ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้ชม 17

[16.1562501, 99.9388161, ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม]

ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

มูลเหตุการจัดงาน
       คำว่า บุญผะเหวด นั้น ออกเสียงตามภาษาอีสาน มาจากคำว่า บุญพระเวสสันดร หรือ บุญมหาชาตินั่นเอง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชาวไทยอีสานและชาวไทยล้านช้าง (ลาวครั่ง ลาวเวียง)อพยพมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ตามประวัติศาสตร์ได้บันทึกว่าสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกได้กวาดต้อนชาวลาวตั้งถิ่นฐานที่คลองสวนหมาก แต่หลักฐานที่เด่นชัดคือ เหตุการณ์ประพาสต้นเมืองแพงเพชร ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ที่พระองค์ทรงพบชาวลาวผมแดง ที่บ้านแสนตอ อ.ขาณุวรลักษบุรีนับเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่เป็นหลักฐานยืนยันว่า จังหวัดกำแพงเพชรมีชาวชาติพันธ์ล้านช้างอาศัยอยู่มาหลายร้อยปีแล้วนับตั้งแต่อดีตปัจจุบันชาวชาติพันธ์ล้านช้างเหล่านั้นได้แพร่กระจายไปทั่วจังหวัดกำแพงเพชร อาจกล่าวได้ว่าทุก ๆ อำเภอของจังหวัดกำแพงเพชรล้วนแต่มีชาวไทยชาติพันธ์ล้านช้างอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้คนยังมีภาษาพูดประเพณีวัฒนธรรมความเป็นชาวล้านช้างอยู่เต็มเปี่ยม แต่เนื่องด้วยระยะเวลาที่ยาวนานของการอพยพถิ่นฐาน ทำให้จารีตประเพณีฮีต 12 คอง 14 เริ่มเลือนหายไปจากล้านช้างจังหวัดกำแพงเพชร ยังคงมีให้เห็นเฉพาะบุญบั้งไฟในบางพื้นที่เท่านั้น
      ด้วยพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ตรัสว่า “การรักษาวัฒนธรรมคือการรักษาชาติ” พระมหาอภิชาติกิตฺติวรญฺญูเจ้าอาวาสวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม จึงได้ริเริ่มฟื้นฟูประเพณีฟังเทศน์มหาชาติขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา เพื่อรวมจิตใจชาวไทยล้านช้างจังหวัดกำแพงเพชรรวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียงให้เป็นหนึ่งเดียวจนเป็นที่รู้จักในแถบลุ่มแม่น้ำปิงว่า นอกจากภาคอีสานแล้ว นี่คืองานบุญมหาชาติหรือบุญผะเหวดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ งดงามและยิ่งใหญ่ตามจารีตประเพณีเพื่อให้สมกับค าว่า บุญผะเหวดคือบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาบุญ 12 เดือนของชาวล้านช้าง และยิ่งมีเพียงหนึ่งเดียวของภาคเหนือด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวสนใจมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน

ลำดับขั้นตอนและพิธีกรรม
       บุญผะเหวดวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม บ้านทุ่งสนุ่น กำนหนดจัดงานในสัปดาห์ที่ 1 หรือที่ 2 ในเดือนมีนาคมของทุกปีโดยบุญผะเหวดของที่นี่ได้รวมเอาบุญกุ้มข้าวใหญ่ หรือบุญสู่ขวัญข้าวไว้ด้วย จึงใช้ระยะเวลา 5 วัน ในการจัดงานดังมีรายละเอียดดังนี้
       ก่อนจะถึงงานบุญ 1 เดือน ชาวบ้านต้องออกไปช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อนำมาสร้างพระธาตุรวงข้าว หรือเจดีย์ข้าวเปลือกให้แล้วเสร็จก่อนงาน ใช้เวลาทำประมาณ 1 เดือน เมื่อใกล้ถึ งวันงานพุทธศาสนิกชนมาช่วยกันจัดตกแต่งศาลาหรือสถานที่ที่จะทำบุญ จัดเตรียมเครื่องสักการะ ดอกไม้ธูปเทียน ข้าวตอก อย่างละพันก้อน มีการตั้งธงใหญ่ ไว้แปดทิศ และมีศาลเล็ก ๆ เป็นที่เก็บข้าวพันก้อน และเครื่องคาวหวาน สำหรับผีเปรต และมารรอบ ๆ ศาลาการเปรียญจะแขวนผ้าผะเหวด เป็นเรื่องราวของพระเวสสันดร ตั้งแต่กัณฑ์ที่ 1 ถึงกัณฑ์สุดท้าย
       2 วันแรกของงาน มีกิจกรรมการปฏิบัติธรรม ถือศีล ภาวนา ฟังพระธรรมเทศนา ไปตลอดทั้งวัน
       เข้าสู่วันที่ 3 ของการจัดงาน จะมีพิธีอัญเชิญพระอุปคุต มาปกป้องคุ้มครองมิให้เกิดเหตุเภทภัยอันตรายทั้งปวง ซึ่งสมมุติว่า อัญเชิญมาจากสะดือทะเล เพื่อมาปกป้องงานบุญนี้ให้ปราศจากอุปสรรคอันตราย เหมือนดังที่พระเจ้าอโศกมหาราชเคยได้นิมนต์ท่านมาพิทักษ์รักษางานฉลองพระเจดีย์ 84,000 แห่งทั่วทั้งชมพูทวีป เมื่อนำพระอุปคุตมายังสถานที่แล้วก็ตกแต่งสร้างหอพระอุปคุตไว้ในงาน จัดสำรับภัตตาหารไว้ทุกเช้า จนกว่าจะเสร็จงาน
       เมื่อถึงวันที่ 4 ของการจัดงาน ซึ่งเป็นวันที่เป็น highlight ของการจัดงาน ช่วงเช้าจะมีการฟังพระธรรมเทศนา “นิทานนางโภสพ” เพื่อเฉลิมฉลองกองข้าวใหญ่ (กุ้มข้าวใหญ่) จากนั้นประกอบพิธีสู่ขวัญข้าว แจกจ่ายพันธุ์ข้าวเป็นที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมงาน ต่อด้วยการออกร้านโรงทานมากกว่า 100 โรงทาน แจกจ่ายข้าวปลาอาหารเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้เข้าร่วมงาน         
       เมื่อถึงเวลา 13.00 น. เข้าสู่พิธีฟังเทศน์มหาเวสสันดรชาดกแบบแหล่ไทยภาคกลางจากพระนักเทศน์ชื่อดังระดับประเทศหมุนเวียนมาแสดงธรรมให้ฟังกันทุกปีเสร็จแล้ว เวลา 16.00 น. จะเป็นพิธีแห่พระเวสสันดร ตกแต่งด้วยริ้วขบวนแห่โดยชาวล้านช้างในลุ่มน้ำปิงในแต่ละอำเภอแต่ละจังหวัด จะมาฟ้อนรำช่วยกันแห่พระเวสสันดร ซึ่งนี่คือขบวนแห่พระเวสสันดรที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดของภาคเหนือเลยทีเดียว
       เข้าสู่วันที่ 5 ของการจัดงาน เริ่มตั้งแต่เวลา 14.30 ประชาชนผู้เฒ่าผู้แก่จะตกแต่ง ข้าวพันก้อนบูชาตามเสาธงพระเวสสันดร ที่ปักรายล้อมบริเวณพิธี “ ข้าวพันก้อน ” หมายถึง ข้าวเหนียวทำเป็นก้อนเล็ก ๆ เพื่อบูชากันณฑ์เทศน์ นอกจากนี้ยังมีธงทิวอีก 1,000 ผืน ซึ่งมีจุดประสงค์ให้ครบ 1,000 คาถาเหมือน จากนั้น เวลา 15.30 น. เข้าสู่พิธีเทศน์สังกาช เทศน์สังกาช ก็คือการเทศน์บอกศักราช นับวันเดือนปีที่จะแสดงมหาเวสสันดรชาดก เมื่อถึงเวลาประมาณ 09.00 น.จึงจะเริ่มพิธีฟังเทศน์มหาชาติแบบภาคอีสาน หรือแหล่อีสาน 3 ธรรมาสน์โดยใช้เวลาเทศน์ตลอดทั้งวัน เมื่อถึงเวลา 21.00 น. เป็นพิธีปิดงาน เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของการจัดงาน ประชาชนผู้คนจะหลั่งไหลกันเข้ามาในงานเพื่อมาชมมหรสพสมโภชปิดงานคืนสุดท้ายด้วยหมอล าวงใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาเฉลิมฉลองทุกปีเริ่มแสดงตั้งแต่ 3 ทุ่มจนถึง 6 โมงเช้าของอีกวัน โดยวันรุ่งขึ้นจึงจะมีการอัญเชิญพระอุปคุตกลับสู่มหาสมุทร ถือว่าเสร็จสิ้นงานบุญผะเหวดโดยสมบูรณ์

คำสำคัญ : ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

ที่มา : https://kamphaengphet.m-culture.go.th/th/personnel

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2568). ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม. สืบค้น 9 กรกฎาคม 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=2342&code_db=610004&code_type=06

