมบัติส่วนตัว ไปให้คนเรียนได้ส่องพระจริงถึง 50 องค์ เพื่อให้เห็นจุดเด่นจุดด้อยกับตาตัวเองกันเลยทีเดียว "จุดประสงค์ของผม คืออยากให้ทุกคนที่มาอบรมได้เห็นพระองค์จริง พระนี้ผมจัดใส่ตู้ไว้ให้ดู ถ้าใครมีกล้องก็สามารถส่องดูที่องค์พระได้เลย นอกจากนี้ ผมยังจัดเตรียมไว้ให้หยิบสิ่งกับมือตัวเองอีกประมาณ 10 องค์ เพราะฉะนั้น ถามหน่อยว่ามีใครจะนำพระชุ้มกอ พระลีลาเม็ดขนุนที่เป็นของกรุแท้ๆ ให้คุณได้หยิบส่อง นอกจากที่นี้ที่เดียว         
       อย่างไรก็ดี การสอนให้คนรู้ดูพระให้เป็นว่าจริงหรือไม่จริง แท้หรือไม่แท้ ชัยฤทธิ์บอกว่าเหมือนโปลิสจับขโมย พอแท้ทางหนึ่งได้ ก็ไปโผล่อีกทาง "พวกขายพระปลอมมีวิธีหนึ่งที่บอกได้ยากมาก ถ้าเขาใช้วิธีนี้ต้องบอกเลยว่า จับผิดได้ยากมาก แต่ก็สามารถจับได้ ผมจะบอกว่าวิธีเป็นอย่างไร ขอไปเฉลยในการอบรม ต้องไปดูตอนอบรมเท่านั้น ไปเห็นองค์จริงแล้วผมจะบอก" เจ้าของพิพิธภัณฑ์โสภณไคยเย้าแหย่กันเล่นพอสนุก
       สุดท้ายแล้ว พระกรุกำแพงเพชรทุกรุที่คนรุ่นก่อนสร้างไว้ ในเรื่องพุทธคุณนั้นบอกได้ว่าทุกส่ิงดีหมด แต่อยู่ที่ตัวคนปฏิบัติเท่านั้นว่าจะทำอย่างไร ผิดศีลธรรมหรือไม่ เมื่อทำไม่ดี ย่อมได้ไม่ดีตอบแทน หากใครจะแย้งว่าเยอะแยะไปที่ทำไม่ดี แต่ได้ดี บอกเลยว่านั้นเป็นเพราะ "บุญเก่า" เขายังไม่หมด เมื่อไรที่หมดบุญเก่า เขาต้องประสบชะตากรรมอย่างแน่นอน

 

คำสำคัญ : พระเครื่อง

ที่มา : https://www.matichon.co.th/prachachuen/prachachuen-scoop/news_1390456

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2562). พระกรุกำแพงเพชร. สืบค้น 27 กรกฎาคม 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=1151&code_db=610005&code_type=01

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1151&code_db=610005&code_type=01

Google search

Mic

กรุอาวาสใหญ่

กรุอาวาสใหญ่

ที่ตั้งกระพระวัดอาวาสใหญ่ อยู่ริมถนนกำแพงพรานกระต่ายติดกับบ่อสามแสน ประเภทพระที่พบ ได้แก่ พระฝักดาบ พระลีลากำแพง พระซุ้มเสมา พระคู่สวดอุปฌานอกเสมา พระโพธิ์บัลลังก์ พระฤาษีสนิมตีนกา พระท่ามะปราง พระลีลาพิมพ์ตะกวน พระซุ้มเรือนแก้ว พระคู่สวดอุปฌาในเสา พระมารวิชัยสนิมตีนกา และพิมพ์อื่นๆ

