วรรณกรรมเบ็ดเตล็ดของชาวบ้านไตรตรึงษ์

วรรณกรรมเบ็ดเตล็ดของชาวบ้านไตรตรึงษ์

เผยแพร่เมื่อ 03-03-2020 ผู้ชม 4,993

[16.3194159, 99.4823679, วรรณกรรมเบ็ดเตล็ดของชาวบ้านไตรตรึงษ์]

      วรรณกรรมเบ็ดเตล็ด หมายถึง วรรณกรรมขนาดสั้น เช่น คำเรียกขวัญ คำหยอกสาว ใน ภาคเหนือ ตำรา เช่น ตำราดูลักษณะสตรีของภาคใต้ ผญาของภาคอีสาน เป็นต้น ชาวบ้านไตรตรึงษ์ได้ถ่ายทอดวรรณกรรมขนาดสั้นที่แสดงถึงแนวคิด วิถีชีวิต และความเชื่อ ดังนี้  
      1. คำเรียกขวัญ ใช้เรียกขวัญเด็ก หรือผู้ที่เกิดการตระหนกตกใจ ให้ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัวหายตกใจ เรียกขวัญโดยผู้ใหญ่ที่ได้รับการยอมรับนับถือ ก่อนที่จะผูกข้อมือด้วยด้ายสายสิญจน์ คำเรียกขวัญ มีดังนี้
      “ศรีวันนี้ก็วันลาภวันดี ศรีวันพระยาวัน ฉันจะเรียกมิ่งขวัญ ขวัญมาเกิดมาแม่มา ขวัญอย่าไป เป็นตะเข็บอยู่ใต้ขอน ขวัญอย่าไปเป็นแมงชอนอยู่ใต้ไม้ ขวัญอย่าไปอยู่ในน้ำเป็นเพื่อนปลา ขวัญแม่อย่าไปอยู่ในนาเป็นเพื่อนข้าว ขวัญแม่อย่าไปเอาพุ่มไม้ต่างเรือน ขวัญแม่อย่าไปเอาแสงเดือนต่างไต๎  ขวัญแม่อย่าไปเอาเรไรต่างมโหรีมาเถิดมาแม่มา ขวัญเอยขวัญแม่อย่าไปเที่ยวชมเขาลำเนาไพร ให้แม่กลับมา ขวัญแม่อย่าไปอยู่ที่เชิงตะกอน ขวัญแม่อย่าไปนอนอยู่ป่าช้า มาเถิดแม่มา ให้มาชมผ่าผืนเล็กให้แม่กลับมาชมแพรผืนกว้าง ขวัญมาทางบกให้แม่มาด้วยช้าง ขวัญมาทางแม่น้ำกว้างให้มาด้วยสำเภาเงินแลสำเภาทอง ให้แม่กลับมาเอาดอกไม้แซม ให้แม่เอาดอกบัวแซมเกล้า แม่จะเรียกขวัญเจ้ากลับมาเอย ขวัญเอยมาเถิดมาแม่มา”              
       2. คำบอกเล่า
            2.1 เกี่ยวกับผีสางเทวดา เครื่องรางของขลัง เช่น
                  - เรื่องแม่โพสพ เชื่อว่าข้าวมีเทพธิดาประจำอยู่ชื่อแม่โพสพ ดังนั้นเพื่อให้ข้าวเจริญงอกงามได้ผลดีเวลาข้าวตั้งท้องจะออกรวง จึงมีพิธีส่งท้องข้าว สิ่งที่ต้องนำไปด้วยคือของที่ได้จากการเทศน์มหาชาติ เช่น กล้วย อ้อย ไปให้แม่โพสพเสวย แล้วบอกว่า “ฉันได้นำของป่าหิมพานต์มาให้แม่แล้ว แม่จงเลือกเสวยตามใจเถิด แม่โพสพก็จะพอใจให้ผลิตผลอย่างมากมาย เมื่อขนข้าวเข้ายุ้งแล้วก็จะมีพิธีรับขวัญข้าว ก็คือไปรับแม่โพสพกลับมารักษาข้าวในยุ้งนั่นเอง การไปรับขวัญข้าวนี้ให้ใช้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น เพราะเคยมีประวัติว่าให้ผู้ชายไปรับแล้วพบแม่โพสพเป็นผู้หญิงสวยก็เลยปล้ำ แม่โพสพจึงโกรธมาก ถ้าผู้ชายไปรับจะไม่มา       