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=2342&code_db=610004&code_type=06

Google search

Mic

ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

ประเพณีบุญผะเหวดเทศน์มหาชาติ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

บุญผะเหวด วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม บ้านทุ่งสนุ่น กำหนดจัดงานในสัปดาห์ที่ 1 หรือที่ 2 ในเดือนมีนาคมของทุกปี โดยบุญผะเหวดของที่นี่ได้รวมเอาบุญกุ้มข้าวใหญ่ หรือบุญสู่ขวัญข้าวไว้ด้วย จึงใช้ระยะเวลา 5 วัน โดยก่อนจะถึงงานบุญ 1 เดือน ชาวบ้านต้องออกไปช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อนำมา สร้างพระธาตุรวงข้าว หรือเจดีย์ข้าวเปลือกให้แล้วเสร็จก่อนงาน เมื่อใกล้ถึงวันงานพุทธศาสนิกชนมาช่วยกันจัดตกแต่งศาลาหรือสถานที่ที่จะทำบุญ จัดเตรียมเครื่องสักการะ ดอกไม้ธูปเทียน ข้าวตอกอย่างละพันก้อน มีการตั้งธงใหญ่ไว้แปดทิศ และมีศาลเล็ก ๆ เป็นที่เก็บข้าวพันก้อน และเครื่องคาวหวาน สำหรับผีเปรต และมารรอบๆ ศาลาการเปรียญจะแขวนผ้าผะเหวด เป็นเรื่องราวของพระเวสสันดร ตั้งแต่กัณฑ์ที่ 1 ถึงกัณฑ์สุดท้าย

เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้เช้าชม 17

บุญบวชนาคหมู่ บุญบั้งไฟ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

บุญบวชนาคหมู่ บุญบั้งไฟ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

เนื่องในเป็นจารีตประจำเดือนหก ก่อนที่จะมีการเพาะปลูก ชาวบ้านจะประกอบพิธีทำบุญกลางบ้าน หรือ บุญชำฮะ พร้อมกับมีการจุดบั้งไฟเพื่อขอฝน สำหรับวัดทุ่งสนุ่นจึงได้จัดให้มีการบวชนาคหมู่ขึ้นในห้วงเวลาเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อเรื่องนาคให้น้ำ และเพื่อให้การจัดประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งแต่เดิมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพระพุทธศาสนาเท่าใดนัก ให้มีความเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนามากขึ้น

เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้เช้าชม 24

การเข้าทรงนางด้งของลาวคั่ง

การเข้าทรงนางด้งของลาวคั่ง

ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นสิ่งที่สั่งสมมาช้านาน ถึงการนำอุดมการณ์แห่งความรัก ความสามัคคี ความอบอุ่น ความเข้าใจ และการอยู่ร่วมกัน ในกลุ่มชนอย่างผาสุก มาใช้ได้อย่างเหมาะสม แนบเนียน ในชีวิตประจำวัน ทำให้สังคมไทยอยู่อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในชีวิตความเป็นอยู่ที่สมถะ เรียบง่าย และไม่เน้นกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ยืดหยุ่น รักสงบ มีความสุขในการทำกิจกรรมร่วมกัน

เผยแพร่เมื่อ 14-02-2018 ผู้เช้าชม 1,831

นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม

นาบุญ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 11 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา ตั้งอยู่ห่างจากวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อประมาณ พ.ศ.2488 ชาวไทยเชื้อสายลาวเวียงจันทน์ และลาวครั่งหลวงพระบาง ได้อพยพจากจังหวัดราชบุรี และนครปฐม มาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ได้ถือเอาต้นสนุ่นที่เกิดขึ้นเต็มทุ่งกว้างแห่งนี้ ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านของตนเองว่า “บ้านทุ่งสนุ่น” ส่วนพื้นที่แห่งนี้ก็ใช้เป็นป่าช้าของหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านได้สร้างวัดทุ่งสนุ่นรัตนารามขึ้น สาเหตุที่เรียกว่า นาบุญ เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่ของการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้มาจากจิตศรัทธาการบริจาคของชาวบ้านทั้งสิ้น ดังนั้น นาบุญ คือ นาที่เอาไว้ทำบุญ เกิดขึ้นได้ด้วยบุญเพื่อเป็นแหล่งเพาะปลูกความสุขให้ชุมชนตราบนานเท่านาน ส่วนสะพานบุญโญรสนี้ แปลว่าสะพานของลูกผู้มีบุญ นั่นเอง

เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้เช้าชม 18