เผยแพร่เมื่อ 20-08-2019 ผู้เช้าชม 2,496

พระลีลา ทุ่งเศรษฐี พิมพ์เม็ดขนุน

พระลีลา ทุ่งเศรษฐี พิมพ์เม็ดขนุน

พระลีลาเม็ดขนุน หรือกำแพงเม็ดขนุน หรือกำแพงเขย่งก็เรียก ในอดีตเป็นพระที่ได้รับความนิยมสูงกว่าพระกำแพงซุ้มกอ และถูกจัดอยู่ในชุดพระเบญจภาคีชุดใหญ่ แต่ภายหลัง พระกำแพงเม็ดขนุนเป็นพระที่ค่อนข้างหายาก และเป็นพระที่มีลักษณะทรงยาว ซึ่งไม่เข้าชุดกับพระเบญจภาคีที่เหลือ ภายหลังจึงได้มีการเปลี่ยนเอาพระกำแพงซุ้มกอเข้าไปแทนที่ พุทธลักษณะพระกำแพงเม็ดขนุน เป็นพระปางลีลาศิลปสุโขทัย แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็กส่วนเนื้อพระกำแพงเม็ดขนุน แบ่งออกได้ดังนี้ เนื้อดิน เนื้อว่านล้วนๆ เนื้อว่านหน้าทอง และเนื้อว่านหน้าเงิน (คลิกกลับไปดูกำแพงเม็ดขนุน) เนื้อชิน ส่วนเนื้อที่ได้รับความนิยมที่สุด คือเนื้อดิน มีด้วยกันหลายสี เช่น เนื้อสีแดง,เนื้อสีเหลือง, เนื้อสีเขียว, เนื้อสีดำ และเนื้อสีผ่าน (คือมีมากกว่า1 สี ในองค์เดียวกัน) รองลงมาก็จะเป็นเนื้อว่านหน้าทอง และว่านหน้าเงิน แต่ก็เป็นเนื้อที่หายากมากเช่นกัน

เผยแพร่เมื่อ 15-08-2019 ผู้เช้าชม 18,602

กรุวัดทุ่งเศรษฐี

กรุวัดทุ่งเศรษฐี

ที่ตั้งกรุพระวัดทุ่งเศรษฐี อยู่ทิศตะวันตกของป้อมบ้านเศรษฐี ประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันที่ตั้งกรุถูกขุดเป็นสระกว้างประมาณ 600 ตารางเมตร ชาวบ้านนิยมเรียกคำว่า "กรุทุ่งเศรษฐี" ก็เห็นจะเป็นนามมงคลของคำว่า "เศรษฐี" กรุพระต่างๆ ที่ชาวบ้านนิยมเรียกใช้นามคำว่า "กรุทุ่งเศรษฐี" ขอสรุปมีกรุดังนี้ กรุวัดทุ่งเศรษฐี กรุหนองลังกา กรุซุ้มกอ กรุเจดีย์กลางทุ่ง กรุตาพุ่ม กรุนาตาคำ กรุตาลดำ กรุคลองไพร กรุบริเวณวัดพระบรมธาุและกรุอื่่นๆ ที่อยู่ในบริเวณลานทุ่ง กรุพระต่างๆ ที่เขียนนี้ สมัยก่อนเป็นบริเวณทุ่งนาของเศรษฐีพิกุล ปัจจุบันชาวบ้านจึงเรียกว่า "กรุทุ่งเศรษฐี"

 

เผยแพร่เมื่อ 16-08-2019 ผู้เช้าชม 8,628

พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์กลาง

พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์กลาง

พระซุ้มกอ พิมพ์กลางขึ้นมาจากหลายกรุในบริเวณทุ่งเศรษฐี แม้ว่าแต่ละกรกุจะมีรายละเอียดทางพิมพ์ที่แตกต่างกันออกไปบ้างแต่หลักการพิจารณาก็คล้ายๆกันกับการพิจารณาพระกำแพงซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ คือ จำเป็นจะต้องพิจารณาลักษณะโดยรวม เนื้อหา และธรรมชาติ เนื่องจากแต่และกรุมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆที่แตกต่างกันออกไป จะยึดถือจุดสังเกตตรงนั้นตรงนี้เป็นจุดตายตัวย่อมจะไม่น่าจะถูกต้องนัก ต้องสังเกตลักษณะโดยรวม ลักษณะโดยรวมที่ว่านี้หมายถึงลักษณะของฝีมือช่าง ซึ่งประกอบด้วยลักษณะองค์พระ ลายกนก ลวดลายโพธิ์บัลลังค์ เป็นต้น พุทธศิลปะจะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนทางเนื้อหานั้นเช่นเดียวกันกับการพิจารณาพระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ และพระกำแพงชั้นสูงทั่วไป กล่าวคือต้องมีลักษณะนุ่ม ละเอียด มีจุดแดงเล็ก ๆ ในเนื้อเป็นบางแห่ง คราบรารักที่จะมีบ้างไม่มากก็น้อยขึ้นกับสภาพของกรุ ที่สำคัญที่สุดต้องพิจารณาธรรมชาติให้ดี การยุบตัวด้านหลังที่เป็นคลื่น ไม่ราบเรียบตึง เพราะการเซทตัวของเนื้อพระ ด้านขอบข้างจะเห็นว่ามีการตัดด้วยวัตถุบางอย่างทุกองค์

