นิยามศัพท์

เผยแพร่เมื่อ 08-02-2017 ผู้ชม 777

Activity [A]
กิจกรรม หมายถึง การกระทำที่ทำให้กล้ามเนื้อหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งมีการเคลื่อนที่หากอยู่เฉยๆ เช่น การนอนหลับหรือพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเกียจคร้าน กิจกรรมที่ผู้กระทำ เข้าร่วมด้วยความสมัครใจไม่มีใครหรือเหตุปัจจัยที่มาบังคับให้ทำกิจกรรมนั้นมีความสุขความพอใจที่จะทำและไม่เกิดความตึงเครียดในการทำ กิจกรรมนั้น กิจกรรมที่ทำ ในเวลาว่าง ว่างจากการทำงาน ภาระกิจประวัน และไม่นำเวลาที่ควรจะนอนหลับพักผ่อนมาทำกิจกรรมนั้นจนเสียสุขภาพ กิจกรรมที่ทำ นั้นไม่ได้มุ่งเน้นเพื่อหารายได้ หรือเป็นอาชีพ กิจกรรมที่มีคุณค่า ต่อผู้ประกอบกิจกรรมและเป็นกิจกรรมที่พึงประสงค์ของสังคมไม่เป็นอบายมุข

Church = คริสตจักร ประชาคมของผู้เชื่อและยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์ มาบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อช่วยไถ่มนุษย์จากบาปประชาคมนี้ถือเป็นหนึ่งเดียวกัน หากเปรียบเป็นร่างกาย พระเยซูคือศีรษะ และคริสตจักรคือร่างกายส่วนอื่น ๆ ทั้งหมด หรืออีกนัยหนึ่ง คือ คริสตจักรชนทุกคนเปรียบเหมือนอวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายเดียวกัน โดยมีพระเยซูทรงเป็นหลัก และคริสตจักรชนทุกคนจะร่วมกันปฏิบัติพันธ์กิจคือการประกาศข่าวดีว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป มนุษย์ทุกคนที่เชื่อจะพ้นจากบาป และเชื่อว่าจะได้รับบำเหน็จจากพระเป็นเจ้าในการพิพากษาครั้งสุดท้าย

Park = สวนสาธารณะ  หมายถึงบริเวณสาธารณะที่ภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นหน่วยการปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จัดให้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแก่ประชาชนตามชุมชนและเมืองต่างๆ โดยรัฐเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดูแลรักษา ปัจจุบัน การจัดที่พักผ่อนหย่อนใจถือเป็นหน้าที่ของรัฐ แต่สวนสาธารณะในความหมายนี้ อาจจัดสร้างโดยเอกชนแล้วอุทิศให้แก่ประชาชนก็ได้

Yoga = โยคะ มิใช่เป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง แต่เป็นการฝึกเพื่อพัฒนาร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ เป็นการเตรียมกายใจให้พร้อมเพื่อเสริมสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ในการฝึกโยคะผู้ฝึกโยคะทุกคนต้องยึดถือและปฏิบัติโดยเคร่งครัดเพื่อให้สามารถปรับความสมดุลภายในร่างกายและจิตใจที่ดี

Boxing = มวย  หมายถึง กิจกรรมการเคลื่อนไหวชนิดหนึ่ง โดยใช้อวัยวะเกือบทุกส่วนในร่างกาย เช่น ศอก เข่า เท้า หมัด เป็นศิลปะในการต่อสู้แข่งขัน ฝึก ซ้อม และออกกาลังกายเพื่อช่วยพัฒนาร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสติปัญญา

Attraction = ความงาม, งาม, ดึงดูด หมายถึง สถานภาพของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเพลิดเพลิน และความชื่นชมผ่านการเข้าใจและรับรู้ถึงความสมดุล สัดส่วน และ แรงดึงดูด ของสิ่งๆนั้น ซึ่งอาจจะเป็นบุคคล สัตว์ สิ่งของ เหตุการณ์ สถานที่ ดนตรี ศิลปะ หรือ ความคิด สิ่งตรงกันข้ามกับความงามคือความน่าเกลียดน่าชัง ซึ่งมีผลกระทบอย่างตรงกันข้ามต่อผู้ที่รับรู้

