ขี้เหล็ก
เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้ชม 1,411
[16.5055083, 99.509574, ขี้เหล็ก]
ขี้เหล็ก (Siamese Cassia, Thai Copper Pod, Capood Tree) เป็นพืชสมุนไพรจำพวกต้น ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆ เช่น ปัตตานีเรียกยะหา, ขี้เหล็กบ้าน, ขี้เหล็กใหญ่, ขี้เหล็กหลวง เป็นต้น ขี้เหล็กนั้นเป็นพืชสมุนไพรที่สามารถหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป
ลักษณะทั่วไปของขี้เหล็ก
สำหรับต้นขี้เหล็กนั้นเป็นไม้ยืนต้นที่มีลำต้นสูงประมาณ 10 – 15 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาลและแตกเป็นร่องตื้นๆ และมีการแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มแคบๆ ส่วนใบออกเรียงสลับเป็นใบประกอบแบบขนนก แผ่นเรียบ โคนมน ปลายใบจะเว้าตื้นๆ จะออกดอกเป็นช่อโดยแยกแตกแขนงที่ปลายกิ่ง มีดอกสีเหลือง มักหลุดร่วงได้ง่าย และผลมีลักษณะเป็นฝักแบนๆ ยาวๆ สีน้ำตาลหนา ข้างในมีเมล็ดมากมาย
ประโยชน์และสรรพคุณของขี้เหล็ก
ใบ – ช่วยในการถ่ายพรรดึก ถ่ายพิษไข้ ถ่ายกระษัย ช่วยแก้อาการเหน็บชา แก้นิ่ว ขับปัสสาวะ พิษเสมหะ แก้ระดูขาว ตลอดจนช่วยบำรุงเลือด แก้บวม ดับพิษโลหิต อาการนอนไม่หลับ หรือใช้ดอกสุราดื่มก่อนนอน ให้รสขม
ดอก – ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ หรือโรคประสาท แก้หืด แก้รังแค เป็นยาระบาย ให้รสขม
ฝัก – ช่วยแก้ไข ขับเสมหะ หรือแก้พิษไข้เพื่อปิตตะ ให้รสขม
เปลือกฝัก – ช่วยในการแก้กระษัย หรือแก้เส้นเอ็นตึง ให้รสขมเฝื่อน
เปลือกต้น – ช่วยแก้ริดสีดวงทวาร แก้กระษัย ให้รสขม
กระพี้ – ช่วยถอนพิษไข้ แก้กระษัยเส้นเอ็น ให้รสขมเฝื่อน
แก่น – ช่วยรักษาหนองใน กามโรค แก้เตโชธาตุพิการ ทำให้ตัวเย็น แก้แสบตา ช่วยถ่ายพิษ ถ่ายเส้น ถ่ายม้าม แก้กระษัย ช่วยขับโลหิต แก้อาการเหน็บชา ให้รสขมเฝื่อน
ราก – ช่วยรักษาแผลจากกามโรค แก้ไข้กลับไข้ซ้ำ ให้รสขม
ทั้งห้า – ช่วยดับพิษไข้ ถ่ายพิษกระษัย ถ่ายเส้น ถ่ายพิษจากเสมหะ และถ่ายพิษทั้งปวง ให้รสขม
นอกจากจะนำขี้เหล็กมาใช้ประกอบอาหารรับประทานแล้ว ยังสามารถนำไปขจัดรังแคบริเวณเส้นผมและหนังศีรษะได้อีกด้วย และยังทำให้เส้นผมชุ่มชื้นเงางามดูสุขภาพดี แต่ทั้งนี้การรับประทานต้องระมัดระวังเพราะอาจทำให้เกิดการเสื่อมและตายของเซลล์ตับได้
คำสำคัญ : ขี้เหล็ก
ที่มา : กมลทิพย์ ประเทศ และคนอื่นๆ. (2543). การสำรวจพรรณไม้ในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2561). ขี้เหล็ก. สืบค้น 30 มกราคม 2566, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=73&code_db=DB0011&code_type=F001
Google search
ต้นกกธูปฤาษีลักษณะเป็นไม้ล้มลุกมีอายุหลายปี เหง้ากลม แทงหน่อขึ้นเป็นระยะสั้นๆ ลำต้นตั้งตรง มีความสูงประมาณ 5-3 เมตร เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ชุ่มน้ำ ใบกกธูปฤาษีลักษณะเป็นใบเดี่ยว มีกาบใบเรียงสลับในระนาบเดียวกัน ใบเป็นรูปแถบ มีความกว้างประมาณ 2-1.8 เซนติเมตร และยาวประมาณ 50-120 เซนติเมตร แผ่นใบด้านบนมีลักษณะโค้งเล็กน้อยเพราะมีเซลล์หยุ่นตัวคล้ายฟองน้ำหมุนอยู่กลางใบ ส่วนด้านล่างของใบแบน
