กล้วยอบน้ำผึ้ง

กล้วยอบน้ำผึ้ง

เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้ชม 9,812

[16.2794389, 99.4640206, กล้วยอบน้ำผึ้ง]

ประวัติความเป็นมา         
          การทำกล้วยอบน้ำผึ้งบ้านทรัพย์ท่าเสา แนวความคิดครั้งแรก ในตำบลอ่างทองมีตู้อบ อยู่ 3 ตู้ ซึ่งได้รับงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจตำบลละ 1 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มแม่บ้านได้มาแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์จาก พอดีได้ไปดูงานที่บ้านคลองกระล่อน อำเภอบางกระทุ่ม ซึ่งทำกล้วยตาก โดยใช้วิธีตากแดด เกิดความคิดว่าทำไมบ้านเรา ตำบลไม่ทำขายบ้าง ซึ่งมีทั้งวัตถุดิบ และมีตาลาดรองรับ คือ ตลาดมอกล้วยไข่
          หลังจากการดูงานที่อำเภอบางกระทุ่ม ก็มารวมกลุ่มทำกล้วยอบน้ำผึงซึ่งมีสมาชิกครั้งแรก 15 คน โดยใช้กล้วยอบในตู้อยู่ใช้เวลาประมาณ 3 วันจึงจะใช้ได้ แต่การรวมกลุ่มมีปัญหามาก สมาชิกไม่ค่อยมีเวลาว่างมาทำกัน และเวลากลางคืนไม่มีคนทำจะมาช่วยดูกล้วยอบซึ่งปล่อยให้เป็นหน้าที่ของประธาน
          ต่อมาหันมาใช้วิธีผลิตโดยใช้จ้างแรงงานใครมาทำงานก็จะได้ค่าตอบแทนโดยวิธีการบริหารจัดการให้ค่าแรงวันละ 200 บาทต่อคน และได้ทำการผลิต และจำหน่ายที่ตลาดมอกล้วยไข่ จนกล้วยอบน้ำผึ้งบ้านทรัพย์ท่าเสาติดตลาด ต้องซื้อตู้อบเพิ่มอีก 1 ตู้ โดยกู้เงินจากกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านทรัพย์ท่าเสา เพิ่มกำลังผลิตจนมีการขยายตลาดไปยังร้านายของฝาก ตามปั๊มน้ำมันต่าง ๆ
          ซึ่งกล้วยอบบ้านทรัพย์ท่าเสา มีเอกลักษณ์ที่รสชาติหวานหอมไม่เหมือนกับกล้วยตากทั่วๆไป และอบจากตู้อบจะทำให้สีสันสวยและมีรดชาดอร่อยสะอาด

วัตถุดิบและส่วนประกอบ
         1. กล้วยน้ำว้า
         2. น้ำผึ้ง

ขั้นตอนการผลิต
         1. เตรียมกล้วยดิบ ซึ่งแก่จัด นำมาบ่ม 1 คืน แล้วนำออกมาวางผึ่งไว้อีก 4 คืน แล้วนำกล้วมาบอกเปลือกนำเข้าตู้อบที่ 1 ซึ่งเป็นตู้ไล่ความชื้น ใช้เวลา 1 วัน ( 24 ชั่วโมง)
         2. นำกล้วยออกจากตู้ไล่ความชื้น เข้าตู้ที่ 2 อบตู้อีก 1 วัน (24 ชั่วโมง) โดยในช่วงบ่ายของวันที่ 2 ให้ดึงถาดกล้วยแล้วปั่นกล้วยเพื่อให้กล้วยนิ่ม ไม่แข็งกระด้างปั้นเสร็จแล้วนำเข้าตู้อบต่ออีก 1 คืน พอสายๆ ของอีกหนึ่งวันกล้วยจะใช้ได้ แต่ละวันต้องมีการกลับกล้วย ผลักด้านล่างขึ้นด้านบน เพื่อจะได้กล้วยที่เหลือเสมอกัน
         3. ปิดตู้อบ แล้วนำกล้วยออกจากตู้ ที่ไว้ให้เย็นแล้วจึงนำนำกล้วยมาใส่น้ำผึ้งแล้วบรรจุลงกล่อง ซีลให้เรียบร้อย ติดสติกเกอร์ แล้วนำออกจำหน่ายได้