Museum = พิพิธภัณฑ์  หมายถึง อาคารหรือสถาบัน ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเก็บรักษาวัตถุที่มนุษย์ทำขึ้น ทั้งในรูปแบบของโบราณวัตถุ วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ประวัติศาสตร์ โดยมีจัดแสดงให้ผู้คนสามารถเข้าชมได้ถาวร หรือจัดแสดงชั่วคราว พิพิธภัณฑสถานมักจะให้บริการแก่สาธารณชน เพื่อประโยชน์ในการศึกษา สันทนาการ แสดงความภูมิใจของท้องถิ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยมีผู้ดูแลพิพิธภัณฑสถาน เรียกว่า ภัณฑารักษ์

Palace=พระราชวังหมายถึงสิ่งก่อสร้างสำหรับที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยของประมุขของประเทศหรือผู้นำผู้มีตำแหน่งสูงในหลายประเทศในยุโรปเช่นประเทศฝรั่งเศส และ อิตาลี นอกจากนั้นยังเป็นคำที่ใช้สำหรับสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่แต่ไม่จำเป็นต้องใหญ่มากในตัวเมืองที่สร้างสำหรับเจ้านาย หรือผู้มีตระกูล ในปัจจุบันวังหรือพระราชวังหลายแห่งเปลี่ยนไปใช้เป็นพิพิธภัณฑ์หรือสำนักงานรัฐบาล หรือโรงแรม

Royal Project = โครงการหลวง เป็นโครงการส่วนพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวเขา เพื่อเป็นการหารายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2512 โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี เป็นผู้รับผิดชอบในฐานะประธานมูลนิธิโครงการหลวง

Temple = วัด หมายถึงสถานที่ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งปกติมีพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ รวมทั้งมีพระภิกษุสงฆ์อยู่อาศัย คำว่า “วัด” เป็นคำเรียกชื่อศาสนสถานแบบคำไทย โดยที่มาของคำว่า “วัด” นี้ ยังไม่มีข้อยุติ ด้วยบางคนอธิบายว่า มาจากคำว่า “วตวา” ในภาษาบาลี แปลว่า เป็นที่สนทนาธรรม บ้างก็ว่ามาจาก “วัตร” อันหมายถึงกิจปฏิบัติหรือหน้าที่ของพระภิกษุที่พึงกระทำ หรือแปลอีกอย่างว่าการจำศีล ซึ่งวัด (วัตร) ตามนัยยะนี้จึงน่าจะหมายถึงสถานที่ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ใช้เป็นที่จำศีลภาวนา หรือสถานที่ที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ปฏิบัติภาระกิจที่พึงกระทำนั่นเอง แต่ก็มีบางคนสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “วัดวา” อันหมายถึงการกำหนดขอบเขตของดินแดนที่สร้างเป็นศาสนสถาน เพราะวัดกับวามีความหมายอย่างเดียวกัน คือการสอบขนาด หรือปริมาณของสิ่งต่างๆ เช่น ความยาว ความกว้าง เป็นต้น วัดในนัยยะอย่างหลังนี้จึงหมายถึง พื้นที่

