พิธีโกนจุก

พิธีโกนจุก

เผยแพร่เมื่อ 26-02-2017 ผู้ชม 6,652

[16.1553981, 99.9413734, พิธีโกนจุก]

       สมัยก่อน เด็กไทยชายหญิงจะมีทรงผมที่นิยมไว้คล้ายๆ กัน เช่น ผมจุก ผมเปีย ผมแกละ หรือผมโก๊ะ แต่ปัจจุบันทรงผมเหล่านี้เริ่มหายไปจากสังคมไทยแล้ว จะพอหาได้ตามต่างจังหวัดเท่านั้น ทรงผมของเด็กไทยโบราณนี้เกิดขึ้นจากความเชื่อของคนในสมัยก่อนที่ว่า เด็กที่เจ็บออดๆ แอดๆ หรือเลี้ยงยาก ถ้าไว้ผมจุก ผมเปียจะหายเจ็บไข้ได้ป่วย กลับมาแข็งแรง เลี้ยงง่าย
       สาเหตุที่เด็กไทยสมัยก่อนต้องไว้ผมจุก ผมเปียของเด็กสมัยก่อนนั้น ถ้าพูดถึงเรื่องของความเชื่อแล้ว เชื่อกันว่าเด็กที่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เจ็บไข้กระเซาะกระแซะบ่อยๆ ให้ไว้ผมจุก หรือผมเปียแล้วจะหายจากอาการป่วยนั้นได้ และเมื่ออายุครบก็จะต้องโกนจุกหรือเปียนั้นทิ้ง หลังจากนั้นเด็กคนนั้นก็จะอยู่เย็นเป็นสุข
       แต่ถ้าพิจารณากันตามหลักเหตผลแล้วจะพบว่า ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การให้เด็กไว้ผมยาวจะทำให้เด็กเกิดความรำคาญ ดูแลรักษายาก แต่จะให้โกนผมออกทั้งหมดก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากกลางกระหม่อมหรือกลางกะโหลกศีรษะเด็กซึ่งจะเรียกกันว่า ขวัญ ยังบอบบางเป็นเพียงเนื้ออ่อนๆ เท่านั้น จำเป็นต้องมีสิ่งปกปิดป้องกันอันตราย หากมีการโกนผมในส่วนนั้นออกอาจจะเป็นอันตรายกับกะโหลก สมองของเด็กได้ จึงโกนเฉพาะส่วนอื่นๆ แล้วปล่อยส่วนกลางกระหม่อมเอาไว้
       หลังจากที่ไว้ผมจุก ผมเปียมาได้ระยะหนึ่ง บางคนอาจจะ 5 ปี 7 ปี 9 ปี หรือ 11 ปี ถึงจะโกนผมจุกผมเปียออก แต่จะไม่นิยมโกนจุกเมื่อเด็กอายุตกเลขคู่ ครอบครัวที่มีฐานะดีหรือพอมีฐานะก็จะนิมนต์พระตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไป มาสวดมนต์ (สวดขยันโต) เพื่อความเป็นสิริมงคลกับตัวเด็ก มีการถวายภัตตาหารเช้า จัดมหรสพมาฉลอง เช่น ลิเก ภาพยนตร์ แต่ถ้าบ้านไหนฐานะไม่ค่อยดี ก็มักจะโกนกันพอเป็นพิธีโดยอาจจะให้พระธุดงค์ทำพิธีโกนให้ หรือใช้ยางรัดจุดแล้วตัดปลายจุกเท่านั้นเพื่อไม่ให้เป็นการสิ้นเปลือง แต่พ่อแม่จะไม่โกนกันเองเพราะเชื่อกันว่าถ้าทำกันเองแล้วเด็กอาจจะเสียสติเป็นบ้าได้ ถ้าจะโกนก็จะต้องนิมนต์พระสงฆ์มาทำโกนจุกให้เท่านั้น
       อุปกรณ์สำหรับพิธีโกนจุกจะประกอบด้วยสิ่งของหลายอย่าง กรรไกรด้ามเงิน กรรไกรด้ามทอง และกรรไกรด้ามธรรมดา ใบบอนหรือใบบัวสำหรับเย็บกระทง ดอกไม้ ธูป เทียน ใบเงิน ใบทอง หอยสังข์สำหรับตักน้ำมนต์รด หญ้าแพรกสำหรับพันเป็นแหวนหัวพิรอด
       พิธีโกนผมจุกจะเริ่มพิธีในตอนเช้าเมื่อพระสวดชยันโต ถวายภัตตาหารเช้า จากนั้นจะใช้หอยสังข์ตักน้ำมนต์ที่ผ่านพิธีสวดชยันโตแล้ว รดลงบนศีรษะเด็ก พระสงฆ์จะใช้กรรไกรขลิบผมพอเป็นพิธีและส่งต่อให้พ่อแม่เด็กหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือเป็นคนโกนผมต่อไป แล้วจะใช้แหวนหัวพิรอดมาสวมครอบจุกเอาไว้ ส่วนครอบครัวที่ฐานะดีจะใช้ปิ่นปักผมปักผมจุกแทน ส่วนผมที่โกนออกก็จะเก็บใส่กระทงใบบัวหรือใบบอนที่เตรียมไว้ พร้อมกับดอกไม้ ธูปเทียน แล้วนำไปลอยน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี
       ในบางท้องถิ่น ก่อนจะเข้าสู่พิธีโกนผมจุกจะมีการทำขวัญก่อน คล้ายการทำขวัญนาค เนื่องจากเชื่อกันว่าขวัญของเด็กอาจจะไปเที่ยวเล่นที่ไหนไกล จำเป็นต้องเรียกขวัญกลับมาอยู่กับตัวเสียก่อน และก่อนที่จะทำพิธีโกนผมจุก จะไม่ให้เด็กไปเที่ยวเล่นที่ไหนอีกเพื่อเป็นการรักษาเนื้อรักษาตัวเด็กไว้สำหรับพิธีโกนจุก หากจำเป็นต้องเดินทางจะใช้การขี่คอเด็กคนอื่นแทนไปก่อน

