วัดเตาหม้อ
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้ชม 2,362
[16.4960313, 99.4398593, วัดเตาหม้อ]
เมื่อได้ยินชื่อวัดเตาหม้อ จะไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นวัดสำคัญ คิดว่าเป็นวัดขนาดเล็กวัดหนึ่ง ในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร แต่เมื่อได้มีโอกาสเข้าชมแล้วจะรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ ของวัดเตาหม้อ เมื่อแรกเข้าไปศึกษาในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จะมองไม่เห็นวัด เตาหม้อเลย เพราะจะถูกปกคลุมด้วย ป่าไม้ ไม่สามารถเดินเข้าไปชมได้ นอกจากผู้ที่มีอาชีพขุดพระเท่านั้น ที่ยังเข้าไปขุดค้นสมบัติอยู่ได้เข้ามาชม วัดเตาหม้อเป็นครั้งที่สาม เมื่อย่างเข้าไปในเขตวัด เห็นพระวิหารขนาดใหญ่มาก มีขนาดกว้าง ประมาณ 30 เมตร ยาวประมาณ 40เมตร บนวิหารมีพระพุทธรูปที่ก่อด้วยศิลาแลง ขนาด นั่งสมาธิ หน้าตักกว้างประมาณ 6 เมตร สูงประมาณ 10 เมตร สภาพยังเห็นเป็นองค์พระได้อย่างชัดเจน 1 องค์ ส่วนอีกองค์หนึ่งที่ประทับนั่งคู่กัน ได้ถูกนักเลงขุดพระทำลายไปเสียแล้ว เห็นเพียงฐานพระ ขนาดเท่ากับองค์ที่เหลือ ตั้งตระหง่านอย่างงดงาม คู่กันอย่างบนวิหาร ด้านหลังของพระประธาน ได้ถูกเจาะเพื่อหาสมบัติ น่าเสียดายถ้าไม่รีบบูรณะพระพุทธรูปจะพังลงมาก่อน จะมองไม่เห็นความงาม ของพระพุทธรูปขนาดยักษ์ทั้งสององค์หลังพระวิหารเจดีย์ประธานสัณฐานมณฑป ขนาดใหญ่มาก ยอดของเจดีย์ประธานยังหักตกลงมาให้เห็นเป็นหลักฐาน ภายในเจดีย์ประธานถูกขุดค้นอย่างไม่มีชิ้นดี เพื่อหาพระพุทธรูป พระเครื่องและสมบัติ ที่คนโบราณฝังไว้ ถัดไปเป็นเจดีย์อีกองค์หนึ่งซึ่งอยู่ติดกับ เจดีย์ประธาน แต่ขนาดย่อมลง ด้านหลังเป็นเจดีย์รายขนาดใหญ่จำนวนมาก แต่ละองค์ถูกขุดค้นไปอย่างไม่มีชิ้นดี?.ในเจดีย์รายโดยรอบมีบ่อกรุ ที่ทำด้วยศิลาแลงแท่งขนาดใหญ่มาก ขนาดแท่งศิลาวัดพระนอน ขนาดบ่อ กว้างยาวด้านละประมาณ 4 เมตร ทำไว้อย่างแข็งแรง สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นกรุ มหาสมบัติ ที่รวมของมีค่าอยู่ในวัดซึ่งถูกขุด ค้นอย่างไม่มีชิ้นดี หลังจากสำรวจครั้งนี้แล้ว กรมศิลปากรสมควรบูรณะปฏิสังขรณ์ เพื่อมิให้เสียหายไปกว่านี้วัดเตาหม้อ มีหลักฐานเตาถลุงเหล็กขนาดใหญ่อยู่ 4 เตา พังไปแล้ว 2 เตา กำลังจะพัง 1 เตา สมบูรณ์ดีเรียบร้อยอยู่ 1 เตา บริเวณเตามีแร่เหล็ก ที่ผ่านการถลุงอยู่เป็นจำนวนมาก ตกอยู่เกลื่อนกลาด คาดว่า จะเป็นแหล่งถลุงเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกำแพงเพชร เพราะเมืองกำแพงเพชร มีเหล็กที่มีคุณภาพ นำไปผลิตอาวุธ และหล่อพระ จากวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ได้พูดถึงการทำดาบฟ้าฟื้นว่า ได้นำเหล็กเมืองกำแพง ไปเป็นวัตถุสำคัญในการตีดาบและการที่มีเตาขนาดใหญ่นี่เอง ทำให้วัดนี้ได้รับการขนานนามว่าวัดเตาหม้อมาจนปัจจุบันเมื่อสังเกตอย่างถ้วนถี่ วัดเตาหม้อนี้ น่าจะเป็น วัดแห่งยุทธศาสตร์ ในการผลิตอาวุธ ไว้ป้องกันเมืองกำแพงเพชร หรือส่งขาย ทั่วไป ในช่วง 600 ? 