Kamphaeng Phet Rajabhat University

เขตข้อมูล รายการ
ฐานข้อมูล

งานวิจัย/Research report

เลขทะเบียน

20190906144137

ชื่อเรื่อง

การวิเคราะห์ส่วนประสมทางด้านการตลาดของกล้วยไข่ จังหวัดกำแพงเพชร

ผู้แต่ง

เพชรา บุดสีทา

ปี

2544

หัวเรื่อง

กล้วยไข่ - การกำหนดราคา

สถานที่พิมพ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

รายละเอียด

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความรู้เกี่ยวกับผลผลิตและการตลาดของเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ และเพื่อศึกษาส่วนประสมทางการตลาด คือ ผลิตผลกล้วยไข่ การกำหนดราคากล้วยไข่ การจัดจำหน่ายกล้วยไข่ และการส่งเสริมการตลาดกล้วยไข่ ที่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่กำหนดขึ้น ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็น ได้แก่ เกษตรกรผู้ที่อยู่ในทะเบียนชมรมเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ ของสำนักงานเกษตร จังหวัดกำแพงเพชร ปี พ.ศ.2541 จำนวน 329 ราย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นการสุ่มตัวอย่างจากเกษตรกร ผู้ที่อยู่ในทะเบียนชมรมเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรทั้งหมด 329 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ การแจกแจกความถี่ การหาค่าร้อยละ การหาค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพพื้นฐานทางประชากร เศรษฐกิจและสังคมเกษตรกรที่ทำการศึกษาเป็นเพศชายมากที่สุดร้อยละ 69.6 มีอายุเฉลี่ย 45 ปี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มากที่สุร้อยละ 69 มีสมาชิกในครอบครัวเฉลี่ยครอบครัวละ 4 คน แต่เป็นแรงงานเกษตรเฉลี่ยครอบครัวละ 3 คน จึงมีการจ้างแรงงานในการผลิตร้อยละ 73.5 สำหรับการปลูกกล้วยไข่นั้น เกษตรกรปลูกกล้วยไข่เป็นอาชีพหลักร้อยละ 93.9 โดยมีพื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 14 ไร่ โดยใช้ที่ดินของรตนเอง ทำการปลูกมากที่สุดต่ำกว่า 5 ไร่ ร้อยละ 29.3 และได้เช่าที่ดินเพื่อปลูกกล้วยไข่เฉลี่ย 5 ไร่ต่อครอบครัว การเป็นสมาชิกกลุ่มเกษตรกรนอกจากการเป็นสมาชิกชมรมเกษตรผู้ปลูกกล้วยไข่แล้วยังเป็นสมาชิกกลุ่มของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรร้อยละ 74.6 2. ความรู้เกี่ยวกับผลิตและการตลาดกล้วยไข่ของเกษตรกร โดยการตอบคำถามที่เกี่ยวกับความรู้ดังกล่าว พบว่าเกษตรกรได้คะแนนน้อยที่สุด 7 คะแนน และมากที่สุด 19 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน คะแนนเฉลี่ยของเกษตรกรที่ทำการศึกษาเท่ากับ 12 คะแนน สำหรับสภาพการผลิตกล้วยไข่ของเกษตรกร พบว่าเกษตรกรใช้หน่อพันธุ์สำหรับปลูกเป็นหน่อใบแคบมากที่สุด ร้อยละ 50.8 มีการเตรียมดินและตากดินไว้เพื่อกำจัดศัตรูพืช ร้อยละ 70.2 ใส่ปุ๋ยคอกรองก้นหลุมก่อนปลูกกล้วยไข่ ร้อยละ 65.2 มีการพูนโคนให้กับกอกกล้วยเพื่อทำให้รากกล้วยยึดเกาะดินได้ดี ร้อยละ 69.6 การกำจัดวัชพืชเกษตรกรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก รวมทั้งปุ๋ยเคมีที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของกล้วยไข่ ร้อยละ 71.3 ในการเก็บเกี่ยวกล้วยไข่ใช้วิธีดูเหลี่ยมผลกล้วยร้อยละ 