![]()
ตองกง
เผยแพร่เมื่อ 01-06-2020 ผู้ชม 4,571
[16.4258401, 99.2157273, ตองกง]
ตองกง หรือ หญ้าตองกง ชื่อสามัญ Bamboo grass, Tiger grass
ตองกง ชื่อวิทยาศาสตร์ Thysanolaena latifolia (Roxb. ex Hornem.) Honda (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Agrostis maxima Roxb., Thysanolaena maxima (Roxb.) Kuntze, Melica latifolia Roxb. ex Hornem.) จัดอยู่ในวงศ์หญ้า (POACEAE หรือ GRAMINEAE)
สมุนไพรตองกง มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า หญ้าไม้กวาด หญ้ายูง (ยะลา), หญ้ากาบไผ่ใหญ่ (เลย), เลาแล้ง (สุโขทัย), ก๋ง ต้นก๋ง (คนเมือง, ภาคเหนือ), ตองกง (ไทใหญ่), เค่ยแม (กะเหรี่ยงเชียงใหม่), เควยะหล่า (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), มิ้วฮูเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ต้าวฉึเจ๋ (ม้ง), น่ำหยาว (เมี่ยน), ลำก๋ง ลำกร่อล (ลั้วะ), ตาร์ล (ขมุ), บ่งบิ๊ (ปะหล่อง) เป็นต้น
ลักษณะของตองกง
ต้นตองกง จัดเป็นไม้ล้มลุกจำพวกหญ้า มีอายุหลายปี ลำต้นกลม มีลักษณะคล้ายต้นไผ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้นประมาณ 7.6-17.6 มิลลิเมตร ลำต้นตั้งมีกอที่แข็งแรงมาก มีความสูงของต้นประมาณ 3-4 เมตร ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและส่วนของลำต้นหรือเหง้าที่อยู่ใต้ดิน[1],[2],[3] มีเขตการกระจายพันธุ์กว้าง โดยสามารถพบได้ทั่วไปในประเทศอินเดีย จีน หม่า รวมไปถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาค โดยขึ้นเป็นวัชพืชตามที่โล่งสองข้างทาง ตามไหล่เขา และตามชายป่า ที่ระดับความสูงจนถึงประมาณ 1,800 เมตร
ใบตองกง ใบมีลักษณะเป็นรูปใบหอก ขนาดใหญ่ ค่อนข้างกว้าง โดยมีความกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตรและยาวประมาณ 30-55 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบป้าน ส่วนขอบใบเป็นจักละเอียด เนื้อใบค่อนข้างหนา ส่วนกาบใบเกลี้ยง ยกเว้นบริเวณขอบตอนบนจะมีขนสั้น ๆ ส่วนกาบใบตอนปลายจะเป็นก้านสั้น ๆ ซึ่งเป็นสีแดงเข้ม มีลิ้นใบที่ระหว่างรอยต่อด้านในของกาบใบและแผ่นใบเป็นเยื่อบาง ๆ มีความยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร และปลายตัด
ดอกตองกง ออกดอกเป็นช่อแบบกระจายและมีขนาดใหญ่ ปลายช่อดอกโค้งลง มีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ช่อดอกย่อยมีก้านและมักอยู่เป็นคู่ ๆ ส่วนกาบช่อย่อยมี 2 อันลักษณะคล้ายกัน เป็นรูปไข่ โดยอันบนจะยาวและบางกว่าอันล่าง และในแต่ละช่อย่อยจะมีดอกย่อยอยู่ 2 ดอก และอาจมีถึง 3 ดอก แต่จะพบได้น้อยมาก ดอกล่างเป็นแบบไม่มีเพศ มีแต่กาบล่างและมีขนใกล้ ๆ ขอบ ส่วนดอกบนเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ กาบล่างมีสันตามยาว 3 สัน ขอบทั้ง 2 ด้านบางใสและมีขนค่อนข้างแข็ง ส่วนกาบบนมีเส้นสันตามยาว 2 เส้น เนื้อบางและใส เกสรตัวผู้มี 2 อัน ส่วนเกสรตัวเมียปลายจะแยกเป็น 2 แฉก และเป็นขุย สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