700 ปี ที่ผ่านมา น่าสงสัยนักว่าทำไม ไม่มีใครสนใจ หรือใส่ใจในวัดเตาหม้อ เลย ทั้งที่เกือบทุกวัดในอุทยานประวัติศาสตร์ ล้วนได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์แล้วเกือบทั้งสิ้น วัดขนาดใหญ่อย่างวัดเตาหม้อหลงหูหลงตาไปได้อย่างไร มันเป็นปริศนาที่น่าสนใจยิ่งนักวัดเตาหม้อ แหล่งถลุงเหล็กที่ใหญ่มากในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร วัดที่สำคัญที่สุดแห่งเราชาวกำแพงเพชร
ที่ตั้ง : อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร 62000 ตามทางหลวงหมายเลข 101 ถึงหลัก กม.ที่ 360 เลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. หรือสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 055-711921, 055-712528
รายละเอียด และ อัตราค่าธรรมเนียมต่าง ๆ : อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
ชาวไทย 20 บาท : ชาวต่างประเทศ 100 บาท
อัตราค่ายานพาหนะ
รถจักรยานสองล้อ คันละ 10 บาท/คัน
รถจักรยานยนต์ คันละ 20 บาท/คัน
รถจักรยานสามล้อ คันละ 20 บาท/คัน
รถจักรยานยนต์สามล้อ คันละ 30 บาท/คัน
รถยนต์ทุกชนิด คันละ 50 บาท/คัน
ภาพโดย : https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=223&code_db=DB0011&code_type=F001
คำสำคัญ : วัดเตาหม้อ
ที่มา : http://www.sunti-apairach.com
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2560). วัดเตาหม้อ. สืบค้น 18 กรกฎาคม 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?code_db=610009&code_type=01&nu=pages&page_id=306
Google search
ตั้งอยู่กลางเมืองกำแพงเพชร เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโบราณสถานมรดกโลกในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เป็นวัดที่สำคัญอยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย ภายในบริเวณวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานที่ฐานมีสิงห์ล้อม เจดีย์ทรงกลมที่ฐานมีช้างรอบ วิหาร มณฑป อุโบสถ และเจดีย์ราย ทั้งหมดล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลงเป็นแท่งๆ โดยรอบ
เผยแพร่เมื่อ 03-02-2017 ผู้เช้าชม 7,122
เดิมชื่อวัดใดไม่ปรากฏชัดเจนชาวบ้านเมืองนครชุมเรียกตามภูมินามที่พบเห็น โดยสันนิษฐานว่า บริเวณที่ค้นพบวัด อยู่ในที่จับจองของชาวพม่า ที่ชื่อหม่องกาเล ซึ่งสืบหาลูกหลานของท่านไม่ได้ รู้แต่ว่าหลังจากหม่องกาเล ที่บริเวณนั้น เป็นที่ครอบครองของตาหมอหร่อง ตาหมอหร่อง มีลูกเขยชื่อนายจันทร์ ได้ครอบครองที่ดินบริเวณนี้ต่อมา และได้ขายที่ดินทั้งหมดให้ผู้อื่น
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้เช้าชม 2,946
