ศาลเจ้าพ่อพะวอ
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้ชม 1,122
[16.6706665, 98.5944218, ศาลเจ้าพ่อพะวอ ]
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนจรดวิถีถ่อง ศาลนี้แต่เดิมอยู่ที่วัดดอยเขาแก้วฝั่งตรงข้ามกับตัวเมือง ต่อมาใน พ.ศ. 2490 ชาวเมืองเห็นว่าศาลนั้นไม่สมพระเกียรติ จึงช่วยกันสร้างศาลขึ้นใหม่พร้อมกับให้กรมศิลปากรหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ในพระอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า “พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.2277 สวรรคต พ.ศ. 2325 รวม 48 พรรษา” ศาลนี้เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ พระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า สิน (ชื่อจีนเรียกว่า เซิ้นเซิ้นซิน) เป็นบุตรของขุนพัฒน์ และ นางนกเอี้ยง เกิดเมื่อวันอาทิตย์ มีนาคม พ.ศ. 2277 ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาเจ้าพระยาจักรีผู้มีตำแหน่งสมุหนายกเห็นบุคลิกลักษณะ จึงขอไปเลี้ยงไว้เหมือนบุตรบุญธรรม ตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัยได้รับการศึกษาขั้นต้นจากสำนักวัดโกษาวาส (วัดคลัง) และ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 13 ขวบ ที่วัดสามพิหาร หลังจากสึกออกมาแล้วได้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก และ อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่ออายุครบ 21 ปีตามขนบประเพณี 3 พรรษา หลังจากสึกออกมาได้เข้ารับราชการ ต่อ ณ. กรมมหาดไทยที่ศาลหลวงในกรมวัง ต่อมาในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์) จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตากจนได้เป็นพระยาตาก ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นได้ถูกเรียกตัวเข้ามาในกรุงศรีอยุธยา เพื่อแต่งตั้งไปเป็น พระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชรแทนเจ้าเมืองคนเก่าที่ถึงแก่อนิจกรรมลงใน พ.ศ. 2310 ครั้นเจริญวัยวัฒนา ก็ได้ไปถวายตัวทำราชการกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีความดีความชอบจนได้รับเลื่อนหน้าที่ราชการไปเป็นผู้ปกครองหัวหน้าฝ่ายเหนือคือ เมืองตาก และเรียกติดปากมาว่า พระยาตากสิน สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชครองราชย์สมบัติกรุงธนบุรีได้ 15 ปีเศษ ก็สิ้นพระชนม์มีชนมายุ 48 พรรษา กรุงธนบุรีัมีกำหนดอายุกาลได้ 15 ปี
คำสำคัญ : ศาลเจ้าพ่อพะวอ
ที่มา : http://123.242.165.136/?module=acticle&pages=acticle_detail&acti_code=A0000004
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2561). ศาลเจ้าพ่อพะวอ . สืบค้น 13 พฤศจิกายน 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=662&code_db=610002&code_type=TK001
Google search
ตรอกบ้านจีนเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณตรอกบ้านจีนมีเสาโทรเลขตั้งอยู่ด้วย จึงโดนผลกระทบจากการทิ้งระเบิด การค้าขายชะงักงัน ชาวบ้านในตรอกต้องอพยพไปอยู่ถิ่นอื่น พอหลังสงครามสงบก็มีการขยายตลาดขึ้นไปทางทิศเหนือ ชาวบ้านในตรอกที่อพยพไปอยู่ที่อื่น บ้างก็ไม่ได้กลับมาอยู่ที่ตรอกนี้แล้วบางคนมีลูกหลานก็ส่งเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯจึงทำให้ตรอกบ้านจีนเงียบเหงาลงไปอย่างมากจนกระทั่งเมื่อประมาณสิบปีก่อน ชาวชุมชนตรอกบ้านจีนก้ได้รวมตัวกันเพื่อดูแลรักษา ฟื้นฟู และซ่อมแซมบ้านเก่าที่ยังมีอยู่ในตรอกให้มีชีวิตชีวามากขึ้น ทำให้ชุมชนนี้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าในชุมชนตรอกบ้านจีนจะยังคงเงียบสงบอยู่ แต่ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองตากที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเดินเล่นชมบ้านเก่าๆ ได้
เผยแพร่เมื่อ 21-12-2020 ผู้เช้าชม 840
น้ำตกปางอ้าใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ความสูงประมาณ 80 เมตร จำนวน 4 ชั้น อยู่ห่างจากจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 24 กิโลเมตร ฤดูกาลที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนตุลาคม – เดือนกุมภาพันธ์ ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 974
