Kamphaeng Phet Rajabhat University

เขตข้อมูล รายการ
ฐานข้อมูล

บทความ/Article

เลขทะเบียน

20191118111021

ชื่อเรื่อง

แนวทางการพัฒนาการเข้าถึงบริการสุขภาพสาธารณสุขมูลฐาน ของกลุ่มประชากรข้ามชาติ สัญชาติเมียนมา ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

ชื่อเรื่องรอง

Guidelines for the Development of Access to Health Services in Primary Health Care of Myanmar Migrants in Mae Sot District, Tak Province by World Vision Foundation of Thailand

ผู้แต่ง

ณัฐภาณี บัวดี

อดิเรก ฟั่นเขียว

ปี

2561

หัวเรื่อง

บริการสุขภาพ

สาธารณสุขมูลฐาน

ประชากรข้ามชาติ

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย

สถานที่พิมพ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

รายละเอียด

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) การเข้าถึงบริการสุขภาพสาธารณสุขมูลฐาน 2) ปัจจัยสนับสนุนและปัจจัยขัดขวาง และ 3) แนวทางการพัฒนาการเข้าถึงบริการสุขภาพสาธารณสุขมูลฐาน ในกลุ่มประชากรข้ามชาติสัญชาติเมียนมา ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ของมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย ศูนย์ประสานงานโครงการพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก วิธีดำเนินการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการ 1) การสนทนากลุ่ม จำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทยและเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 13 คน และ (2) กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขต่างชาติ (อสต.) และพนักงาน
สาธารณสุขต่างชาติ (พสต.) จำนวน 50 คน 2) การสัมภาษณ์ จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) ประชากรข้ามชาติสัญชาติเมียนมาที่ใช้บริการ จำนวน 60 คน (2) เจ้าหน้าที่โครงการ จำนวน 3 คน และ (3) เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 คน และ 3) การสัมมนาเชิงปฏิบัติการร่วมกัน ได้แก่ เจ้าหน้าที่โครงการ จำนวน 3 คน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 คน ผลการศึกษา พบว่า 1) การเข้าถึงบริการสุขภาพสาธารณสุขมูลฐานในกลุ่มประชากรข้ามชาติมีจำนวนน้อย เนื่องจาก (1) ประชากรข้ามชาติส่วนใหญ่อยู่นอกระบบ ไม่กล้าเข้าใช้บริการจากหน่วยงานไทย (2) ปัญหาความยากจน การให้ความสำคัญกับการเลี้ยงชีพมากกว่าการลงทะเบียนระบบประกันสุขภาพ (3) ข้อจำกัดของระบบประกันสุขภาพและระบบประกันสังคมไทย (4) ประชากรข้ามชาติไม่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพของหน่วยงานไทย (5) การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ 6) สถานที่ให้บริการมีจำนวนน้อย สำหรับ 2) ปัจจัยสนับสนุนและปัจจัยขัดขวาง พบว่า ปัจจัยสนับสนุนการเข้าถึงบริการ ประกอบด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ (1) การมีศูนย์สุขภาพชุมชน (2) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างชาติ และ (3) ภาคีเครือข่ายให้บริการสุขภาพ ปัจจัยขัดขวางการเข้าถึงบริการ ประกอบด้วย 4 ปัจจัย ได้แก่ (1) ปัญหาของกลุ่มประชากรข้ามชาติ (2) นโยบายประชากรข้ามชาติของประเทศไทย (3) ความแตกต่างทางด้านภาษาและวัฒนธรรม และ (4) การสนับสนุนการให้บริการที่ไม่ต่อเนื่อง การวิจัยนี้ได้เสนอ 3) แนวทางการพัฒนาการเข้าถึงบริการ ประกอบด้วย 6 แนวทาง ได้แก่ (1) การสร้างความเข้าใจและสนับสนุนการรวมกลุ่มให้กับประชากรข้ามชาติ (2) ขยายการให้บริการสาธารณสุขมูลฐานเพิ่มขึ้น (3) พัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านสาธารณสุข (อสต. และเจ้าหน้าที่รัฐ) (4) พัฒนานโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับประชากรข้ามชาติให้ชัดเจนและปฏิบัติอย่างจริงจัง (5) การสร้างและดำเนินงานเป็นภาคีเครือข่าย และ (6) มีกลไกการจัดการบริการสุขภาพสาธารณสุขมูลฐานที่มี
ประสิทธิภาพ

ไฟล์เอกสาร ที่ 1

20191118111021.pdf