มณฑปจตุรมุข ซึ่งมีรูปแบบเหมือนดังที่พบที่วัดเชตุพนและวัดพระพายหลวง จ.สุโขทัย จากจารึกลานเงินที่พบบริเวณเจดีย์รอบมณฑปได้กล่าวไว้ว่าพระมหามุนีรัตนโมลีเป็นผู้สร้างและเสด็จพ่อพระยาสอยเป็นเจ้าเมืองกำแพงเพชรในยุคนั้น โดยโบราณสถานแห่งนี้ มีเอกลักษณ์ตรงที่แต่ละทิศเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ปางหรือ 4 อิริยาบถ อันได้แก่ อิริยาบถยืน (ปางประทานอภัย) อิริยาบถเดิน (ปางลีลา) อิริยาบถนั่ง (ปางมารวิชัย) และอิริยาบถนอน (ปางไสยาสน์) โดยปัจจุบันเหลือเพียงอิริยาบถยืน (ปางประทานอภัย) ที่สภาพค่อนข้างสมบูรณ์กว่าอิริยาบถอื่นๆ กล่าวคือพระพักตร์เป็นลักษณะพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยแบบกำแพงเพชร คือพระนลาฏกว้างพระหนุเสี้ยม
เผยแพร่เมื่อ 08-02-2017 ผู้เช้าชม 8,680
วัดท่าหมัน บ้านปากคลอง เคยเป็นวัดที่เก่าแก่และเคยเจริญรุ่งเรือง บ้านปากคลองเหนือ ที่เรียกว่าวัดท่าหมัน เพราะมีต้นหมันขนาดใหญ่ขึ้นเป็นร่มเงาของท่าน้ำ ที่มีการคมนาคมทางน้ำ มีการค้าขายทุกชนิดมีสินค้าออกจากป่า ได้หวาย น้ำมันยาง ไม้ท่อน ไม้แผ่นที่ขายเป็นยก สีเสียด น้ำผึ้ง หนังสัตว์ เนื้อสัตว์ทุกชนิดมาขึ้นซื้อขายกันที่ท่าหมันแห่งนี้ คือบริเวณตลาดนครชุมปัจจุบัน ท่าน้ำที่มีในตอนนี้ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีผู้คนมาใช้มากที่สุดแห่งหนึ่งที่บ้านปากคลองสวนหมาก ร้านผัดไทยแม่สุภาพปากคลอง ก็เคยเป็นที่ตั้งของวัดท่าหมันเช่นกัน ที่คนปากคลองรู้จักกันดี
เผยแพร่เมื่อ 20-04-2020 ผู้เช้าชม 1,210
สถานที่สำคัญในการศึกษาประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของกำแพงเพชร นอกเหนือไปจากอุทยานประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีอีกที่หนึ่งที่รวบรวมปูชนียวัตถุ ปูชนียสถานเอาไว้ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเป็นถิ่นกำเนิดของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ จากตัวเมืองกำแพงเพชรใช้ถนนสายเล็กๆ หมายเลข 1084 เป็นถนนขนานกับแม่น้ำ เชื่อมต่อหลายอำเภอของกำแพงเชรและนครสวรรค์
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้เช้าชม 3,759
อยู่ถัดจากวัดพระสี่อิริยาบถไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เมตร สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างถึง 2 สมัย คือสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา ผังรวมของวัดแบ่งเขตพุทธาวาสให้อยู่ในกลุ่มกลางล้อมรอบด้วยเขตสังฆาวาสหรือกุฏิสงฆ์ โดยมีพระเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม มีซุ้มทั้ง 4 ด้านเป็นประธาน ด้านหน้าเป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่ ยกฐานประทักษิณสูง บนฐานประทักษิณนี้ ประดิษฐานพัทธสีมาไว้ทั้งแปดทิศ มุขด้านหน้าของฐานประทักษิณ มีรูปสิงห์ นาค ประดับ
เผยแพร่เมื่อ 08-02-2017 ผู้เช้าชม 3,238