เผยแพร่เมื่อ 12-05-2020 ผู้เช้าชม 3,179
ชบา มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบค่อนข้างมนรี มีปลายแหลม ขอบของใบเป็นจักเล็กน้อย และมีสีเขียวเข้ม เมื่อขยี้ใบจะเป็นเมือกเหนียว ดอกชบามีทั้งกลีบชั้นเดียวและหลายชั้น หากเป็นชั้นเดียวปกติจะมีกลีบดอก 5 กลีบ มีก้านเกสรอยู่ตรงกลางดอกหนึ่งก้าน ลักษณะของกลีบดอกชบาจะมีขนาดใหญ่ มีหลายสีไม่ว่าจะเป็น ขาว แดง แสด เหลือง ม่วง ชมพู และสีอื่นๆ โดยดอกชบาแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ ดอกบานเป็นรูปถ้วย, ดอกบานเป็นรูปแผ่แบน, กลีบดอกบานแบบแผ่โค้ง และขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ การติดตา และการเสียบยอด
เผยแพร่เมื่อ 26-05-2020 ผู้เช้าชม 9,164
ต้นจิกน้ำ เป็นไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ มีความสูงประมาณ 5-15 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มรีหรือแผ่กว้าง มีลำต้นเป็นปุ่มปม เปลือกสีน้ำตาลแตกเป็นร่องและเป็นสันแหลมตามยาว กิ่งก้านมักคดงอ ปลายกิ่งมักลู่ลง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้และอัฟกานิสถาน ฟิลิปปินส์ ไปจนถึงทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลียในแถบรัฐควีนส์แลนด์ และสำหรับประเทศไทยบ้านเราก็จะพบต้นจิกน้ำได้ทั่วทุกภาคตามริมฝั่งน้ำ ริมคลอง ริมบึง ป่าพรุและป่าชายเลน
เผยแพร่เมื่อ 26-05-2020 ผู้เช้าชม 17,391
ห่อข้าวสีดา จัดเป็นเฟิร์นที่เกาะอาศัยกับพรรณไม้อื่น เหง้าสั้นๆ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1 เซนติเมตร ลำต้นเป็นเหง้าทอดเลื้อย ปลายยอดเหง้าปกคลุมไปด้วยเกล็ด เป็นแผ่นบางสีน้ำตาล ลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตร ทั้งต้นเป็นสีเขียวอมเหลือง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อต้นใหม่ หรือขยายพันธุ์จากสปอร์ เจริญเติบโตออกใบใหม่ตลอดปีและโตเร็วมาก หากได้รับแสงและความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ และเหง้ายังสามารถแตกกิ่งตายอดใหม่ได้
เผยแพร่เมื่อ 17-07-2020 ผู้เช้าชม 1,141
บานเย็น มีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรู เม็กซิโก อเมริกากลาง และมีเขตการกระจายพันธุ์เฉพาะในทวีปอเมริกาใต้ และบางครั้งอาจขึ้นเป็นวัชพืช โดยจัดเป็นไม้พุ่มเนื้ออ่อนมีอายุหลายปี มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-1.5 เมตร มีลำต้นสีแดงออกนวลเล็กน้อย แตกกิ่งก้านจำนวนมาก เป็นทรงพุ่มแผ่กว้าง เป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ควรปลูกไว้กลางแจ้งและดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนมีธาตุอาหารสมบูรณ์ ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง
เผยแพร่เมื่อ 02-06-2020 ผู้เช้าชม 6,122