ผลตองกง ลักษณะของผลเป็นรูปไข่ ผลเป็นสีน้ำตาลแดง มีความยาวประมาณ 0.6 มิลลิเมตร
สรรพคุณของตองกง
1. รากตองกงนำมาต้ม ใช้อมกลั้วคอเมื่อมีไข้ (ราก)
2. ใบตองกงนำมาใช้กวาดแก้อาการไอของเด็กและผู้ใหญ่ (ใบ)
ประโยชน์ของตองกง
1. นอกจากจะใช้เป็นยาสมุนไพรแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ทำเป็นเครื่องจักสารและเครื่องมือใช้สอยต่าง ๆ ได้ (เข้าใจว่าคือก้านช่อดอก)
2. ใช้ทำเป็น "ไม้กวาดตองกง" โดยใช้ก้านช่อดอกนำมาตากแห้งนำมามัดกับด้ามไม้ไผ่ใช้ทำเป็นไม้กวาด ส่วนดอกนำมาถักยึดกับด้ามไม้ใช้ทำเป็นไม้กวาด
3. ใบสามารถนำมาใช้ห่อขนม ห่อข้าวต้ม ห่อข้าวเหนียวนึ่งได้
4. ใบนอกจากจะใช้ห่อขนมแล้ว ยังนำมาใช้ในงานพิธีสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย เช่น พิธีการผูกข้อมือ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน)
5. ในต่างประเทศอย่างอเมริกา แอฟริกา และทางยุโรป พบปลูกเป็นหญ้าประดับและนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ
6. ใบและยอดอ่อนใช้เป็นอาหารสำหรับสัตว์ตามธรรมชาติ โดยการแทะเล็มของโค กระบือ ช้าง และสัตว์ป่าอื่น ๆ โดยใบและยอดอ่อนนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้ เส้นใย 15.9%, ไขมัน 2.7%, เถ้า 5.6%, โปรตีน 10.9%, ธาตุแคลเซียม 0.1%, ธาตุฟอสฟอรัส 0.38% และแทนนิน 1.01%
คำสำคัญ : ตองกง
ที่มา : https://medthai.com/
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2563). ตองกง. สืบค้น 14 พฤศจิกายน 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=1622&code_db=610010&code_type=01
Google search
ต้นกระจับเป็นพืชน้ำล้มลุกอายุหลายฤดู ลักษณะเป็นกอลอยน้ำ ใบกระจับมี 2 แบบ คือ ใบใต้น้ำเป็นเส้นยาวคล้ายราก ส่วนใบลอยน้ำรูปคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ขอบใบจักแหลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเป็นมัน ด้านล่างมีสีแดง ก้านใบยาวตรงกลางพองออก ดอกกระจับเป็นดอกเดี่ยวสีขาว ออกที่โคนก้านใบ มีกลีบดอก 4 กลีบ บานเหนือน้ำ ผลกระจับเมื่อเป็นผลจะจมลงใต้น้ำ ผลหรือฝักกระจับมีสีดำขนาดใหญ่ เปลือกหนาแข็งเขางอโค้งคล้ายเขาควาย กระจับชนิดนี้มีปลายเขาแหลม
เผยแพร่เมื่อ 12-05-2020 ผู้เช้าชม 8,628
ต้นไฟเดือนห้า จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีอายุหลายปี ลำต้นมีความสูง อาจสูงได้ถึง 1 เมตร ตามกิ่งอ่อนและก้านดอกมีขน กิ่งและก้านมียางสีขาวคล้ายน้ำนมอยู่ภายใน มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเขตร้อน ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยนานแล้ว โดยขึ้นเป็นวัชพืชทั่วไป ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้าม ก้านใบสั้น ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกยาวหรือรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ง่ามใบและที่ปลายกิ่ง ก้านช่อดอกยาว มีขนสั้นนุ่มปกคลุม ดอกเป็นสีแดง กลีบดอกมีลักษณะพับงอ และมีรยางค์รูปมงกุฎหรือกระบังรอบสีเหลืองหรือส้มยื่นออกมา ดอกหนึ่งจะมีกลีบดอก 5 กลีบ มีเกสรเพศผู้ 5 อัน