Others = อื่นๆ

Accommodation = ที่พัก หมายถึง อาคารที่บุคคลสามารถแบ่งถือกรรมสิทธิ์ออกเป็นส่วนๆ  โดยแต่ละส่วนประกอบด้วยกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนบุคคลและกรรมสิทธิ์ใน ทรัพย์สินส่วนกลาง  พูดง่ายๆคือ ผู้ที่เป็นเจ้าของที่สร้างคอนโดนั้นๆขึ้นมา แล้วทำการปล่อยให้ผู้ซื้อได้มาทำการซื้อห้องพักภายในคอนโดนั้นๆ ผู้ที่ทำการซื้อห้องพักภายในคอนโดนั้นๆไปสามารถมีสิทธิ์ครอบครองส่วนบุคคลได้อย่างเต็มที่  ลักษณะของคอนโดส่วนใหญ่ตัวอาคารจะเป็นตึกใช้วัสดุทนไฟ โดยอาจมีหรือไม่มีห้องน้ำในตัวก็ได้  อาจเรียกชื่ออื่นๆได้ เช่น บ้านลอยฟ้า ห้องชุด บ้านบนตึกสูง เป็นต้น

Apartment = อพาร์ทเม้น หมายถึง อาคารพักอาศัยเพื่อเช่า ซึ่งจะเป็นที่พักอาศัยหรืออาคารพักอาศัยที่ผู้อยู่อาศัยมีสิทธิ์แค่เพียงเช่าพักเท่านั้น โดยกรรมสิทธิ์ทั้งผืนดินและทั้งอาคารนั้นยังเป็นของเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ หรือแฟลต( Flat ) เพียงคนเดียว  และทุกคนที่อาศัยอยู่ในอาคารนั้นต้องปฏิบัติตามในกฏระเบียบที่อพาร์ทเมนท์กำหนดไว้  อพาร์ทเม้นท์ หรือแฟลต( Flat ) ในบางแห่งจะกำหนดระยะเวลาการเข้าพักที่แน่นอน  ลักษณะของ อพาร์ทเม้นท์ หรือแฟลต( Flat ) จะเป็นตึกสูงไม่เกิน 5 ชั้น ซึ่งแบ่งเป็นห้องอยู่อาศัยจำนวนหลายห้องแล้วแต่ขนาด อาศัยอยู่กันหลายครอบครัว มีทางเข้าออก ทางขึ้น-ลง ทางเดินและส่วนอื่นๆ ร่วมกัน

Guest House = เกส์ท์เฮ้าส์ หมายถึง สถานที่ประกอบการเชิงการค้าที่นักธุรกิจตั้งขึ้น เพื่อบริการผู้เดินทางในเรื่องของที่พักอาศัย อาหาร และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพักอาศัยและเดินทาง หรืออาคารที่มีห้องนอนหลายห้อง ติดต่อเรียงรายกันในอาคารหนึ่งหลังหรือหลายหลัง ซึ่งมีบริการต่าง ๆ เพื่อความสะดวกของผู้ที่มาพัก

Hotel = โรงแรม หมายถึง ที่พักคนเดินทางซึ่งต้องเสียค่าพักแรมด้วย สถานที่ทุกชนิดที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรับสินจ้างสําหรับคนเดินทางหรือบุคคลที่ประสงค์จะหาที่อยู่หรือที่พักชั่วคราว

Service = บริการ หมายถึงการกระทำหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อตอบสนองความต้องการของบุคคลหรือองค์กรให้ได้รับความพึงพอใจสมความมุ่งหมายที่บุคคลหรือองค์กรนั้นต้องการ เนื่องจากผลสำเร็จของการบริการขึ้นอยู่กับ “ความพึงพอใจ” ซึ่งเป็นเรื่องของ “ความรู้สึก” ไม่มีหน่วยวัด นิยามของคำว่าบริการจึงขึ้นอยู่กับการพยายามอธิบายเพื่อให้เข้าใจตรงกัน

Car Rent = เช่ารถ

Car Repair = ซ่อมรถ

Massage = การนวด หมายถึง เป็นจัดระเบียบร่างกายรูปแบบหนึ่ง เพื่อการบำบัดและทำให้ร่างกายผ่อนคลาย โดยใช้ทักษะทางร่างกายและอุปกรณ์เสริมด้วยการ บีบ จับ คลึง รีดเส้น เหยียบ ยัน กดจุด ดัด หรือกระตุ้นด้วยการสั่น เพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อและต่อมต่างๆ ในบริเวณนั้นๆ ทำงานดีขึ้น