 

 

คำสำคัญ : ประเพณีและพิธีโกนจุก

ที่มา : ประเพณีและวันสำคัญต่างๆ ของไทย. (2552). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.9bkk.com/article/custom/custom2.html

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2560). พิธีโกนจุก. สืบค้น 17 กรกฎาคม 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?code_db=610004&code_type=01&nu=pages&page_id=180

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=180&code_db=610004&code_type=01

Google search

Mic

ประเพณีสงกรานต์ จังหวัดกำแพงเพชร

ประเพณีสงกรานต์ จังหวัดกำแพงเพชร

โดยเริ่มจากวันที่ 12 เมษายน ประชาชนจะทำบุญตักบาตรกันในตอนเช้า ในตอนเย็นจะมีประเพณีการขนทรายเข้าวัด และร่วมกันก่อเจดีย์ทราย ที่ตกแต่งด้วย ดอกไม้ ธงทิว พวงมะโหด ปักเท่าอายุตนเอง เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เมื่อก่อพระทรายแล้วนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ ที่กำแพงเพชร นิยมก่อที่วัดบาง นำทรายจากหาดทรายแม่น้ำปิงหน้าวัดบางมาก่อพระเจดีย์ แต่ ในปัจจุบัน หาดทรายอยู่ห่างจากวัดมาก จึงใช้รถขนมา หรือซื้อมาแล้วมาก่อที่วัด อาจไม่ได้ความรู้สึกที่ดีๆ เหมือนในอดีต ที่หนุ่มสาว หาบ ขน ทราย จากหาดทราย กระเซ้าเย้าแหย่ คุยกัน เกี้ยวพาราสี กันมาตลอดทางจนถึงวัด บรรยากาศจะเป็นธรรมชาติและสนุกมาก??ซึ่งในปัจจุบันไม่เห็นมาหลายสิบปีแล้ว