ตั้งอยู่บนเนินดินเชิงเขาพะวอ ถนนสายตาก - แม่สอด บริเวณกิโลเมตรที่ 62 - 63 ศาลนี้เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองตาก และชาวอำเภอแม่สอดมาก เล่ากันว่าท่านเป็นนักรบชาวกะเหรี่ยง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงแต่งตั้งให้เป็นนายด่านอยู่ที่ด่านแม่ละเมา เพื่อคอยป้องกันข้าศึกมิให้ข้ามเขามาได้ เดิมทีศาลเจ้าพ่อพะวออยู่อีกด้านหนึ่งของเขา แต่เมื่อตัดถนนไปทางใหม่จึงได้มาสร้างศาลขึ้นใหม่ มีผู้เล่าว่าศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าใครไปล่าสัตว์ในบริเวณเขาพะวอแล้วมักจะเกิดเหตุต่างๆ เช่น รถเสีย เจ็บป่วย หรือหลงทาง และเพราะเหตุที่เจ้าพ่อพะวอเป็นนักรบ จึงชอบเสียงปืน ทำให้ผู้ที่เดินทางมาสักการะมักยิงปืนถวาย จุดประทัด หรือบีบแตรถวายท่านเป็นการแสดงความเคารพ
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 1,122
ศาลหลักเมืองสี่มหาราช นอกจากเป็นจุดพักรถที่ดีเยี่ยมระหว่างการเดินทางแล้ว ศาลหลักเมืองสี่มหาราชยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาเรา ย้อนกลับไปสู่ความรุ่งเรืองแห่งตำนานมหาราชทั้งสี่ของดินแดนไทย อันสืบเนื่องจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เมืองตากเป็นเมืองที่มีพระมหาราชเข้าในอดีตเสด็จมาชุมนุมกองทัพถึง 4 พระองค์ด้วยกัน กล่าวคือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชในคราวศึกชนช้างกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 1,562
อุทยานแห่งชาติลานสาง ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 15 ของประเทศไทย สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนโดยมีเทือกเขาถนนธงชัยตั้งอยู่กึ่งกลางอุทยานฯ มียอดเขาอุมยอมเป็นยอดสูงสุด สูงประมาณ 1,065 เมตร จากระดับน้ำทะเล นอกจากนี้ยังมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และเป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญ ก่อให้เกิดเป็นน้ำตกลานสาง และน้ำตกอื่นอีกมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเป็นน้ำตกและจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 1,311
สะพานหินธรรมชาติ มีลักษณะเป็นแท่งหินขนาดใหญ่เชื่อมติดกับหน้าผาสองข้างเข้าด้วยกัน คล้ายสะพาน มีความกว้างและความสูงประมาณ 25 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร เบื้องล่างมีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี สภาพป่าโดยรอบเขียวชะอุ่มร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ใกล้กับสะพานหินมีถ้ำหินงอกหินย้อยงดงาม สะพานหินธรรมชาติอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 10 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางก่อนเข้าไปเที่ยวชมทุกครั้ง
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 2,322
น้ำตกปางอ้าน้อย เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ กว้างประมาณ 8 เมตร สูง 20 เมตร มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เดินต่อจากต้นกระบากใหญ่เลียบลำน้ำไปตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงน้ำตก
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 1,366
ต้นกระบากใหญ่ ขึ้นในบริเวณหุบเขาของป่าดงดิบ มีขนาดความโตวัดโดยรอบได้ 16.10 เมตร ความสูง 50 เมตร ต้องใช้คนประมาณ 12 คน จึงจะโอบได้รอบลำต้น อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งเป็นทางเดินลงเขาชันมาก ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผู้สนใจจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรเตรียมน้ำดื่มให้พร้อมสำหรับการเดินลงไปเที่ยวชมและเดินกลับขึ้นมา ระหว่างทางมีป้ายให้ความรู้เรื่องธรรมชาติอยู่เป็นระยะ
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 3,218
ถ้ำธารลอดผาขาว–ผาแดง เกิดจากลำห้วยผาขาว – ผาแดง ไหลเลาะลงถ้ำด้านล่าง ความลึกที่สำรวจได้ 100 เมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงาม มีลำธารไหลผ่านตลอดทั้งปี อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 32 กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางก่อนทุกครั้ง
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 1,368
วัดที่ตั้งอยู่ในถ้ำแห่งนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2437 โดยความร่วมแรงร่วมใจของประชาชนในพื้นที่ และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2529 และปัจจุบันทางวัดได้เปิดสอน พระปริยัติธรรมแก่ประชาชนผู้สนใจ รวมทั้งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาศึกษาพระธรรม หรือนั่งเจริญสติภาวนาเพื่อชำระจิตใจไปสู่ความสงบ นอกเหนือไปจากการชมและสักการะรอยพระพุทธบาท จำลองที่ประดิษฐานอยู่ในวัดแห่งนี้
เผยแพร่เมื่อ 15-08-2018 ผู้เช้าชม 1,189