เผยแพร่เมื่อ 16-08-2019 ผู้เช้าชม 39,155

พระนาคปรกยืน ศิลปะทวาราวดี

พระนาคปรกยืน ศิลปะทวาราวดี

พระนาคปรกที่มีชื่อเสียง และมีมากกรุต้องยกให้จังหวัดลพบุรี เช่น พระนาคปรก กรุวัดปืน และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ส่วนพระนาคปรกที่ทุก ๆ ท่านเห็นอยู่นี้ เป็นพระนาคปรกศิลปะทวาราวดี และที่สำคัญเป็นพระนาคปรกยืนซึ่งปรกติพระนาคปรกนั่งศิลปะทวาราวดีก็หายากมากอยู่แล้ว ส่วนพระนาคปรกยืน ศิลปะทวาราวดีก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่

เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้เช้าชม 3,914

พระนางกำแพงขาโต๊ะ

พระนางกำแพงขาโต๊ะ

เมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองกว้างใหญ่ มีสถาปัตยกรรมแบบต่างๆ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งวัดเก่าแก่แต่โบราณกาลซึ่งมีมากถึง 20 วัด โดยสมัยก่อนนิยมสร้างวัดไว้ภายในตัวเมืองส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งสร้างไว้นอกเมือง ด้วยเหตุนี้เมืองกำแพงเพชร จึงมีพระกรุพระเก่าที่ขุดพบทั้งจากวัดในตัวเมือง และวัดนอกเมือง มากมายหลายกรุหลายวัดด้วยกัน ล้วนมีชื่อเสียงโด่งดังในวงการพระเครื่อง และที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในพระชุดเบญจภาคียอดนิยม คือ พระกำแพงซุ้มกอ เนื้อดินเผา เป็นพระกรุที่ขุดพบบริเวณทุ่งเศรษฐี ภายในตัวเมืองกำแพงเพชรนอกจากนี้ยังมีการขุดพบพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยได้จากวัดทั้งหลายที่อยู่ภายในเมืองกำแพงเพชร พระเครื่องที่ขุดพบนี้มีหลายพิมพ์ มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดปานกลาง และขนาดใหญ่

เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้เช้าชม 7,305

ประวัติพระซุ้มกอ (พระกำแพงซุ้มกอ)

ประวัติพระซุ้มกอ (พระกำแพงซุ้มกอ)

พระกำแพงซุ้มกอ จัดเป็นพระที่สุดยอด และเอกของเมืองกำแพงเพชร เป็นพระที่อมตะ ทั้งพุทธศิลป์ และพุทธคุณถูกจัดอยู่ในชุดเบญจภาคีที่สูงสุดของพระเครื่องเมืองไทย พระกำแพงซุ้มกอ เป็นพระที่ทำจากเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ และทำจากเนื้อชิน ก็มีพุทธลักษณะของพระซุ้มกอนั้นองค์พระประติมากรรม ในสมัยสุโขทัย นั่งสมาธิลายกนกอยู่ด้านข้างขององค์พระนั่งประทับอยู่บนบัวเล็บช้าง ขอบของพิมพ์พระจะโค้งมนลักษณะคล้ายตัว ก.ไก่ คนเก่า ๆ จึงเรียกว่า “พระซุ้มกอ” พระกำแพงซุ้มกอ ที่ค้นพบมีด้วยกัน 5 พิมพ์ ประกอบด้วย พิมพ์ใหญ่ แยกออกเป็น 2 ประเภท คือ มีลายกนกและไม่มีลายกนก พระที่ไม่มีลายกนกส่วนใหญ่มักจะมีสีดำ หรือสีน้ำตาลแก่ซึ่งเรามักจะเรียกว่า “พระกำแพงซุ้มกอดำ” พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก พิมพ์เล็กพัดโบก พิมพ์ขนมเปี๊ย พระกำแพงซุ้มกอ ทั้งมีลายกนกและไม่มีลายกนกเป็นพระที่มีศิลปะของสุโขทัยปนกับศิลปะศรีลังกา โดยเฉพาะไม่มีลายกนกจะเห็นว่าเป็นศิลปะศรีลังกาอย่างเด่นชัด พระกำแพงซุ้มกอ เนื้อขององค์พระ ใช้ดินผสมกับว่านเกสรดอกไม้ จึงทำให้เนื้อของพระซุ้มกอมีลักษณะนุ่มมัน ละเอียดเมื่อนำสาลีหรือผ้ามาเช็ดถูจะเกิดลักษณะมันวาวขึ้นทันที