                  - เด็กที่เกิดใหม่ ให้ใช้หนังหมีวนรอบบ้านแล้วแขวนที่เปลเพื่อไม่ให้ผีรบกวน       
                  - ผู้ชายที่ยึดถือเครื่องรางของขลังที่ทำให้อยู่ยงคงกระพัน ห้ามรับประทาน ฟักทอง ฟักเขียว ตำลึง น้ำเต้า กล้วยบวชชี มะเฟือง เพราะของเหล่านี้มีลักษณะรูปร่าง หรือชื่อไปพ้องกับอวัยวะเพศ
           2.2 เกี่ยวกับโชคลาง       
                   - แร้งจับบ้านไม่ดี ให้คิดและพูดว่า พญาหงส์ทองจับบ้าน จะนำโชคลาภมาให้เงินทองจะไหลมาเทมา       
                   - เหี้ยเข้าบ้านมิดี ให้พูดว่า “ตัวเงินตัวทองนำเงินนำทองมาให้” จะร่ำรวยเป็นเศรษฐี ถ้าพูดว่าเหี้ยจะประสบความฉิบหาย   
                   - ถ้าผึ้งมาทำรังในบ้าน ให้จัดการทำบุญสมโภชต้อนรับ จะทำให้ทำมาค้าขึ้น                
                   - ถ้าจอมปลวกขึ้นใต้ถุนบ้านที่ปลูกก่อนแล้วท่านว่าดี แต่ถ้าปลูกบ้านคร่อมจอมปลวกจะเดือดร้อน       
                   - ก่อนลงเรือนไปไหน ถ้ามีจิ้งจกร้องทักท่านว่าอย่าไป     
                   - ถ้าเข้าป่าได้ยินเสียงคล้ายคนเดินตาม แต่ไม่มีอะไร ถ้าได้ยินสองครั้งให้หันกลับบ้าน มิฉะนั้นจะเกิดเหตุร้ายกับครอบครัวหรือญาติพี่น้อง     
                   - ถ้าจิ้งจกร่วงใส่ศีรษะท่านว่าจะมีโชค ถ้าจิ้งจกร่วงลงมาตายต่อหน้าจะมีเคราะห์  
                   - แมวห้าหมาหกท่านห้ามเลี้ยง             
                   - อย่าเลี้ยงควายตัวเดียว  
                   - หมูที่มีนิ้วเท้าครบห้านิ้ว ห้ามเลี้ยงไว้ ให้นำไปปล่อยที่วัด     
                   - ถ้านกแสกบินผ่านบ้านแล้วร้อง หรือบินชนบ้านญาติพี่น้องบุคคลในบ้านนั้นจะล้มตาย                
                   - ถ้าแมวดำข้ามศพผีจะดุ       
                   - การปล่อยสัตว์ เช่น นก ปลา เป็นการสะเดาะเคราะห์ และต่ออายุให้กับผู้ปล่อย       
                   - ถ้าเห็นดาวหางจะเกิดยุคเข็ญ ข้าวยากหมากแพง หรืออาจจะต้องสูญเสียบุคคลสำคัญ
                   - ถ้าเห็นดาวตกห้ามทักเพราะเทวดาจะมาจุติ ถ้าทักแล้วเทวดาองค์นั้นเข้าไปเกิดในท้องหมูท้องหมา
                   - ถ้าเกิดจันทรุปราคาหรือสุริยุปราคา ให้เคาะต้นไม้แล้วพูดว่า ดก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ต้นไม้นั้นจะมีผลดก และให้เอามะกล่ำตาหนูมาอมไว้จะได้ไม้เป็นตาแดง ถ้าจะให้จันทรุปราคา และสุริยุปราคาหายเร็ว ๆ ให้ช่วยกันตีเกราะ เคาะไม้ ยิงปืน ตีกลอง
