Kamphaeng Phet Rajabhat University

เขตข้อมูล รายการ
ฐานข้อมูล

วิทยานิพนธ์/Thesis

เลขทะเบียน

20241001103027

ชื่อเรื่อง

แนวทางพัฒนาการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1

ชื่อเรื่องรอง

Guideline Development of Performance According to Basic Educational Standards on Administrative and Management Processes of Schools under the Phichit Primary Educational Service Area Office 1

ผู้แต่ง

พิบูลย์ เชิงหลำ

ปี

2567

หัวเรื่อง

แนวทางพัฒนาการปฏิบัติงาน

การศึกษาขั้นพื้นฐาน

มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน

กระบวนการบริหารและการจัดการ

สถานที่พิมพ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

รายละเอียด

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพและปัญหาการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ (2) เปรียบเทียบสภาพการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการ และ (3) เพื่อหาแนวทางการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านกระบวนการบริหารและการจัดการของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครู จำนวน 285 คน ได้มาโดยการเปิดตารางของเคร็จซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) และการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ หาค่าเฉลี่ย (X) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การแจกแจงความถี่ (f) ร้อยละ (

) จัดอันดับ และการหาค่าความแปรปรวนทางเดียว
ผลการวิจัยพบว่า (1) สภาพการปฏิบัติงาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ประเด็นที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ ปัญหาที่พบคือ ประเด็นจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารและการจัดการศึกษา พบว่าคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงไม่เพียงพอ (2) ผลการเปรียบเทียบสภาพการปฏิบัติงาน จำแนกตามประสบการณ์การทำงานและขนาดของสถานศึกษา พบว่า โดยรวมมีความแตกต่างกัน ยกเว้น ประเด็นจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารและการจัดการเรียนรู้ (3) แนวทางพัฒนาการปฏิบัติงาน พบว่า ผู้บริหารควรศึกษาชุมชน ท้องถิ่นและจัดการศึกษาตามสภาพบริบทของสถานศึกษา ควรนำผลการประเมินคุณภาพการศึกษาไปใช้พัฒนาในปีต่อไป ควรสำรวจความถนัด ความสนใจและเชิญวิทยากร ที่มีความรู้ในด้านนั้นๆ มาให้ความรู้กับผู้เรียน สร้างแรงจูงใจและตั้งเป้าหมายในการปฏิบัติงาน ควรส่งเสริมให้บุคลากรที่รับผิดชอบหรือมีความสนใจได้ศึกษาต่อหรือเข้าอบรมความรู้ด้านจิตวิทยา และควรจัดตั้งแผนกหรือฝ่ายในการเก็บข้อมูลสารสนเทศให้ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน

ไฟล์เอกสาร ที่ 1

T68-22.pdf