People = คน หมายถึง สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่อยากรู้อยากเห็น ฝักใฝ่ในความมีเหตุผล เพราะเป็นสัตว์ใช้สมอง มนุษย์จึงสามารถเข้าใจเรื่องของโลกและชีวิต ทั้งยังสามารถให้การตีหมาย วิเคราะห์ ชี้แจง และให้คำตอบเรื่องต่างๆ หรือปัญหาต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน

Pet = สัตว์เลี้ยง หมายถึงสัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนหรือเพื่อคุ้มครองบุคคลเป็นหลัก ต่งจากสัตว์ใช้งาน สัตว์กีฬา ปศุสัตว์และสัตว์ทดลอง เพื่อเลี้ยงไว้เพื่อการแสดง ใช้ในเกษตรกรรมหรือการวิจัยเป็นหลัก

Post office = ที่ทำการไปรษณีย์ จดหมาย (mail) บริการรับส่งจดหมายและพัสดุภัณฑ์ (postal service) รวมทั้งเป็นคำเรียกย่อ ๆ ของ ที่ทำการไปรษณีย์

Tour = การท่องเที่ยว การเดินทางของมนุษย์จากสถานที่ใดสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง หรือการเดินทางจากถิ่นพำนักที่อาศัยไปยังสถานที่อื่นเป็นการชั่วคราวด้วยความสมัครใจไป และเป็นการเดินทางด้วยเหตุผลของการท่องเที่ยวมิใช่เพื่อการประกอบอาชีพ หรือหารายได้ เช่น การเดินทางเพื่อการพักผ่อน การเดินทางเพื่อไปชมการแข่งขันกีฬา (อาทิ การแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ โอลิมปิก     เป็นต้น) การเดินทางเพื่อการศึกษา การเดินทางเพื่อประชุมสัมมนา การเดินทางเพื่อเยี่ยมเยือนญาติพี่น้อง หรือเพื่อน  การเดินทางเพื่อแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม เป็นต้น

Tourist Guide = มัคคุเทศก์ หรือไกด์ เป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ ข้อมูล ความเข้าใจทางด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และเหตุการณ์ร่วมสมัยต่างๆแก่บุคคที่อยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเอกเทศ หรือนักท่องเที่ยวในกรณีทัศนศึกษาที่สถานีทางศาสนาหรือประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจอื่นๆ[1] มัคคุเทศก์ส่วนใหญ่จะได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้องก่อนเข้าทำงาน ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศและภูมิภาค

Shopping = ช้อปปิ้ง การเดินดูและซื้อของตามร้าน,สรรพสินค้าในร้าน,ของทั้งหมดที่ซื้อ,การซ่อมเครื่องครั้งใหญ่. adj. เกี่ยวกับการดูและซื้อสินค้า

Department Store = ห้างสรรพสินค้า หรือเรียกสั้นๆ ว่า ห้าง คือร้านค้าขายปลีกขนาดใหญ่ซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภทแยกตามแผนก โดยไม่มีการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย (ห้างเป็นผู้นำสินค้ามาขายเอง) ห้างสรรพสินค้ามักขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า เครื่องเรือน เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงสายผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างเช่น ฮาร์ดแวร์ สุขภัณฑ์ เครื่องสำอาง เครื่องเพชรพลอย เครื่องเขียน ของเล่น อุปกรณ์กีฬา เป็นต้น ห้างสรรพสินค้าบางแห่งอาจขายเฉพาะสินค้าลดราคา และมีพื้นที่ชำระเงินเป็นศูนย์กลาง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่บริเวณด้านหน้าของห้าง ห้างสรรพสินค้ามักเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มของร้านค้าย่อยที่อยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันกับพื้นที่ใกล้เคียง

