Kamphaeng Phet Rajabhat University

เขตข้อมูล รายการ
ฐานข้อมูล

งานวิจัย/Research report

เลขทะเบียน

20190830102739

ชื่อเรื่อง

กระบวนการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของศูนย์หัตถกรรมผ้าปักชาวเขา ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังวหวัดกำแพงเพชร

ผู้แต่ง

โอกามา จ่าแกะ

จำเนียนน้อย สิงหะรักษ์

อิสสราพร อ่อนบุญ

วิยุดา ทิพย์วิเศษ

ธวชินี ลาลิน

สุธานี มะลิพันธ์

ปี

2258

หัวเรื่อง

หัตถกรรมผ้าปักชาวเขา

ภูมิปํญญาท้องถิ่น

ผ้าปักชาวเขา

การจัดการความรู้

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่

สถานที่พิมพ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

รายละเอียด

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาภูมิปัญญาท้องถิ่นของศูนย์หัตถกรรมผ้าปักชาวเขา รวมทั้งกระบวนการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของศูนย์หัตถกรรมผ้าปักชาวเขาโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ตาบลคลองลานพัฒนา อาเภอคลองลาน จังหวัดกาแพงเพชร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) มีผู้ให้ข้อมูล คือ สมาชิกกลุ่มปักผ้าชนเผ่าม้ง จานวน 15 คน และชนเผ่าเมี่ยน จานวน 15 คน รวมทั้งหมด จานวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก แบบการสนทนากลุ่ม ผลการศึกษา พบว่า ชนเผ่าม้งสร้างสรรค์ลายผ้าปักจากการเลียนแบบธรรมชาติรอบตัว คือ ดอกฝิ่น ดอกไม้ป่า เครือไม้ ก้อนหิน เสือ ช้าง หอย ปลา ด้วยวิธีการปักผ้าด้วยด้ายสลับสีเป็นลายไขว้ ปักทึบ เดินเส้น ลูกโซ่ และตัดผ้าปะเป็นลวดลายต่างๆ ส่วนชนเผ่าเมี่ยนปักผ้าลายเจ้าสาว ทั้งลายกางเกงแบบสั้นและแบบยาว และลายผ้าประยุกต์เพื่อนาชิ้นผ้าไปสร้างสรรค์ผลงานต่อไป ซึ่งองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นผ้าปักชาวเขามีความจาเป็นต่อวิถีชีวิตตั้งแต่เกิดถึงตาย การปักผ้าส่งศูนย์ศิลปาชีพถือว่าเป็นการถ่ายทอดความรู้จากผู้หญิงชนเผ่ารุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ส่วนกระบวนการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของศูนย์หัตถกรรมผ้าปักชาวเขา ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน คือ 1) การระบุความรู้ที่ต้องการ ตามความเชื่อของชนเผ่า เน้นคติด้านวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมที่มีอยู่ในท้องถิ่น ที่ชาวบ้านมุ่งอธิบายตามปรากฏการณ์และสร้างสรรค์ลายผ้าปักเลียนแบบธรรมชาติรอบตัว 2) การจัดหาความรู้ที่ต้องการ การรับความรู้มาจากบรรพบุรุษ การแสวงหาความรู้การปักผ้าจากสมาชิกในครัวเรือน ยาย มารดา เครือญาติ เรียนรู้ระหว่างยายมาสู่แม่ และจากแม่ไปสู่ลูกสาวด้วยวิธีการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง 3) การสร้างพัฒนาความรู้ใหม่ การถ่ายทอดความรู้จากบรรพบุรุษร่วมกันอย่างใกล้ชิด และการพัฒนาความรู้ที่มีในแต่ละบุคคลผนวกเข้ากับความรู้ในกลุ่มเครือญาติ มีการสร้างจากความเชื่อและความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และตามความต้องการของศูนย์ศิลปาชีพ 4) การถ่ายทอดความรู้ เป็นการถ่ายทอดความรู้ไม่ที่เป็นทางการตามธรรมชาติและไม่มีแบบแผนที่เป็นทางการ เกิดขึ้นจากการดาเนินชีวิตประจาวัน และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้หญิงชนเผ่า โดยอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์ของรุ่นเก่า ที่สืบทอดต่อๆ กันมาด้วยวิธีการบอกเล่าและการปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่าง และการฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง 5) การจัดเก็บความรู้ เก็บแบบลายผ้าปักหรือชิ้นผ้าเป็นความรู้ที่ฝั่งลึกอยู่ในตัวบุคคล (Tacit Knowledge) ใช้วิธีการจดจาของแต่ละบุคคล ยังไม่มีการจัดเก็บความรู้ที่เป็นระบบ และไม่ได้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร 6) การนาความรู้มาใช้ ได้พัฒนาลายผ้าปักส่งศูนย์ศิลปาชีพ สืบทอดภูมิปัญญาปักผ้าของชนเผ่า และนาความรู้ถ่ายทอดให้แก่เด็กและเยาวชนผ่านเอกสารเผยแพร่ผ้าปักชาวเขาสู่สถานศึกษาที่อยู่ในชุมชนท้องถิ่น

ไฟล์เอกสาร ที่ 1

01.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 2

02.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 3

03.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 4

04.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 5

05.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 6

06.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 7

07.pdf

ไฟล์เอกสาร ที่ 8

08.pdf