                   - ปลูกต้นขนุนไว๎ในบ้านจะช่วยอุดหนุนให้เจริญ
                   - ปลูกต้นมะยมไว้หน้าบ้านจะมีคนเมตตารักใคร่
                   - ต้นฉําฉาห้ามปลูกไว๎ในบ้าน จะทำให้เป็นบ้านร้าง มีแต่ความอิจฉาริษยากัน
                   - ต้นลั่นทมถ้าปลูกไว๎ในบ้านจะทำให้เจ้าของบ้านมีแต่ความระทมตรมใจ
                   - ต้นมะขวิด มะตูม ห้ามปลูกไว๎ในบ้านจะเกิดการทะเลาะวิวาท
                   - ต้นโป๊ยเซียนถ้าออกดอกมากกว่าแปดดอกจะทำมาค้าขึ้น
           2.3  เกี่ยวกับข้อปฏิบัติทั่วไป
                  - อย่านั่งคาบันไดหรือตรงประตู จะโดนของที่เขาปล่อยตามลมตามแล้งมา
                  - อย่าถ่มน้ำลายรดฟ้า
                  - อย่าขี่หมา ฟ้าจะผ่า
                  - อย่าผิวปากกลางคืน ผีจะหลอก
                  - อย่ากล่อมเด็กกลางคืน เหมือนผีกล่อมลูก
                  - อย่าเหยียบธรณีประตู เพราะเป็นที่อยู่ของเทพารักษ์ 
                  - เด็กที่เกิดใหม่ต้องขายไม่เช่นนั้นจะเลี้ยงยาก วิธีขายก็คือให้เอาเด็กใส่กระด้ง แล้วโยนกระด้งเบา ๆ ผู้ที่ซื้อก็จะรักเอาไป แล้วให้เงินแม่จริงเล็กน้อย
                  - การเผาศพไม่นิยมเผาวันคู่ เพราะกลัวจะตายคู่
                  - การแต่งงานนิยมแต่งเดือน 4 6 9              
      3. คำทำนาย
                - หญิงมีครรภ์ ถ้ามีใบหน้าปล่งปลั่งสวยงามลูกในท้องจะเป็นผู้หญิง ถ้ารูปท้องงอน แม่ไม่ชอบแต่งตัวลูกจะเป็นผู้ชาย
                - เขม่นตาขวาร้าย  ตาซ้ายดี
                - หญิงชายใดมีไฝที่ของลับ ถ้าผู้ใดได้เป็นคู่ครองอายุจะสั้น
                - หญิงชายใดมีไฝที่ร่องน้ำตา ผู้นั้นจะมีแต่ความทุกข์ระทมใจ
                - หญิงใดมีสีจักร (ขวัญที่ไรผมด้านหน้า) ยักหล่ม (รอยบุมสองข่างสะบัก) ถ่มร้าย (รอยบุมตรงก้น) นับเป็นหญิงกาลกิณี
                - ฝันว่าฟันหัก ญาติจะเสียชีวิต
                - ฝันว่าเห็นพระ มีพระขึ้นบ้าน จะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
                - ฝันเห็นพระเจ้าแผ่นดิน จะมีโชคดีอย่างยิ่ง
                - ฝันเห็นงู จะได้พบเนื้อคูํ
                - ฝันว่าได้แหวนจะได้ลูกชาย ฝันว่าได้เงินจะได้ลูกสาว
                - ฝันเห็นชายชราชวนไปเที่ยว คนนั้นจะเสียชีวิต