Mall =  ห้างสรรพสินค้า หรือเรียกสั้นๆ ว่า ห้าง คือร้านค้าขายปลีกขนาดใหญ่ซึ่งมีสินค้าหลากหลายประเภทแยกตามแผนก โดยไม่มีการขายผ่านตัวแทนจำหน่าย (ห้างเป็นผู้นำสินค้ามาขายเอง) ห้างสรรพสินค้ามักขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเสื้อผ้า เครื่องเรือน เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงสายผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างเช่น ฮาร์ดแวร์ สุขภัณฑ์ เครื่องสำอาง เครื่องเพชรพลอย เครื่องเขียน ของเล่น อุปกรณ์กีฬา เป็นต้น ห้างสรรพสินค้าบางแห่งอาจขายเฉพาะสินค้าลดราคา และมีพื้นที่ชำระเงินเป็นศูนย์กลาง ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่บริเวณด้านหน้าของห้าง ห้างสรรพสินค้ามักเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มของร้านค้าย่อยที่อยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันกับพื้นที่ใกล้เคียง

Transportation = การขนส่ง คือการเคลื่อนย้ายคนและสิ่งของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง การขนส่งแบ่งออกเป็นหมวดใหญ่ดังนี้ ทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ และ อื่นๆ

Airport = สนามบิน หมายถึงที่สำหรับเครื่องบินขึ้นลง ประกอบด้วยลานจอดเครื่องบิน ลู่เครื่องบินขึ้นลง โรงเก็บอุปกรณ์การบิน หอบังคับการบิน ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ และที่พักผู้โดยสารเข้าออก

Boat = เรือ หมายถึง  พาหนะที่ใช้เดินทางทางน้ำ  มักทำด้วยขุดไม้ทั้งต้นหรือทำจากกระดาน สังกะสี เหล็ก เป็นต้น  มาประกอบเข้าด้วยกัน  เรือโดยทั่วไปโครงสร้างประกอบด้วยตัวเรือที่โครงสร้างสามารถลอยน้ำได้ (ซึ่งอาจเป็นส่วนเดียวหรือสองส่วนขนานกันก็ได้  แต่ไม่รวมถึงแพซึ่งปกติโครงสร้างลอยน้ำจะทำจากกระบอกกลวงหลายๆท่อนผูกติดกัน) และส่วนที่เป็นการขับเคลื่อนของเรือ เช่น ไม้พาย (เรือพาย หรือ เรือแจว) , เครื่องยนต์หางยาว (เรือหางยาว) , ใบเรือ  (เรือใบ)

Bus = รถบัส หมายถึง (คำตลกคะนองใช้เรียก) เครื่องบินส่วนตัว, (คำตลกคะนองใช้เรียก) รถจักรยานยนต์ส่วนตัว, (คำตลกคะนองใช้เรียก) รถยนต์ส่วนตัว, รถประจำทาง สำหรับคนโดยสาร, รถเมล์

Railway = ทางรถไฟ เป็นเส้นทางการคมนาคมขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร โดยมีรถไฟเป็นยานพาหนะ รางรถไฟนั้นประกอบด้วยรางสองราง ซึ่งปกติทำมาจากเหล็กกล้า วางบนวัตถุที่ตั้งฉากกับตัวราง โดยสร้างจากไม้หรือคอนกรีต วัตถุนี้เป็นตัวกำหนดระยะระหว่างของรางเรียกว่า "เกจ"

Sky Train = รถไฟฟ้า หมายถึง รถที่พ่วงกันเป็นขบวนยาวโดยขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแล่นไปตามราง