เทคนิค/เคล็ดลับในการผลิต
         1. เลือกกล้วยที่แก่จัด 90-100 % ของความแก่ของกล้วยเพาะจะทำให้สีกล้วยสวย รสหวาน
         2. วันแรกที่ใส่ตู้ที่ 1 ใช้ความร้อนในอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส จะต้องปิดตู้สักพักเพื่อนำกลัวมาคนให้เข้ากันหรือเรียกว่าทำกล้วยให้ช้ำเสียก่อนหลังจากปิดตู้ได้ประมาน 3 ชั่วโมง จึงปิดมาคนกล้วยแล้วจึงเปิดตู้อบที่ 1 ต่อถ้าไม่ทำกล้วยให้ช้ำก็จะได้กล้วยดังนี้เป็นแบบกล้วยปิ้ง สีขาวๆ ไม่เหลือง

ภาพโดย :http: //www.otoptoday.com/wisdom/1652

 

คำสำคัญ : กล้วยอบน้ำผึ้ง

ที่มา : http: //www.otoptoday.com/wisdom/1652

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2560). กล้วยอบน้ำผึ้ง. สืบค้น 12 ตุลาคม 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=570&code_db=610008&code_type=01

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=570&code_db=610008&code_type=01

Google search

Mic

กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน

กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิมะพร้าวอ่อน

วันนี้จะมาชวนเพื่อนๆ ทำของกินอร่อยๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่สำคัญสามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ได้ด้วยนะครับ เมนูที่จะมาแนะนำวันนี้ได้แก่ “กล้วยปิ้งราดน้ำกะทิ​มะพร้าวอ่อน” นั่นเองจ้า กล้วยปิ้งหรือจะเรียกว่ากล้วยทับก็ได้ เป็นเมนูขนมไทยที่คุ้นปากมาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าทานเปล่าๆ คงไม่ฟินเท่าไร่นัก หลังๆ มาจึงมีการจับมาราดด้วยน้ำจิ้มหวานๆ หอมๆ ทานเพลินกว่าเดิมหลายเท่านัก ว่าแล้วเราก็ไปเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบให้พร้อม แล้วเราลงมือทำกันเลยครับ

เผยแพร่เมื่อ 20-01-2020 ผู้เช้าชม 4,760

บะหมี่เซี้ยงชากังราวกำแพงเพชร

บะหมี่เซี้ยงชากังราวกำแพงเพชร

บะหมี่เซี้ยงชากังราวจังหวัดกำแพงเพชรได้พัฒนามาจากสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เพราะว่ามีการสนับสนุนให้คนไทยกินก๋วยเตี๋ยวโดยร้านที่มีชื่อเสียงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีร้านที่มีชื่อเสียง คือ ร้านเจ็กเท่ง ร้านเจ็กฮ้อ ร้านเจ็กเซี้ยง จากคำบอกเล่าของ อาจารย์สุมาลี หรั่งประเสริฐ บุตรนายตั้งหยงเซี้ยง (ร้านเจ๊กเซี้ยง) มาจากเมืองซัวเถาตั้งแต่ปี 2475 ได้ยึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวมาตลอด สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กิจการขายก๋วยเตี๋ยวร่ำรวยมากเพราะขายให้ทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาในกำแพงเพชร

เผยแพร่เมื่อ 21-06-2022 ผู้เช้าชม 3,430

แกงหยวกกล้วยไข่กับเมี่ยงนครชุม

แกงหยวกกล้วยไข่กับเมี่ยงนครชุม

จังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดที่อยู่ในบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบนทำให้ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตได้รับการผสมผสานจากทั้งภาคเหนือ (ล้านนา) และภาคกลาง (อยุธยาและสุโขทัย) ซึ่งแสดงออกในหลาย ๆ อย่าง อาทิ ประเพณี วัฒนธรรม โดยเฉพาะอาหาร อย่างเมี่ยงคำหรือเมี่ยงลาว เป็นต้น เมี่ยงเป็นอาหารที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษโดยการย้ายถิ่นฐานของผู้คนที่มาจากภาคเหนือและภาคอีสาน แต่เมื่อย้ายถิ่นมาอยู่กำแพงเพชรเป็นเวลานานก็เริ่มผสมผสานความเป็นภาคกลางเข้าไปในอาหารหรือแม้แต่วิธีการกิน รวมถึงส่วนประกอบที่นำมาใช้ในการทำเมี่ยง นอกจากเมี่ยงแล้วเมื่อมาจังหวัดกำแพงเพชร คนส่วนใหญ่จะนึกถึงกล้วยไข่กำแพงเพชร เนื่องจากกล้วยไข่ของจังหวัดกำแพงเพชรนั้น มีลักษณะเด่นที่ลูกเล็กกำลังดี มีกลิ่นหอมและรสชาติหวาน แขกบ้านแขกเมืองจึงนิยมนำกล้วยไข่ไปเป็นของฝาก สืบเนื่องมาจากในสมัยก่อนพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรมีการปลูกกล้วยไข่อยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อมีกล้วยสุกเป็นจำนวนมากชาวบ้านจึงคิดหาวิธีที่จะนำกล้วยมาทำเป็นอาหารประเภทต่าง ๆ เพื่อให้คนในครอบครัวไม่เกิดความเบื่อหน่ายจากการรับประทานอาหารชนิดเดิมซ้ำ ๆ ก่อเกิดเป็นแกงหยวกกล้วยไข่ในปัจจุบัน

เผยแพร่เมื่อ 07-06-2022 ผู้เช้าชม 980

ส้มแผ่น

ส้มแผ่น

ในฤดูกาลที่ต้นมะม่วงออกผลมาจำนวนมากเกินกว่าที่จะบริโภคผลสดได้หมด เริ่มจะมีมะม่วงสุกร่วงหล่นจากต้นมาก ไม่น่ามาใช้รับประทานผลไม้สดได้ วิธีดั้งเดิมของชาวบ้านก็มักจะนำมะม่วงสุกเหล่านี้มาทำ "ส้มแผ่น” ที่รสชาติอร่อย ออกหวานอมเปรี้ยว เพื่อเก็บไว้กินได้อีกนาน หากปีไหนทำส้มแผ่นกันมากเกินเก็บ ก็จะเอามาขายบ้าง เริ่มเกิดความคิดที่จะนำส้มแผ่นซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านมาเป็นสินค้าและมีเป้าหมายที่จะทำให้ชื่อ "ส้มแผ่น” เป็นสินค้าของฝากและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ได้เลือกซื้อเป็นของฝากเสมอ

เผยแพร่เมื่อ 30-09-2022 ผู้เช้าชม 3,339

แกงนอกหม้อ

แกงนอกหม้อ

หัวใจหลักของแกงนอกหม้อ อยู่ที่การนำเครื่องทุกอย่างที่ถูกปรุงให้สุกพอดีอย่างที่ใจต้องการใส่ในชามเตรียมไว้ปรุงน้ำแกงจืดให้ได้รสกลมกล่อม แล้วจึงค่อยตักลงใส่ในชาม ข้อดีของการปรุงแกงนอกหม้อคือรสชาติของส่วนประกอบแต่ละชนิด จะยังคงรักษารสชาติดั้งเดิมของตัวเอง และสำหรับเนื้อสัตว์ก็จะไม่สุกเกิน และรสชาติของน้ำแกงก็จะกลมกล่อมอย่างที่ปรุงไว้

เผยแพร่เมื่อ 10-04-2020 ผู้เช้าชม 25,860

ขนมจีบแป้งสด

ขนมจีบแป้งสด

ขนมจีบแป้งสด ขนมพื้นบ้านของคนจังหวัดกำแพงเพชร โดยนำแป้งข้าวเจ้ากวนกับน้ำให้สุก และนำลงมานวดพร้อมแป้งมันสำปะหลัง ขั้นตอนการทำไส้ขนมจีบ นำหน่อไม้ หมูสับ กุ้งแห้ง พริกไทยป่น ต้นหอม ผักชีสับผสมให้เข้ากัน นำแป้งนวดแยกเป็นก้อนขนาดเท่าหัว รีดแป้งให้บาง นำแป้งที่รีดแผ่นห่อกับไส้ที่ได้ และนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที ขนมจีบสุขดีแล้ว นำลงมาคลุกกับน้ำมัน และคุกกับน้ำมัน โรยกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง แตงกวา ผักชีใบยาว พริกขี้หนู