คำสำคัญ : วรรณกรรม

ที่มา : เมืองไตรตรึงษ์ ตามร่องรอยแห่งตำนานและประวัติศาสตร์. (ม.ป.ป). กำแพงเพชร: ม.ป.ท.

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2563). วรรณกรรมเบ็ดเตล็ดของชาวบ้านไตรตรึงษ์. สืบค้น 17 กรกฎาคม 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?code_db=610006&code_type=01&nu=pages&page_id=1336

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1336&code_db=610006&code_type=01

Google search

Mic

วรรณกรรมเบ็ดเตล็ดของชาวบ้านไตรตรึงษ์

วรรณกรรมเบ็ดเตล็ดของชาวบ้านไตรตรึงษ์

“ศรีวันนี้ก็วันลาภวันดี ศรีวันพระยาวัน ฉันจะเรียกมิ่งขวัญ ขวัญมาเกิดมาแม่มา ขวัญอย่าไปเป็นตะเข็บอยู่ใต้ขอน ขวัญอย่าไปเป็นแมงชอนอยู่ใต้ไม้ ขวัญอย่าไปอยู่ในน้ำเป็นเพื่อนปลา ขวัญแม่อย่าไปอยู่ในนาเป็นเพื่อนข้าว ขวัญแม่อย่าไปเอาพุ่มไม้ต่างเรือน ขวัญแม่อย่าไปเอาแสงเดือนต่างไต้  ขวัญแม่อย่าไปเอาเรไรต่างมโหรี มาเถิดมาแม่มาขวัญเอยขวัญแม่อย่าไปเที่ยวชมเขาลำเนาไพร ให้แม่กลับมา ขวัญแม่อย่าไปอยู่ที่เชิงตะกอน ขวัญแม่อย่าไปนอนอยู่ป่าช้า มาเถิดแม่มา

เผยแพร่เมื่อ 03-03-2020 ผู้เช้าชม 4,993

นิทานพื้นบ้าน เรื่องดาวลูกไก่

นิทานพื้นบ้าน เรื่องดาวลูกไก่

ณ เชิงเขาแหํงหนึ่ง มีกระท่อมอยูํหลังหนึ่ง ซึ่งมีตากับยายอาศัยอยูํ 2 คน มีอาชีพทำไรํทำนาอยูํบนเชิงเขา อยูํมาวันหนึ่งมีพระธุดงค์ได้มาปักกลดอยูํใกล้บ้านตากับยาย ตากับยายเลยคิดวำจะทำอะไรให้พระฉันดี ยายก็คิดวำผลไม้บนเชิงเขาก็ไมํคํอยมี กลัวพระจะฉันไมํอิ่ม ก็เลยคิดวำที่บ้านมีไกํอยูํ 1 ตัว และแมํไกํตัวนี้ได้มีลูกอีก 7 ตัว ยายจึงคิดจะทำแกงไกํถวายพระ แมํไกํได้ยินเข้าจึงร้องไห้ แล้วเอาปีกโอบลูกไกํทั้ง 7 ตัวไว้ แล้วบอกกับลูกวำ ลูกเอยพรุํงนี้เช้าแมํต้องตายแล้ว แล้วแมํไกํได้สอนลูกไกํทั้ง 7 ตัว วำให้รักกันให้มากๆ พอรุํงเช้ามาตาก็ก่อไฟไว้เพื่อที่เตรียมจะแกงไก่ พอลูกไกํเห็นตากำลังเชือดคอแมํไกํ ลูกไกํเห็นดังนั้นจึงเสียใจกระโดดเข้ากองไฟตายตามแมํไกํทั้ง 7 ตัว ตาจึงได้ทำแกงไก่ถวายพระด้วยความที่ลูกไกํมีใจประเสริฐนึกถึงแม่ตัวเองตลอดเวลา จึงไปเกิดเป็นดาวลูกไกํ ทั้ง 7 จนถึงปัจจุบันนี้

