Kamphaeng Phet Rajabhat University

เขตข้อมูล รายการ
ฐานข้อมูล

งานวิจัย/Research report

เลขทะเบียน

20190917205339

ชื่อเรื่อง

สภาพการจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารของสถาบันราชภัฏ

ชื่อเรื่องรอง

Management Information System for Administration of Rajabhat Institutes.

ผู้แต่ง

ทวนทอง เชาวกีรติพงศ์

สมชัย วงษ์นายะ

ปี

2543

หัวเรื่อง

สถาบันอุดมศึกษา - การจัดระบบสารสนเทศ

สถานที่พิมพ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

รายละเอียด

https://tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php?option=show&browse_type=title&titleid=12907

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 4 ประการคือ 1) เพื่อศึกษาสภาพการจัดการสารสนเทศเพื่อการบริหาร 2) เพื่อศึกษาสภาพการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหาร 3) เพื่อศึกษาปัญหาการจัดสารสนเทศเพื่อการบริหารและ 4) เพื่อศึกษาแนวทางในการจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารในสถาบันราชภัฏ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ผู้บริหารในสถาบันราชภัฏทั้ง 36 แห่ง จำนวนประชากร 750 คน โดยสุ่มตัวอย่างมา 254 คน ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา จำนวน 234 ฉบับ 2) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาและผู้อำนวยการสำนักวางแผนและพัฒนา จำนวนประชากร 72 คน โดยใช้ประชากรทั้งหมด ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 42 ฉบับ 3) ผู้ปฏิบัติงานด้านสารนิเทศ จำนวนประชากร 240 คน โดยสุ่มตัวอย่างมา 148 คน ได้รับแบบสอบถามกลับคืนมา 135 ฉบับ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สำหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. สภาพการจัดสารสนเทศเพื่อการบริหาร 1.1 ผู้บริหารในสถาบันราชภัฏ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการจัดระบบสารสนเทศ เพื่อการบริหารดังนี้ มีการจัดห้องจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารแยกอยู่ตามหน่วยงานต่าง ๆ (ร้อยละ 44.4) ส่วนใหญ่ให้แต่ละหน่วยงานจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศที่ต้องการเอง (ร้อยละ 66.7) แหล่งที่สถาบันได้รับงบประมาณการจัดสารสนเทศ คือ ใช้งบประมาณบำรุงการศึกษา (ร้อยละ 40.0) ผู้บริหารนำข้อมูลและสารสนเทศไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจเพื่อการบริหารทั่ว ๆ ไป (ร้อยละ 23.2) ลักษณะของข้อมูลหรือสารสนเทศที่มีอยู่ในสถาบัน เป็นข้อมูลที่นำเสนอออกมาในรูปแบบที่แสดงให้เห็นลักษณะกลุ่มได้ชัดเจนในรูปตารางรวม ร้อยละ กราฟหรือแผนภูมิแบบต่าง ๆ (ร้อยละ 24.4) ส่วนใหญ่เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ในสื่อนำเข้า เช่น แผ่นดิสก์ แผ่นซีดี และประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ (ร้อยละ 50.0) ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการวางแผนด้านงบประมาณ การใช้จ่ายเงินของสถาบัน (ร้อยละ 14.2) และใช้ในการบริการของสำนักวิทยบริการ (ร้อยละ 14.2) ปัญหาในการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลและสารนิเทศประกอบการตัดสินใจ ได้แก่ ปัญหาเกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลการเรียน (ร้อยละ 16.7) 1.2 ผู้ปฏิบัติงานด้านสารสนเทศ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการจัดสารสนเทศเพื่อการบริหร ด้านการเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรักษาข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการนำเสนอข้อมูล ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับปานกลาง สำหรับรายการที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ได้แก่ มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยในกรประมวลผลข้อมูล ได้มีการปรับปรุงข้อมูลและสารสนเทศให้เป็นปัจจุบัน และมีการเก็บรักษาข้อมูลและสารสนเทศตามแบบที่ได้กำหนดไว้ 2. สภาพการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหาร ผู้บริหารในสถาบันราชภัฏมีความคิดเห็นว่า มีการใช้สารสนเทศเพื่อการบริหารในด้านต่าง ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง สำหรับข้อที่มีค่าเฉลี่ยในระดับมากมีเพียงรายการเดียว ได้แก่ ผู้บริหารตัดสินใจในการบริหารโดยใช้ข้อมูลและสารสนเทศ 3. ปัญหาการจัดสารสนเทศเพื่อการบริหาร ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติการด้านสารสนเทศ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาของการจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารส่วนอยู่ในระดับปานกลาง มีเพียงสองรายการที่อยู่ในระดับมาก สำหรับรายการที่เป็นปัญหาอยู่ในระดับมาก ได้แก่ ผู้ปฏิบัติงานมีภาระงานด้านอื่นมาก ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานด้านสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านข้อมูลและสารสนเทศมีไม่เพียงพอ 4. แนวทางการจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้ว พบว่า ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้านสารสนเทศ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการจัดระบบสารสนเทศส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก มีบางส่วนที่อยู่ในระดับปานกลาง สำหรับรายการที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ได้แก่ 1) มีการกำหนดนโยบายและวัตถุประสงค์ของการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศให้ชัดเจน 2) มีการกำหนดนโยบายและวัตถุประสงค์ของการใช้สารสนเทศให้ชัดเจน 3) จัดแบ่งเก็บรวบรวมข้อมูลตามชนิดของข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการสืบค้น 5) จัดให้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเฉพาะ สำหรับการจัดระบบสารสนเทศที่จำเป็นต่อการบริหาร 6) กำหนดชนิดของสารสนเทศให้ชัดเจนและเป็นระบบเดียวกันทั้งสถาบัน 7) กำหนดช่วงเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยและถูกต้องเสมอ 8) หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดระบบสารสนเทศ เก็บรวบรวมข้อมูลทุกชนิดที่สามารถรวบรวมได้เพื่อประโยชน์ในการใช้ 9) หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการจัดระบบของข้อมูลและสารสนเทศเอง 10) แต่ละหน่วยงานจำแนกข้อมูลเองเนื่องจากการใช้ข้อมูลแต่ละหน่วยงานอาจไม่เหมือนกัน 11) กำหนดคำจำกัดความชนิดของสารสนเทศเป็นลายลักษณ์อักษรให้ตรงกันทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ใช้ และ 12) สำรวจความต้องการใช้ข้อมูลและสารสนเทศจากผู้ใช้ก่อนทำการเก็บรวบรวมข้อมูล