เผยแพร่เมื่อ 09-07-2020 ผู้เช้าชม 4,526
ต้นกระชับเป็นพรรณไม้ล้มลุก ที่มีลำต้นสูงประมาณ 1 เมตร ลักษณะลำต้นตั้งตรง กิ่งก้านของมันมีขนขึ้นประปราย ใบกระชับมีลักษณะคล้ายรูปสามเหลี่ยม ใบจักเว้าเป็น 3-5 แฉก ริมขอบใบหยิกเป็นซี่ฟันปลา เนื้อใบบาง พื้นผิวหลังและใต้ท้องใบหยากสาก ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-5 นิ้ว ก้านใบยาวประมาณ 1-4 นิ้ว ดอกกระชับมีทั้งดอกเพศผู้และเพศเมียอยู่ในต้นเดียวกันดอกเพศผู้มีลักษณะค่อนข้างกลม ขนาดเล็ก ส่วนปลายท่อกลีบจะเป็นหยัก 5 หยัก
เผยแพร่เมื่อ 12-05-2020 ผู้เช้าชม 2,825
มะเดื่อปล้อง จัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลางหรือใหญ่ มีความสูงของต้นได้ประมาณ 10 เมตร และอาจสูงได้ถึง 12 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลือกลำต้นเรียบหนาเป็นสีน้ำตาลหรือสีเทาปนดำ ตามลำต้นมีรอยเป็นข้อปล้องห่างๆ คล้ายรอยควั่นเป็นข้อๆ ตลอดถึงกิ่ง กิ่งก้านอ้วนสั้น กิ่งอ่อนและลำต้นอ่อนกลวง ทุกส่วนมีน้ำยางสีขาวข้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการปักชำ เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ชอบความชุ่มชื้น
เผยแพร่เมื่อ 13-07-2020 ผู้เช้าชม 6,629
ลักษณะทั่วไป ต้นเป็นพืชล้มลุกลำต้นตรงสูงประมาณ 60 ซม. ใบเป็นใบประกอบ ประกอบด้วยใบอ่อน 5 ใบ มีขนาดไม่เท่ากัน เกิดจากจุด ดอกออกเป็นช่อตามปลายยอด ตรงกลางช่อจะบานก่อน ก้านดอกย่อยเรียวเล็ก กลีบดอกมีสีขาวอมม่วงอ่อน 4 กลีบ ก้านชูเกสรยาวเรียว ผลมีลักษณะเป็นฝักเรียวยาว แก่แล้วจะแตกออก พบภายในนาข้าวริมทางทั่วไป
เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 2,900
ผักปลาบ จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก ลำต้นมีลักษณะทอดเลื้อยแต่ชูขึ้น ชูได้สูงประมาณ 65-85 ลำต้นเป็นสีเขียวอวบน้ำ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.1-3.5 มิลลิเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ตามกิ่งก้านมีขนอ่อนๆ ขึ้นปกคลุม ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งจำพวกวัชพืช มักขึ้นทั่วไปตามที่ว่างเปล่าและไม่เลือกดิน พบทั่วไปในภูมิภาคเขตศูนย์สูตร ตามริมน้ำ ทุ่งหญ้า และขึ้นในที่ลุ่มชื้นแฉะทั่วไป เช่น จังหวัดนครราชสีมา แม่ฮ่องสอน ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 330-357 เมตร
เผยแพร่เมื่อ 10-07-2020 ผู้เช้าชม 11,729