เผยแพร่เมื่อ 15-08-2019 ผู้เช้าชม 156,431

สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) กับวัดเสด็จ

สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) กับวัดเสด็จ

สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) กับวัดเสด็จ เมืองกำแพงเพชร เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพุฒาจารย์โต เป็นชาวกำแพงเพชร หลักฐานจากบันทึกของมหาอำมาตย์ตรี พระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันท์) ความว่า... ครั้งนั้นเจ้าพระยาจักรี ตั้งทัพอยู่ ณ เมืองกำแพงเพชร เวลาเช้าวันหนึ่งออกลาดตระเวนกองทัพทั้งปวงเพื่อบัญชาการ และชักม้าลัดเพื่อตัดทาง ม้าก็เลยพาท่านเข้าป่าฝ่าพง จำเพาะมายังบ้านปลายนาใต้เมืองกำแพงเพชรเป็นเวลาเย็น จึงแลเห็นโรงหนึ่งตั้งอยู่ปลายทุ่งนา เจ้าคุณแม่ทัพผู้นั้นจึงได้ชักม้าไปถึงโรงนั้น ไม่เห็นมีคนผู้ใหญ่อยู่ ได้เห็นแต่หญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมา เจ้าคุณแม่ทัพผู้นั้นจึงบอกแก่นางสาวคนนั้นว่า ข้ากระหายน้ำ เจ้าจงตักน้ำมาให้กินสักขันเถิด... 

เผยแพร่เมื่อ 17-01-2020 ผู้เช้าชม 5,419

พระกำแพงเม็ดมะลื่น

พระกำแพงเม็ดมะลื่น

ยอดพระกรุแห่งลานทุ่งเศรษฐีพระกำแพงเม็ดมะลื่นนี้ ได้มีการสร้างขึ้นครั้งแรกในรัชสมัยของเจ้าพระยาลิไทพระบรมกษัตริย์ในลำดับที่5แห่งราชวงศ์พระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งในรัชสมัยของพระองค์ได้ทรงเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนามาก พระองค์จึงได้ทรงทำนุบำรุงและทรงสร้างพระพุทธรูป พระเครื่องมากแบบมากพิมพ์ เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ให้ชนชั้นรุ่นลูกรุ่นหลานได้ศึกษาหาความรู้ว่า ครั้งหนึ่งในสมัยของพระองค์นั้นพระพุทธศาสนาได้เจริญรุ่งเรืองมากดังปรากฏ เป็นอนุสรณ์ ณ ที่จังหวัดสุโขทัยและกำแพงเพชร และที่อื่นๆ อีกมากมาย

เผยแพร่เมื่อ 15-08-2019 ผู้เช้าชม 4,644

กรุตาลดำ

กรุตาลดำ

ที่ตั้งกรุพระวัดตาลดำ อยู่ทิศตะวันออกของกรุเจดีย์กลางทุ่ง ประมาณ 400 เมตร ปัจจุบันถูกชาวบ้านปราบเป็นที่ทำการเกษตร ประเภทพระที่พบ ได้แก่ พระนางพญากำแพง พระอู่ทองกำแพง พิมพ์ใหญ่ พระลูกแป้ง คู่ พระเจ้าห้าพระองค์ พระกลีบบัว พระลูกแป้ง เดียว พระเจ้าสามพระองค์ พระเจ้าสิบพระองค์ และพิมพ์อื่นๆ

เผยแพร่เมื่อ 19-08-2019 ผู้เช้าชม 5,088