เผยแพร่เมื่อ 03-09-2019 ผู้เช้าชม 35,977

นิทานพื้นบ้าน เรื่องตาทอง

นิทานพื้นบ้าน เรื่องตาทอง

ตาทองอาศัยอยูํกับภรรยาเพียงลำพัง ตาทองชอบเลํนการพนันเป็นชีวิตจิตใจ เลํนทีไรก็ เสียเงินหมด แล้วแกก็ขอเมียแก ขอแล้วขออีก แตํก็ไม่เคยเหลือกลับมา คราวนี้ตาทองก็บอกเมียอีกวำ “แม่มึงขอเงินอีก เงินไม่พอเรียนหมอ” เมียแกเอ่ยวำ “เอ้า แกเอาเงินไปเรียนหมอรึ ข้าเพิ่งรู้” แล๎วก็สํงเงินให้ตาทองก็เอาไป วันต่อมาตาทองมาขอเงินอีก แต่เมียบอกวำไม่มีเหลือควาย 2 ตัว เอาไปขายซะ แล้วตาทอง ก็ถามวำ “เมื่อไรแกจะเรียนหมอจบลํะ ” “เดี๋ยวก็จบแล๎ว ตาทองตอบ แล้วตาทองก็เอาเงินไปเลํนการพนันอีกตามเคย เวลาผำนไป เมียก็ถามวำ “พ่อมึงเรียนจบยังลํะ หมอนํะ” ตาทองตอบวำ “วันนี้ก็จบแล๎วแมํมึง” ตาทองเลํนการพนันจนเงินหมดก็กลับบ้าน ระหวำงเดินกลับบ้านก็แอบเห็นคนขโมยควายอยูํใต้ต้นไทร หยุดแอบดูแล้วก็กลับบ้านเพราะไมํได้เกี่ยวอะไร กับตนเอง เวลาตํอมามีชายคนหนึ่งตะโกนวำควายหาย ถูกลักไป มีคนบอกวำไปหาตาทองซิ แกไปเรียนดูหมอมา ชายผู้นี้ก็ไปหาตาทองให้ดูวำควายที่ถูกขโมยไปอยูํที่ไหน บังเอิญตาทองรู้วำควายอยูํตรงไหนก็แอบยิ้มในใจ ทำทำหยิบไม้มาเขยำ แล้วบอกวำ “อ๋อ ควาย เจ้าหายเหรอ เจ้าไปใต้ต้นไทรใหญํท้ายหมูํบ้านสิ แล้วจะเจอควายของเจ๎า ชายคนนั้นก็เดินไปแล้วพบควายที่หายไปจริง ๆ จึงพูดชมเชยวำตาทองเป็นหมอดูที่แมํนจริง ๆ 

เผยแพร่เมื่อ 03-09-2019 ผู้เช้าชม 1,817

ท้าวแสนปม 3 เรื่อง 3 ที่มา

ท้าวแสนปม 3 เรื่อง 3 ที่มา

เรื่อง “ท้าวแสนปม” เป็นเรื่องที่เล่าขานต่อเนื่องกันมาช้านาน กล่าวถึงบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ของเมืองไตรตรึงษ์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมืองกำแพงเพชร ในระยะแรก ผู้เขียนรู้สึกแปลกใจที่พยายามจะศึกษาเรื่องราวของท้าวแสนปม แต่ละคนที่ให้ความรู้ให้ข้อมูลแตกต่างกันออกไปไม่เหมือนกัน จึงได้พยายามสืบค้นจากเอกสารต่าง ๆ จึงรู้ได้ว่าสาเหตุที่แตกต่างกันนั้น เกิดจากต้นเรื่องหรือข้อมูลของเรื่องมาจากหลายแหล่ง ซึ่งพอที่จะกล่าวถึงที่มาและเนื้อเรื่องดังนี้

เผยแพร่เมื่อ 25-02-2020 ผู้เช้าชม 5,488

ตำนานหลวงพ่ออุโมงค์

ตำนานหลวงพ่ออุโมงค์

หลวงพ่ออุโมงค์ วัดสว่างอารมณ์ วัดสว่างอารมณ์ อยู่ในตำบลนครชุม เป็นพระพุทธรูปแบบเชียงแสนขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 2.87 เมตร สูงเกือบ 3 เมตร มีพุทธลักษณะที่งดงามยิ่งเป็นหลักฐานสำคัญประกอบข้อเท็จจริงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกำแพงเพชรและหัวเมืองฝ่ายเหนือ หลวงพ่ออุโมงค์เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน (ก่อนสุโขทัย) ขนาดหน้าตักกว้าง 2.87 เมตร สูงเกือบ 3 เมตร จากการบอกเล่าพบหลวงพ่อในดินลักษณะคล้ายจอมปลวกจึงขุดกันออกมา มองดูคล้ายท่านอยู่ในอุโมงค์ สันนิษฐานว่าคงหลบพวกพม่าที่มาตีเมืองในสมัยนั้น หรือปราฏิหารย์ของท่านก็ไม่อาจทราบได้ ท่านเป็นที่เคารพบูชาของชาวนครชุม และชาวกำแพงเพชรมาเป็นเวลาช้านาน เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 4 ชาวจังหวัดกำแพงเพชร จะจัดงานประเพณีนมัสการปิดทอง "หลวงพ่ออุโมงค์" เป็นประจำทุกปี