สันพร้าหอม จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อนชนิดหนึ่ง มีอายุได้หลายปี ลำต้นตั้งตรง มีความสูงของต้นได้ประมาณ 70-120 เวนติเมตร โคนต้นเรียบเป็นมัน เกลี้ยง ตามลำต้นเป็นร่อง แต่จะค่อนข้างเกลี้ยงเล็กน้อย รากแก้วใต้ดินแตกแขนงมาก ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดและการปักชำกิ่ง จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่ขึ้นได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนและชุ่มชื้น ความชื้นปานกลาง มีแสงแดดส่องปานกลาง พบขึ้นบริเวณตามหุบเขาหรือลำธาร และพบปลูกมากทางภาคเหนือและภาคอีสาน
เผยแพร่เมื่อ 17-07-2020 ผู้เช้าชม 4,803
ลักษณะทั่วไป เป็นวัชพืชพุ่มเตี้ย อายุยืนหลายฤดูลำต้นทอดเลื้อย ตามพื้นดิน มีมีไหลไต้ยาว ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ ดอกออกตามซอกใบ เป็นดอกเดี่ยว มีสีเหลืองส่วนโคนกลีบดอกจะก้านยาว ออกดอกตลอดปี ติดผลเป็นฝักตั้งตรง เป็นเหลี่ยมห้าเหลี่ยม ฝักยาว 4-6 ซม. เมื่อผลแก่จะแห้งและแตกดีดเมล็ดออกมา เมล็ดเป็นรูปไข่แบน ผิวเมล็ดย่นสีน้ำตาล พบขึ้นเป็นวัชพืชในสวนผักและไม้ดอก และในพื้นที่ทำการเกษตรโดยทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย ออกดอกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและไหล
เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 3,323
บวบเหลี่ยม เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย เนื่องจากพบต้นที่มีลักษณะเป็นพืชป่าในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย และมีเขตการกระจายพันธุ์และนิยมบริโภคกันมากในประเทศเขตร้อน เช่น ไทย จีน ฮ่องกง และอินเดีย โดยจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกมีอายุเพียงปีเดียว ชอบเลื้อยพาดพันไปตามต้นไม้อื่นหรือทอดเลื้อยไปตามพื้นดิน ยอดอ่อนนุ่ม เถาหรือลำต้นเป็นเหลี่ยม ตามข้อเถามีมือสำหรับใช้ยึดเกาะเป็นเส้นยาว บางทีแยกเป็นหลายแขนง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ทนแล้ง ทนฝนได้ดี โรคและเมล็ดไม่มารบกวน พรรณไม้ชนิดนี้มักขึ้นตามที่รกร้าง ตามริมห้วย หนอง คลอง และตามบึงทั่วไป
เผยแพร่เมื่อ 02-06-2020 ผู้เช้าชม 13,762
เหมือดโลดเป็น ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 6-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาดำ หนา แตกเป็นร่องลึกตามยาว ยอดอ่อนและช่อดอกมีขนสีน้ำตาลอมเหลืองหม่นขึ้นหนาแน่น ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ แผ่นใบรูปขอบขนานกว้าง หรือรูปรีแกมรูปไข่ กว้าง 6-10 เซนติเมตร ยาว 10-16 เซนติเมตร ปลายแหลมหรือเรียวแหลม โคนมนหรือรูปหัวใจตื้น ขอบใบเรียบ หรือมีคลื่นเล็กน้อย ผิวด้านบนมีขนประปราย ผิวใบด้านล่างมีขนสีน้ำตาลแดงหนาแน่น ผิวใบด้านบนค่อนข้างสาก แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง เส้นแขนงใบข้างละ 8-11 เส้น เส้นใบย่อยแบบร่างแหชัดเจนทั้งสองด้าน ก้านใบยาว 1.2-1.8 เซนติเมตร หูใบรูปไข่ยาว 4-6 มิลลิเมตร
เผยแพร่เมื่อ 23-02-2017 ผู้เช้าชม 2,632