เผยแพร่เมื่อ 17-04-2020 ผู้เช้าชม 1,837

การแต่งกายของชาวกำแพงเพชร

การแต่งกายของชาวกำแพงเพชร

จุดกำเนิดของการแต่งกายต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากการพบชุมชนโบราณที่เขากะล่อน พบเครื่องประดับประเภททำด้วยหิน เช่น กำไล หินขัด ชุมชนโบราณบ้านหนองกอง ตำบลนาบ่อคำ พบลูกปัดแก้ว ลูกปัดทำจากแร่อะเกตตา เนียล และชุมชนโบราณเมืองไตรตรึงษ์ พบลูกปัดแก้ว ลูกปัดหินทำเป็นสร้อยคอและสร้อยข้อมือ เป็นจุดกำเนิดของการแต่งกายของชาวกำแพงเพชรสมัยก่อนประวัติศาสตร์เท่าที่สืบค้นได้ในปัจจุบัน

เผยแพร่เมื่อ 21-02-2017 ผู้เช้าชม 5,438

ประเพณีสารทไทย กล้วยไข่เมืองกำแพง

ประเพณีสารทไทย กล้วยไข่เมืองกำแพง

ในช่วงวันสารทไทย ประมาณเดือนกันยายนของทุกปี จะมีผลผลิตของกล้วยไข่ออกมามาก ดังนั้นทางจังหวัดกำแพงเพชรจึงจัดงานสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชรขึ้น เพื่อเผยแพร่กล้วยไข่ซึ่งเป็นผลไม้พื้นเมืองของจังหวัด ภายในงานมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย เช่น การประกวดกล้วยไข่ดิบ-สุก ชมขบวนแห่รถที่ประดับตกแต่งด้วยกล้วยไข่อย่างประณีต สวยงาม ชมการแสดงต่างๆ และร่วมพิธีกวนกระยาสารทกระทะหลวง นอกจากนี้ยังจัดให้มีการประกวดและจำหน่ายกล้วยไข่ การแข่งขันกวนกระยาสารท กวนข้าวกระยาทิพย์ งานนิทรรศการทางการเกษตร การออกร้านจำหน่ายสินค้าและการแสดงมหรสพต่างๆ

เผยแพร่เมื่อ 05-02-2017 ผู้เช้าชม 4,893

เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร

เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร

เนื่องจากก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานด่วนยอดนิยมของคนกำแพงเพชร ทั้งก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวโบราณ และผัดไท ทางจังหวัดจึงได้จัดงานมหกรรมอาหารพื้นบ้าน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร ดังกล่าวขึ้นเป็นประ จำทุกปี กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายอาหารและก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกำแพงเพชร ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเลือกได้ตามใจชอบ

เผยแพร่เมื่อ 20-02-2017 ผู้เช้าชม 2,575

ตลาดชาวบ้าน

ตลาดชาวบ้าน

ในงานเฉลิมฉลองครบรอบร้อยปี การเสด็จประพาสต้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 18-27 สิงหาคม พ.ศ. 2449 จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการสนับสนุน จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดตลาดชาวบ้านและตลาดชาววังขึ้น ในส่วนของตลาดชาวบ้านนั้น ได้รับความอนุเคราะห์จากเทศบาลตำบลนครชุม ซึ่งชาวบ้านได้รักษาวิถีชีวิตของชุมชนไว้ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในวันที่ 20-21 สิงหาคม 2549 จึงเกิดตลาดชาวบ้านขึ้นผู้แสดงล้วนมาจากตำบลนครชุมทั้งสิ้น

เผยแพร่เมื่อ 20-02-2017 ผู้เช้าชม 2,069

ครอบครัวอนุรักษ์ไทย

ครอบครัวอนุรักษ์ไทย

ในงานสงกรานต์อนุรักษ์มรดกไทย จังหวัดกำแพงเพชร ประจำปี 2551 เมื่อวันพุธที่ 16 เมษายน พุทธศักราช 2550 ณ ลานรวมใจ เทิดไท้องค์ราชัน หน้าศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ได้จัดกิจกรรม โดยให้ครอบครัวประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอ ทั้ง 11 อำเภอ ได้แสดงออกทางวัฒนธรรม ร่วมกัน อย่างน้อย 3 คน ซึ่งต้องผูกพันเป็นเครือญาติกัน

เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้เช้าชม 925

ระบำ ก. ไก่

ระบำ ก. ไก่

ชุมชนบ้านวังพระธาตุ ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นชุมชนโบราณมีความเป็นมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์หลายด้าน เช่น นิทานเรื่องท้าวแสนปม การละเล่นพื้นบ้านต่างๆ และขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงระบำ ก. ไก่ ซึ่งมีลักษณะการใช้ภาษาที่โดดเด่นเล่นคำอักษร ก ถึง ฮ เนื้อหาของบทร้องเป็นไปในเชิงเกี้ยวพาราสี โดยสะท้อนถึงชีวิตของคนไทยสมัยหนึ่ง จึงเป็นกิจกรรมที่พึงกระทำ และเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่อมา

เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 7,102

วัฒนธรรมการกินหมากของคนไทย

วัฒนธรรมการกินหมากของคนไทย

ความงามของนางในวรรณคดีของไทยทุกเรื่อง นางเอกต้องมีฟันดำราวกับนิล จึงจะถือว่างดงาม ดังนั้นการกินหมากจึงอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน และกำลังจะสูญหายไปจากสังคมไทยในไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะคนไทยทุกคนเลิกกินหมาก เราจึงบันทึกวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตไว้ให้เป็นหลักฐาน เพื่ออนุชนที่รักของเราได้เข้าใจในวัฒนธรรมการกินหมาก การกินหมากในสังคมไทยมีมาหลายศตวรรษ ประเทศในแถบตะวันออกใช้หมากเป็นเครื่องดับกลิ่นปากและทำให้ฟันคงทน จากวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ มีคำว่า สลา ซึ่งหมายถึงหมากปู่เจ้าสมิงพราย เสกหมากให้พระลอเสวย ที่เรียกกันว่าสลาเหิน หรือหมากบิน

เผยแพร่เมื่อ 03-03-2020 ผู้เช้าชม 3,185

ประเพณีงานบวช

ประเพณีงานบวช

งานบวช เป็นประเพณีไทยสืบเนื่องมาแต่โบราณกาล ชายไทยเมื่ออายุครบบวช จะต้องบวชให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสืบทอดอายุพระพุทธสาสนาสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ให้ตนเองและบิดามารดารวมทั้งหมู่ญาติการมีโอกาสได้เป็นนักบวช ดำรงเพศสมณะผุ้ตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ

เผยแพร่เมื่อ 26-02-2017 ผู้เช้าชม 26,599

สาวปากคลองที่ยังไม่ได้แต่งงานต้องสวมกำไลข้อเท้า

สาวปากคลองที่ยังไม่ได้แต่งงานต้องสวมกำไลข้อเท้า

“ข้าจะกลับมา ปากคลองจะเป็นเรือนตายของข้าต่อไป เมื่อขายของเก็บเงินที่ติดค้างอยู่เสร็จแล้ว ข้าจะมาสร้างบ้านใหม่ที่นี่เป็นเรือนหอของเรา การถอดกำไลของเอ็งจะไม่ต้องอับอายขายหน้าใคร เราจะอยู่กินด้วยกัน มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง เราจะทำคลองให้เจริญรุ่งเรืองกว่านี้ และบางทีนานไปวันหนึ่งปากคลองจะเป็นของเรา ปากคลองที่เต็มไปด้วยป่าไม้ ข้าว ไต้ น้ำมันยาง สีเสียด ยาสูบ หนังสัตว์” รื่นหนุ่มวังแขม อายุ 32 ปี บอกแก่สุดใจสาวสวยแห่งคลองสวนหมากวัย 16 ปี ใต้ต้นมะม่วงสายทองริมท่าน้ำคลองสวนหมาก วันสงกรานต์ปี พ.ศ. 2433 จาก ทุ่งมหาราช ของ เรียมเอง (มาลัย ชูพินิจ)

เผยแพร่เมื่อ 17-04-2020 ผู้เช้าชม 1,931