เผยแพร่เมื่อ 02-04-2019 ผู้เช้าชม 6,610

ผลิตภัณฑ์จากกล้วย

ผลิตภัณฑ์จากกล้วย

จังหวัดกำแพงเพชรเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชชนิดต่างๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กล้วยไข่” กล้วยไข่จึงกลายเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์จังหวัดกำแพงเพชร ไม่เฉพาะกล้วยไข่เท่านั้นที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดกำแพงเพชร แต่ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มาจากกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม ยังเป็นผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึกที่ทำชื่อเสียงมาสู่จังหวัดกำแพงเพชรอีกด้วย  

เผยแพร่เมื่อ 19-07-2022 ผู้เช้าชม 609

กระยาสารท

กระยาสารท

ขนมกระยาสารท ในสมัยก่อนเป็นขนมทีทำขึ้นในช่วงทำบุญวันสารทไท ช่วงเดือนตุลาคม เป็นการทำบุญอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และจะมีการตักบาตรด้วยกระยาสาทร มีความเชื่อว่า หากไม่ใส่บาตรด้วยกระยาสาทรผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็จะไม่ได้รับส่วนบุญ กุศลที่ทำในวันนี้ เมื่อทำบุญกันเสร็จแล้วก็จะมีการแบ่งกระยามสาทรที่ทำ เป็นการแลกเปลี่ยนกันเหมือนกับอวดฝีมือขแงกระยาสาทรแต่ละบ้าน กระยาสาทรจะกินคู่กับกล้วยไข่ เหตุผลก็เพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วงทึ่กล้วยไข่ออกผลนั้นเอง และรสชาติของกล้วยไข่จะช่วยท่อนรสหวานของกระยาสาทรได้ดี เสริมให้กินอร่อยหวานมันกำลังดี

เผยแพร่เมื่อ 26-02-2017 ผู้เช้าชม 2,808

ข้าวแต๋น นางเล็ด

ข้าวแต๋น นางเล็ด

ข้าวแต๋น นางเล็ด เป็นขนมโบราณ หลายคนอาจจะสับสนระหว่างข้าวแต๋นและนางเล็ด วิธีสังเกตง่ายมาก ข้าวแต๋นที่มีน้ำตาลราดบนหน้า เรียกว่า “นางเล็ด” การทำให้ข้าวแต๋นมีรสชาติ ถ้าเป็นสูตรดั้งเดิมจะผสมน้ำแตงโมลงไปด้วย เรียกข้าวแต๋นน้ำแตงโม ข้าวแต๋นทำจากข้าวเหนียวนึ่ง เอามากดใส่พิมพ์แล้วเอาไปตากแดดให้แห้ง แล้วเอามาทอด 

เผยแพร่เมื่อ 24-04-2020 ผู้เช้าชม 9,510

ขนมข้าวตอก

ขนมข้าวตอก

ขนมข้าวตอกตัด หรือขนมข้าวตอก เป็นขนมพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งของชุมชนโดยรอบอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ส่วนผสมสำคัญมีเพียง 3 อย่างคือ ข้าวเปลือกข้าวเหนียว น้ำตาลปี๊บ และน้ำกะทิ นิยมปรุงขึ้นเพื่อใช้ในวันสำคัญทางศาสนา เช่น วันสารทไทย วันตรุษไทย หรือในพิธีสู่ขวัญข้าว วิธีการทำขนมข้าวตอกตัด เริ่มจากการนำข้าวเปลือกไปคั่วไฟให้เป็นดอกขาว คัดเปลือกข้าวทิ้งด้วยกระด้ง แล้วจึงนำข้าวตอกที่ได้ไปตำจนละเอียด จากนั้นนำข้าวตอกที่ตำแล้วมาร่อนเพื่อแยกข้าวตอกออกเป็นสามส่วน คือ ข้าวตอกขนาดโตที่จะนำไปผสมกับกะทิ ข้าวตอกขนาดกลางสำหรับโรยบนแม่พิมพ์ และข้าวตอกขนาดเล็กที่มีเนื้อละเอียดสุดจะนำไปโรยหน้า ข้าวตอกเป็นขนมท้องถิ่นที่ใช้ทั้งเพื่อการบริโภคเป็นขนมหรืออาหารว่าง หรือใช้ในพิธีการต่างๆ เช่น จัดวางในบายศรีสู่ขวัญข้าว หรือในชะลอมเพื่อนำไปถวายพระในวันหรือเทศกาลสำคัญต่างๆ

เผยแพร่เมื่อ 02-02-2017 ผู้เช้าชม 12,882