สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเสด็จประพาสทางชลมารคเพื่อตรวจสภาพคลองแสนแสบและเยี่ยมประชาชนสองฝั่งคลองจากกรุงเทพมหานครถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทางกว่า 72 กิโลเมตร โดยคำกราบบังคมทูลเชิญของชมรมรวมใจภักดิ์รักต้นไม้ แม่น้ำ ลำคลองและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวขององค์กรและบุคคล ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมพัฒนาคลองแสนแสบ เพื่อเป็นตัวอย่างของย้อนกลับมาให้ความสำคัญแก่แม่น้ำ ลำคลองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งยังความปราบปลื้มปีติแก่พสกนิกรตลอดเส้นทางอย่างถ้วนหน้า
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2537 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2544 เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดให้ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี เป็นวัน “วันอนุรักษ์และพัฒนาแม่น้ำ คู คลอง แห่งชาติ” ทั้งนี้เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ ซึ่งเป็นผลให้องค์กรและบุคคลได้ย้อนกลับมาให้ความสำคัญแก่แม่น้ำ คู คลอง อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการสร้างสรรค์และสนับสนุนให้สภาพชุมชนริมฝั่งแม่น้ำ คู คลอง มีความสะอาดสวยงามเพราะวิถีชีวิตชุมชนในชนบทมีความผูกพันและอยู่อาศัยใกล้ชิดกับแม่น้ำ คู คลอง โดยการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มักจะตั้งอยู่ตามแหล่งน้ำและได้ใช้ประโยชน์มากมายทั้งในด้านคมนาคมขนส่ง การอุปโภคบริโภค การเป็นที่รองรับหรือระบายน้ำฝนและน้ำเสีย เป็นแหล่งผลิตอาหารจากพืชและสัตว์น้ำแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม ตลอดจนเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้แม่น้ำ คู คลอง ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตที่สร้างสมสืบต่อกันมาแต่โบราณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนนั้นๆ ซึ่งมีคุณค่าอย่างยิ่ง แต่สถานการณ์ปัจจุบันบทบาทของแม่น้ำ ลำคลองได้ลดความสำคัญลงไป เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในการเป็นอยู่ทำให้มีการใช้ประโยชน์แม่น้ำลำคลองลดน้อยลง นอกกจากนี้ยังมีการบุกรุกและการถมคลองเพราะเห็นว่าคลองเป็นเพียงที่รองรับน้ำทิ้งเท่านั้น
Your privacy is important to us. We need your data just for the important process of services. Please allow if you accept the term of privacy comply with PDPA Read term and privacy policy Allow