69.1 สำหรับพื้นที่การปลูกกล้วยไข่ เกษตรกรมีพื้นที่ปลูกน้อยที่สุด 2 ไร่ มากที่สุด 50 ไร่ ซึ่งเป็นสวนกล้วยใหม่ของเกษตรกร ร้อยละ 66.29 และมีสวนกล้วยเก่าเพียงร้อยละ 33.71 แหล่งเงินทุนของเกษตรกรนั้นปรากฏว่ากู้ยืมถึง ร้อยละ 79.01 โดยกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ร้อยละ 73.48 กู้ยืมจากพ่อค้าร้อยละ 2.77 กู้ยืมจากญาติพี่น้องร้อยละ 2.20 และกู้ยืมจากสหกรณ์เพื่อการเกษตรร้อยละ 0.55 สำหรับแหล่งความรู้ทางด้านการผลิตกล้วยไข่ของเกษตรกรประเภทบุคคล มากที่สุดคือ ศึกษาด้วยตนเอง ร้อยละ 83.4 รองลงมาคือเพื่อนบ้านร้อยละ 75.7 และเจ้าหน้าที่การเกษตรเพียง ร้อยละ 8.8 และแหล่งความรู้ประเภทสื่อมวลชนด้านการผลิตกล้วยไข่มีเพียงร้อยละ 40.9 คือจากโทรทัศน์ ร้อยละ 27.6 จากวิทยุ ร้อยละ 12.7 และหนังสือพิมพ์ ร้อยละ 9.4 ตามลำดับ 3. การกำหนดส่วนประสมการตลาดกล้วยไข่ของเกษตรกร พบว่า การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวของเกษตรกรมีการคัดเกรดกล้วยไข่ร้อยละ 85.08 ราคาจำหน่ายผลผลิตกล้วยไข่อยู่ในช่วง 40-69 บาทต่อตั้งมากที่สุดร้อยละ 70.2 รองลงมา 10-39 บาทต่อครั้ง ร้อยละ 11.6 ราคาจำหน่ายเฉลี่ย 43 บาทต่อตั้ง และเกษตรกรได้รับกำไรจากการจำหน่ายกล้วยไข่ในช่วง 10-19 บาทต่อตั้งมากที่สุดร้อยละ 71.8 รองลงมาต่ำกว่า 10 บาทต่อตั้งร้อยละ 14.4 ทั้งนี้เกษตรกรได้รับกำไรโดยเฉลี่ย 15 บาทต่อตั้ง วิธีการจำหน่ายกล้วยไข่โดยพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่มากที่สุดร้อยละ 89.0 รองลงมาเป็นนายหน้ามาติดต่อร้อยละ 28.7 ประเภทของพ่อค้าที่มารับซื้อเป็นพ่อค้าในตลาดกรุงเทพฯมากที่สุดร้อยละ 50.3 รองลงมาเป็นพ่อค้าในเมือง ร้อยละ 26.5 เกษตรกรจะพิจารณาผู้ซื้อที่เป็นพ่อค้าที่ขายให้เป็นประจำก่อนมากที่สุดร้อยละ 86.7 รองลงมาขายให้พ่อค้าที่ให้ราคาสูงร้อยละ 54.7 สำหรับแหล่งความรู้ด้านการตลาดประเภทบุคคลมากที่สุด คือ ศึกษาด้วยตนเองร้อยละ 60.2 จากเจ้าหน้าที่การเกษตร เพื่อนบ้าน และพนักงานร้านค้าเคมีเกษตร 51.4, 48.1 และ 7.2 ตามลำดับ และแหล่งความรู้ประเภทสื่อมวลชนด้านการตลาดสว่นมากไม่ได้รับความรู้ด้านตลาด ร้อยละ 61.3 ในส่วนที่ได้รับความรู้ด้านการตลาดได้จากสื่อโทรทัศน์ร้อยละ 27.1 สภาพปัญหาทางด้านการตลาดที่เกษตรกรพบมากที่สุด คือ พ่อค้คนกลางกดราคาร้อยละ 78.5 กล้วยไข่ล้นตลาดแข่งขันกับผลไม้อื่นๆ การตัดราคากันระหว่างผู้จำหน่ายกล้วยไข่ ปัญหาด้านคุณภาพและขนาดของกล้วย ร้อยละ 64.1, 61.3,57.5 และ 23.2 ตามลำดับ

ไฟล์เอกสาร ที่ 1

01.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 2

02.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 3

03.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 4

04.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 5

05.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 6

06.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 7

07.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 8

08.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 9

09.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 10

10.pdf