เผยแพร่เมื่อ 13-03-2018 ผู้เช้าชม 2,601

ตำนานบ้านบ่อถ้ำ

ตำนานบ้านบ่อถ้ำ

เดิมหมู่บ้านบ่อถ้ำยังเป็นป่าดงดิบ เมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ในบริเวณนี้เป็นแหล่งของสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ มีชาวบ้านชุดแรกซึ่งได้อพยพมาอยู่นั้นเป็นคนมาจากนครราชสีมามาหักร้างถางพงบริเวณหนึ่งที่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านเป็นครั้งแรก เรียกบริเวณนั้นว่า "เนินมะดั่น" (เนินมะด่านหรือบางครั้งเรียกว่าโนนมะด่าน) ต่อมาในบริเวณนั้นมีผู้คนเริ่มอพยพมาอยู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้นตามลำดับ จึงไม่สามารถจะขยายหมู่บ้านนั้นได้ เพราะบริเวณนั้นมีลักษณะเป็นโนนหรือเนิน จึงได้โยกย้ายมาตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่ตั้งในปัจจุบัน คือ หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 เมื่อผู้คนได้อพยพกันมากขึ้น จนกระทั่งมีผู้นำของกลุ่มคนในสมัยนั้นเป็นคนต้นตระกูล ดำสนิท ซึ่งได้รับบรรดาศักดิ์เป็น ขุน คือ ขุนคูหา (เดิมชื่อลายสด ดำสนิท)

เผยแพร่เมื่อ 05-09-2019 ผู้เช้าชม 2,364

นิทานเรื่อง พ่อตากับลูกเขยโค่นต้นตาล

นิทานเรื่อง พ่อตากับลูกเขยโค่นต้นตาล

วันหนึ่งลูกเขยชวนพ่อตาไปโค่นต้นตาล ฝ่ายลูกเขยก็พูดว่า “เอ้าพ่อ ! พ่อฟันข้างนอกก่อนเลยฟันเปลือกมันก่อนนะพ่อนะ เดี๋ยวแก่นมันผมฟันเอง” ฝ่ายพ่อตาก็ฟันใหญ่เลยแล้วก็บ่นอีก “โอ๊ยขนาดเปลือกมันยังแข็งขนาดนี้นะเนี่ยไอ้หนู แล้วแก่นมันเอ็งจะฟันไหวรึ มันจะขาดให้เอ็งรึ” พอพ่อตาฟันเสร็จแล้วไอ้ลูกเขยก็ฟันบ้าง แต่มันฟันฉวบๆ เลย ก็ต้นตาลนะมันจะมีอะไรล่ะ ข้างในนะ ไอ้ที่ว่าแก่นแข็งๆ นะมันอยู่ข้างนอกรอบต้นมันนี่ ฝ่ายพ่อตาเห็นลูกเขยตัวก็ยังชมมันอีกว่า “เอ่อไอ้หนูเอ็งนี่แรงดีว่ะ ขนาดพ่อฟันแค่เปลือกมันยังหมดแรงเลยวะ”

เผยแพร่เมื่อ 27-03-2020 ผู้เช้าชม 1,926

ตำนานศาลพ่อปู่วังหว้า

ตำนานศาลพ่อปู่วังหว้า

พ่อปู่วังหว้า เริ่มต้นคือ การอพยพของบรรพบุรุษชาวตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเลมาจากอีสาน พ.ศ. 2499 มาเลือกทำเลในการดำรงชีวิต หลังจากนั้นได้ถักล้างถางพงบริเวณศาล ถางไปบริเวณคลองวังกันไปเจอศาลเพียงตาที่คนโบราณมาทำไว้ก่อนแล้ว สันนิษฐานว่า คนตั้งแต่สมัยมาอยู่ก่อน 2499 เขาทำเป็นศาลเพียงตาเอาไว้ เวลาเขามีการตัดไม้ มีการหาปลา หาอยู่หากิน ได้มีการกราบไหว้ เป็นขวัญกำลังใจ แต่ก่อนศาลพ่อปู่วังหว้าเป็นสังกะสีแผ่นน้อยๆ เล็กๆ มีเสาต้นเดียว มีเพิงเล็กๆ อยู่ใต้ต้นตะคร้อ 2 ต้น 