ลักษณะทั่วไป เป็นพืชล้มลุก มีระบบรากแก้ว ลักษณะลำต้นตั้งตรง สูงประมาณ 40 – 80 ซม. ใบเป็นใบประกอบ ออกจากลำต้นบริเวณข้อแบบสลับ ประกอบด้วยใบย่อย 3 - 5 ใบ ออกจากจุดเดียวกันใบย่อยเป็นรูปไข่ใบตรงกลางค่อนข้างจะใหญ่กว่าใบทางด้านข้างทั้งสองข้าง ดอกออกตามซอกใบและที่ปลายยอดมีกลีบดอก 4 กลีบ สีเหลือง มีเกสร ตัวผู้ 8-30 อัน อับละอองเกสรเป็นเส้นยาวที่ปลายมีสีน้ำเงิน มีกลิ่นเหม็นเขียว ผลเป็นชนิดแคปซูล มีลักษณะเป็นฝัก ยาว 4-10 ซม. มีเมล็ดอยู่ภายใน เมล็ดมีลักษณะกลม สีน้ำตาล
เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 1,962
พลูคาวเป็นพืชล้มลุกที่พบได้ทั่วไปในแถบทวีปเอเชียในแถบเทือกเขาหิมาลัยไปจนถึงเวียดนาม ญี่ปุ่น รวมถึงไทยด้วย เป็นที่รู้จักกันดีในทางภาคเหนือ วิธีใช้ทั้งต้นแห้งประมาณ 15-30 กรัม (ต้นสด 30-60 กรัม) นำมาแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที แล้วนำมาต้มน้ำให้เดือดประมาณ 5 นาทีแล้วนำมาดื่ม แต่หากใช้ร่วมกับสมุนไพรหรือยาชนิดอื่น ให้ต้มยาอื่นให้เดือดก่อนจึงใส่ยา ต้มให้เดือด การรับประทานถ้ามากเกินไปอาจจะทำให้หัวใจเต้นสั้นและถี่ อาจเป็นอันตรายได้
เผยแพร่เมื่อ 16-07-2020 ผู้เช้าชม 1,113
สำหรับต้นการะเกดนั้นเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ต้น มีความสูงของลำต้นประมาณ 3-7 เมตร โดยแตกกิ่งก้านมีรากยาวและใหญ่ ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน 3 เกลียวตรงปลายกิ่ง คล้ายรูปรางน้ำ บริเวณขอบใบมีหนามแข็งๆ อยู่ และดอกนั้นจะแยกเพศอยู่ต่างต้นกัน โดยดอกจะออกตามปลายยอดจำนวนมาก ไม่มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก มีกาบสีนวลๆ หุ้มอยู่ กลิ่นหอมเฉพาะตัว และผลออกเบียดกันแน่นเป็นก้อนกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10-20 เซนติเมตร ผลสุกมีกลิ่นหอม มีสีเหลืองตรงโคน ส่วนตรงกลางจะเป็นสีแสด และตรงปลายจะมีสีน้ำตาลอมเหลือง
เผยแพร่เมื่อ 29-04-2020 ผู้เช้าชม 1,704
บอนส้ม จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก ลำต้นสั้นป้อมเป็นกาบหุ้มคล้ายบอน แต่จะมีขนาดเล็กกว่า โดยจะมีความยาวได้ประมาณ 5-7.5 เซนติเมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหัว พรรณไม้ชนิดนี้มักพบขึ้นตามที่ชื้นในป่าทั่วไป โดยเฉพาะทางภาคใต้ ใบบอนส้ม ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานหรือรูปหอกกลับ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือแคบ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5-15 เซนติเมตร และยาวประมาณ 15-60 เซนติเมตร ส่วนก้านใบยาวได้ประมาณ 60 เซนติเมตร
เผยแพร่เมื่อ 02-06-2020 ผู้เช้าชม 1,581
แคดอกแดง (Cork Wood Tree) เป็นพืชสมุนไพรจำพวกต้น ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆ เช่น ภาคกลางเรียกแค หรือแคบ้านดอกแดง ส่วนเชียงใหม่เรียกแคแดง เป็นต้น แคดอกแดงนี้เป็นไม้พื้นบ้านเนื้ออ่อน นิยมนำมาปลูกเพื่อเป็นรั้วบ้านเรือน สามารถปลูกได้ในทุกพื้นที่ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยเมล็ดที่แก่จัด และจะยืนต้นตายมีอายุได้ไม่นาน
เผยแพร่เมื่อ 30-04-2020 ผู้เช้าชม 5,101