นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม
เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้ชม 18
[16.1562501, 99.9388161, นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม]
นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม
นาบุญ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 11 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา ตั้งอยู่ห่างจากวัดทุ่งสนุ่นรัตนารามประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อประมาณ พ.ศ.2488 ชาวไทยเชื้อสายลาวเวียงจันทน์ และลาวครั่งหลวงพระบางได้อพยพจากจังหวัดราชบุรีและนครปฐม มาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ได้ถือเอาต้นสนุ่นที่เกิดขึ้นเต็มทุ่งกว้างแห่งนี้ ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านของตนเองว่า “บ้านทุ่งสนุ่น” ส่วนพื้นที่แห่งนี้ก็ใช้เป็นป่าช้าของหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านได้สร้างวัดทุ่งสนุ่นรัตนารามขึ้น จึงกลายเป็นที่รกร้างมาอย่างยาวนาน เมื่อ พ.ศ.2535 พระครูสุนทรวชิโรภาส (เดือน สมิงฺคิโก) เจ้าอาวาสวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม และ นายบุญปลูก โกมลสินธ์ กำนันตำบลระหานในขณะนั้น พร้อมด้วยชาวบ้านทุ่งสนุ่นจึงได้ทำการล้างป่าช้า ปรับพื้นที่ให้กลายเป็นทุ่งนาและได้ให้ชาวบ้านเช่าทำนาเกือบ 30 ปีจนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 พระบาทสมเด็จพระปริมนทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต คณะศรัทธาวัดทุ่งสนุ่นรัตนารามได้ประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมถวายเป็นพระราชกุศลทุกคืน เป็นเวลา 30 วัน แต่ละคืนมีประชาชนร่วมบริจาคปัจจัยสมทบเป็นค่าน้ำค่าไฟถวายวัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 102,651 บาท (หนึ่งแสนสองพันหกร้อยห้าสิบเอ็ดบาทถ้วน)
พระมหาอภิชาติ กิตฺติวรญฺญู เจ้าอาวาสวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม รูปปัจจุบัน ดำริว่าควรนำเงินทั้งหมดนี้ไปทำประโยชน์ให้ยั่งยืนกว่าเอาไปจ่ายค่าไฟของวัด จึงทำประชาคมหมู่บ้านขอคืนพื้นที่ป่าช้าเก่าของวัด และน าเงินส่วนนั้นมาปรับปรุงพัฒนาที่ดิน เช่น ขุดสระ ตัดถนน สร้างห้องน้ำ ปลูกต้นไม้ สร้างศาลาฯลฯ เพื่อสร้างเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี ทั้งเป็นศูนย์รวมใจของชาวนาบ้านทุ่งสนุ่นทั้ง 6 หมู่บ้าน ได้ใช้ท ากิจกรรมร่วมกันตามแนวทาง “รู้รักสามัคคี” โดยจัดการพื้นที่ตามเกษตรทฤษฎีใหม่ศาสตร์พระราชา “โคก หนอง นา โมเดล” ที่สำคัญคือ ชาวบ้านและพระภิกษุสามเณรวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม รุ่น พ.ศ. 2561 ยังอุทิศตนสร้างสร้าง “สะพานบุญโญรส” มีความยาวทั้งสิ้น 536 เมตร เพื่อเป็นสะพานเดินจงกรม สถานที่ปฏิบัติธรรม ของพระภิกษุ สามเณรที่บวชในโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน และโครงการอุปสมบทหมู่ภาคฤดูฝน ซึ่งทางวัดได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จนกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนในที่สุด
สาเหตุที่เรียกว่า นาบุญ เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่ของการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้มาจากจิตศรัทธาการบริจาคของชาวบ้านทั้งสิ้น ดังนั้น นาบุญ คือ นาที่เอาไว้ทำบุญ เกิดขึ้นได้ด้วยบุญเพื่อเป็นแหล่งเพาะปลูกความสุขให้ชุมชนตราบนานเท่านาน ส่วนสะพานบุญโญรสนี้ แปลว่าสะพานของลูกผู้มีบุญ นั่นเอง