เผยแพร่เมื่อ 09-01-2020 ผู้เช้าชม 2,539

นิทานเรื่อง หมากับแมวทำไมไม่ถูกกัน

นิทานเรื่อง หมากับแมวทำไมไม่ถูกกัน

กาลครั้งหนึ่ง เศรษฐีเลี้ยงหมากับแมวไว้ด้วยกันบนบ้าน เศรษฐีมีเพชรเม็ดหนึ่งแล้วถูกโจรขโมยขึ้นไปบนยอดเขา แมวจึงได้จับหนูมาจะกิน หนูร้องขอชีวิต บอกว่าจะให้ทำอะไรก็ยอม แมวเลยให้ไปเอาเพชรบนยอดเขามาคืน หนูทำได้สำเร็จ แมวกับหมาก็นำไปคืนให้เศรษฐีพร้อมกัน เศรษฐีชมเชยทั้งสองว่าเลี้ยงไว้ไม่เสียดายข้าวสุก ต่อมาเศรษฐีเดินทางทางเรือ เผลอทำเพชรตกน้ำอีก แมวก็เลยจับปลาไว้ ปลาร้องขอชีวิต แมวจึงให้ปลาไปคาบเพชรใต้น้ำขึ้นมา

เผยแพร่เมื่อ 27-03-2020 ผู้เช้าชม 12,025

นิทานพื้นบ้าน เรื่องทำไมคนถึงกินข้าว 3 มื้อ

นิทานพื้นบ้าน เรื่องทำไมคนถึงกินข้าว 3 มื้อ

มนุษย์รู้จักทำไร่ทำนาเลี้ยงชีพมาหลายพันปีแล้ว โดยพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ ปีไหนฝนแล้งก็จะเหนื่อยยากอดอยากมากกว่าปีอื่นๆ เพราะข้าวตาย พระอิศวรมองลงมาจากสวรรค์ รู้สึกสงสารชาวนามาก เลยใช้ให้ควายลงไปโลกมนุษย์ไปบอกชาวนาว่า “ต่อไปนี้ ให้กินข้าว 3 วันมื้อหนึ่ง จะได้ไม่ต้องลำบากปลูกข้าวได้พอกิน” ควายรับปากดิบดีว่าจะไปบอกตามที่สั่ง พอไปถึงทุ่งนาเห็นหนองน้ำใหญ่น่าลงไปเล่นตามสัญชาติญาณของควายที่ชอบนอนแช่ในปลัก นอนแช่น้ำเย็นสบายจนบ่ายคล้อยก็นึกขึ้นได้ว่าพระอิศวรใช้มาส่งข้าว จำได้แค่ว่าอะไรสามๆ เลยบอกชาวนาว่า “ต่อไปนี้พระอิศวรให้กินข้าววันละ 3 มื้อ จากที่ลำบากอยู่แล้วยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ พอกลับไปเฝ้าพระอิศวร พระอิศวรทวนถามว่าไปบอกเขาว่าอย่างไร ควายตอบว่า “ก็ตามที่พระองค์สั่งพระเจ้าค่ะ ให้กินวันละสามมื้อ” “ไอ้โง่เอ๊ย ! ชาวนายิ่งเดือดร้อนเข้าไปใหญ่ ข้าสั่งให้กินสามวันมื้อ” แต่ก็แก้ไขคำพูดไม่ได้แล้ว จึงสั่งให้ควายไปช่วยชาวนาไถนาปลูกข้าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

เผยแพร่เมื่อ 10-04-2020 ผู้เช้าชม 5,587