Subway = รถไฟใต้ดิน คือรถไฟฟ้ามหานครหรือรถไฟฟ้า MRT เป็นบริการขนส่งที่ได้รับความนิยมมากอีกอย่างหนึ่งในกรุงเทพ ทั้งนี้ก็เพราะว่า สามารถอำนวยความสะดวกในการเดินทางในกรุงเทพได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องเบื่อกับการรถติดเป็นชั่วโมง ๆ อีกต่อไป สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้บริการรถไฟฟ้า MRT เลยก็ไม่ต้องวิตกกังวลไป เพราะไม่ได้ต่างอะไรจากรถไฟฟ้า BTS มากนัก จะต่างกันก็ตรงที่เปลี่ยนจากบัตรเป็น "ชิพ หรือ เหรียญโดยสาร (Token)" แทน ซึ่งวิธีการเข้าออกก็จะไม่เหมือนกันแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากยังวิตกกังวลกับขั้นตอนการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินนี้อยู่ ก็อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมด้านล่างได้เลย การโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินนั้น หากต้องการเดินทางเที่ยวเดียวก็ให้ใช้เหรียญโดยสาร (Token) แต่ถ้าเป็นคนที่ ต้องการใช้บริการ MRT บ่อย ๆ ก็ให้ใช้บัตรโดยสาร (เติมเงิน) แทน เพราะค่าใช้จ่ายในแต่ละเที่ยวจะถูกลง

Oraganization = องค์กร หมายถึง ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานได้นิยามความหมายของ "องค์กร"ไว้ว่าองค์กรเป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่ประกอบกันขึ้นเป็นหน่วย ถ้าเป็นงานสาธารณะ เรียกว่า องค์กรบริหารส่วนราชการ ถ้าเป็นหน่วยงานเอกชน เรียกว่า องค์กรบริหารธุรกิจ

Police Station = สถานีตำรวจ หมายถึง ที่พักสงบสติอารมณ์ พักเพื่อที่จะตัดสินว่าคดีขึ้นศาล ต่อไปหรือไม่ คำว่าโรงพัก เป็นคำที่ใช้เรียกกันมานาน น่าจะพอพอกับคำว่าพลตระเวนในสมัยก่อนที่ใช้เรียกตำรวจสายตรวจ ตรวจสอบจากผู้รู้ แล้วไม่มีผู้ใดรู้จริง ไม่มีผู้ใดกล้ายืนยัน ถ้าจะสันนิษฐาน น่าจะมาจากสมัยก่อน น่าจะยังไม่มีสถานีตำรวจ เมื่อพลตระเวนตรวจไปเรื่อยๆ อาจต้องหยุดพักเป็นจุดๆ อาจมีการสร้างที่ทำการให้สาตรวจหรือพลตระเวน ได้หยุดพัก ต่อมาอาจเรียกที่ทำการเป็นโรงพัก หรือข้อสันนิษฐานอีกอย่าง ก็เนื่องจากที่ทำการสถานีตำรวจเปิดบริการตลอด ๒๔ ชั่วโมง ชาวบ้านไปไหนมาไหน สมัยก่อนโรงแรมก็คงหายาก การเดินทางไปมา ก็คงยากลำบาก หากหาญาติพี่น้องไม่พบ หรือค่ำมืด ไม่ปลอดภัยก็อาจได้ที่ทำการสถานีตำรวจเป็นที่พัก พอได้ปลอดภัย ก็เลยเรียกติดปากว่าโรงพัก

Restaurant = ร้านอาหาร หมายถึง สถานที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ให้คำจำกัดความว่า สถานที่จำหน่ายอาหาร หมายถึง “อาคาร สถานที่ หรือบริเวณใด ๆ ที่มิใช่ที่หรือทางสาธารณะที่จัดไว้เพื่อประกอบอาหารหรือปรุงอาหารจนสำเร็จและจำหน่ายให้ผู้ซื้อสามารถบริโภคได้ทันทีทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายโดยจัดให้มีบริเวณไว้สำหรับการบริโภค ณ ที่นั้น หรือนำไปบริโภคที่อื่นก็ตาม” ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า สถานที่จำหน่ายอาหาร คือร้านอาหาร และที่สำคัญต้องเป็นร้านอาหารในที่เอกชนที่ไม่ใช่ที่หรือทางสาธารณะ และต้องมีบริเวณปรุงอาหาร ซึ่งจะมีที่รับประทานอาหารหรือไม่ก็ได้