วัดนาควัชรโสภณ เดิมชื่อ วัดช้าง สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนปลาย ประมาณหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เป็นวัดที่มีความสำคัญ ตั้งอยู่หน้าเมืองด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงข้ามกับวัดเจ้าเมือง กำแพงเพชร เป็นวัดอยู่ในกลุ่มอรัญญิกด้านทิศตะวันออก รูปแบบสภาพแวดล้อมทั้งหมดได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะสมัยลพบุรีหรือขอม นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของถนนพระร่วงตัดผ่านหน้าวัดนี้ด้วย วัดช้างนับเป็นวัดเก่าแก่สร้างมาประมาณ ๗๐๐ ปีเศษ ลักษณะสภาพโดยทั่วไปของกลุ่มโบราณสถานจะถูกล้อมรอบด้วยคูน้ำกว้างประมาณ ๑๐ เมตร ยาวประมาณ ๕๐๙ เมตร มีเนื้อที่ตั้งวัด ๖๒ ไร่ การคมนาคมสะดวก บริเวณวัดสะอาด ร่มรื่นด้วยต้นไม้ สวยงามตามธรรมชาติ วัดช้าง เป็นวัดที่ร้างจากพระสงฆ์มาประมาณ ๔๐๐ - ๕๐๐ ปี ครั้นลุถึงปีพุทธศักราช พ.ศ. ๒๕๐๙ พระวิชัย ปสนฺโน
เผยแพร่เมื่อ 11-02-2017 ผู้เช้าชม 2,848
เป็นวัดขนาดเล็ก ที่อยู่ริมถนนทางทิศตะวันออกของวัดหมาผี ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478 ประกอบด้วยโบราณสถานที่สำคัญคือ มณฑปยอดเจดีย์ ซึ่งเป็นประธานของวัด มีวิหารขนาดปานกลางอยู่ด้านหน้า มีกำแพงล้อมโดยรอบปัจจุบันเหลือเพียง 3 ด้าน มีบ่อน้ำอยู่หน้าวัด วัสดุหลักในการสร้างวัดคือศิลาแลง ผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เหมือนวัดทั่วไปในเขตอรัญญิก
เผยแพร่เมื่อ 16-02-2017 ผู้เช้าชม 2,093
วัดบ่อเงิน ตั้งอยู่เลขที่ 264 หมู่ที่ 12 ตำบลเทพนคร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชรโดยสำนักพุทธศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ อนุญาตให้ตั้งเป็นวัดบ่อเงิน ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2525 หลักฐานที่ดินในการตั้งวัดบ่อเงิน เป็นหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เล่มที่ 13 (3) หน้า 53 จากที่ดินอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร เดิมวัดบ่อเงิน ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 7 ตำบลคณฑี อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร
เผยแพร่เมื่อ 30-09-2022 ผู้เช้าชม 1,314
เป็นวัดที่ก่อสร้างใหญ่โต มีเจดีย์และวิหารมาก อยู่ริมถนนไปอำเภอพรานกระต่าย ห่างจากประตูโคมไฟไปทางเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร กำแพงวัดเป็นศิลาแลง กลางวัดมีฐานพระเจดีย์แปดเหลี่ยมใหญ่กว้างด้านละ 16 เมตร ด้านหน้าวัดอาวาสใหญ่ ริมถนนมีบ่อสี่เหลี่ยมใหญ่ขุดลงไปในพื้นศิลาแลงกว้าง 9 เมตร ยาว 17 เมตร ลึก 7-8 เมตร เรียกว่า “บ่อสามแสน” และตรงด้านหน้าเจดีย์ประธานด้านทิศเหนือ มีบ่อศิลาแลงขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีฐานวิหารทั้งใหญ่และเล็กรวม 10 วิหาร ฐานเจดีย์รวม 9 ฐาน วัดนี้อยู่ริมถนนสะดวกในการเข้าชม
เผยแพร่เมื่อ 06-02-2017 ผู้เช้าชม 3,207