Chinese = ชาวจีน หมายถึง ผู้ที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน (รวมทั้งฮ่องกงและมาเก๊า) หรือสาธารณรัฐจีน และถือครองสัญชาติของประเทศนั้น

Coffee Shop = ร้านกาแฟ หมายถึง เป็นร้านประกอบกิจการเกี่ยวกับกาแฟ ลักษณะร้านแบบคาเฟ่นั้น เป็นการผสมรูปแบบระหว่าง "ภัตตาคาร" และ "บาร์" เข้าด้วยกัน โดยทั่วไปคาเฟ่จะไม่จำหน่ายเครื่องที่มีแอลกอฮอล์ จะเน้นไปที่เครื่องดื่มประเภท กาแฟ ชา หรือ ช็อกโกแลต และอาจมีอาหารว่าง ซุป แชนวิช ขนมอบและขนมหวานที่เสิร์ฟเคียงกับเครื่องดื่ม เช่น เค้กหรือคุกกี้ไว้บริการด้วย

Local =  ท้องถิ่น หมายถึงถิ่นฐานที่อยู่ของมนุษย์ที่ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่กันเป็นกลุ่มหรือหน่วยของพื้นที่ย่อยลงมา ตั้งแต่บ้าน มู่บ้าน ตำบล อำเภอ เทศบาล จังหวัด ในทำนองเดียวกัน ถ้าจะกล่าวถึงท้องถิ่นในลักษณะ ที่เป็นขอบเขตชุมชนใดชุมชนหนึ่งสิ่งที่เราควรพิจารณาก็คือ สภาพของท้องถิ่นนั้นเป็นอย่างไร มีความเจริญก้าวหน้าหรือหล้าหลังเพียงใด ภาวะการครองชีพของผู้คนในชุมชนเป็นเช่นใด ก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบพื้นฐานเฉพาะชุมชนนั้นๆ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมทางสังคม วัฒนธรรม สภาพเศรษฐกิจและลักษณะของการเมือง การปกครอง การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทางด้านศรษฐกิจ การเมือง สังคมรวมทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน มีผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยในท้องถิ่นต่าง ๆ โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ มีแนวโน้มจะพัฒนาจากประเทศเกษตรกรรมไปสู่อุตสาหกรรมให้มากขึ้น แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจำเป็นต้องเตรียมประชากรของประเทศและท้องถิ่น พร้อมที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนให้ดำเนินชีวิตได้อย่างสงบสุข

Restaurant = ร้านอาหาร เป็นร้านที่คอยบริการอาหารตามความต้องการของลูกค้า ตามพจนานุกรม ฉบับราชบันฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 หมายถึง อาคารที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ทอม พาวเวอร์ ให้ความหมายของ "ภัตตาคาร" หรือ "restaurant" ว่า คำว่า"restaurant" มากจากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งหมายถึง การให้กำลังงาน (restorer of energy) โดยใช้คำนี้มาตั้งแต่ต้นศริสต์ศักราช 1700 (ประมาณ พ.ศ. 2243) เพื่ออธิบายถึงสถานที่ให้บริการซุปและขนมปัง ในปัจจุบันคำว่าภัตตาคาร เป็นคำที่ใช้เรียกสถานที่สาธารณะที่มีการเตรียมอาหารสำหรับผู้บริโภทหรืออาหารนอกสถานที่ เดนนิส เอล ฟอสเตอร์ ได้กล่าวว่า "restaurant" มาจากรากศัพท์ภาษาลาตินว่า"restaurabo" แปลว่า"ฉันมาเติมให้เต็มหรืออิ่มหน่ำ"