บุญกุศลใด ๆ ที่เกิดจากพื้นที่นาบุญแห่งนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และจงเป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานแก่ปวงข้าวพระพุทธเจ้าด้วยเทอญ
คำสำคัญ : นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม
ที่มา : https://kamphaengphet.m-culture.go.th/th/personnel
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2568). นาบุญ วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม. สืบค้น 9 กรกฎาคม 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=2340&code_db=610004&code_type=06
Google search
เนื่องในเป็นจารีตประจำเดือนหก ก่อนที่จะมีการเพาะปลูก ชาวบ้านจะประกอบพิธีทำบุญกลางบ้าน หรือ บุญชำฮะ พร้อมกับมีการจุดบั้งไฟเพื่อขอฝน สำหรับวัดทุ่งสนุ่นจึงได้จัดให้มีการบวชนาคหมู่ขึ้นในห้วงเวลาเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับความเชื่อเรื่องนาคให้น้ำ และเพื่อให้การจัดประเพณีบุญบั้งไฟ ซึ่งแต่เดิมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพระพุทธศาสนาเท่าใดนัก ให้มีความเชื่อมโยงกับพระพุทธศาสนามากขึ้น
เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้เช้าชม 23
นาบุญ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 11 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา ตั้งอยู่ห่างจากวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อประมาณ พ.ศ.2488 ชาวไทยเชื้อสายลาวเวียงจันทน์ และลาวครั่งหลวงพระบาง ได้อพยพจากจังหวัดราชบุรี และนครปฐม มาตั้งถิ่นฐานที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร ได้ถือเอาต้นสนุ่นที่เกิดขึ้นเต็มทุ่งกว้างแห่งนี้ ตั้งเป็นชื่อหมู่บ้านของตนเองว่า “บ้านทุ่งสนุ่น” ส่วนพื้นที่แห่งนี้ก็ใช้เป็นป่าช้าของหมู่บ้าน เมื่อชาวบ้านได้สร้างวัดทุ่งสนุ่นรัตนารามขึ้น สาเหตุที่เรียกว่า นาบุญ เนื่องจากงบประมาณส่วนใหญ่ของการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้มาจากจิตศรัทธาการบริจาคของชาวบ้านทั้งสิ้น ดังนั้น นาบุญ คือ นาที่เอาไว้ทำบุญ เกิดขึ้นได้ด้วยบุญเพื่อเป็นแหล่งเพาะปลูกความสุขให้ชุมชนตราบนานเท่านาน ส่วนสะพานบุญโญรสนี้ แปลว่าสะพานของลูกผู้มีบุญ นั่นเอง
เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้เช้าชม 18
ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นสิ่งที่สั่งสมมาช้านาน ถึงการนำอุดมการณ์แห่งความรัก ความสามัคคี ความอบอุ่น ความเข้าใจ และการอยู่ร่วมกัน ในกลุ่มชนอย่างผาสุก มาใช้ได้อย่างเหมาะสม แนบเนียน ในชีวิตประจำวัน ทำให้สังคมไทยอยู่อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในชีวิตความเป็นอยู่ที่สมถะ เรียบง่าย และไม่เน้นกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ยืดหยุ่น รักสงบ มีความสุขในการทำกิจกรรมร่วมกัน
เผยแพร่เมื่อ 14-02-2018 ผู้เช้าชม 1,831
บุญผะเหวด วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม บ้านทุ่งสนุ่น กำหนดจัดงานในสัปดาห์ที่ 1 หรือที่ 2 ในเดือนมีนาคมของทุกปี โดยบุญผะเหวดของที่นี่ได้รวมเอาบุญกุ้มข้าวใหญ่ หรือบุญสู่ขวัญข้าวไว้ด้วย จึงใช้ระยะเวลา 5 วัน โดยก่อนจะถึงงานบุญ 1 เดือน ชาวบ้านต้องออกไปช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อนำมา สร้างพระธาตุรวงข้าว หรือเจดีย์ข้าวเปลือกให้แล้วเสร็จก่อนงาน เมื่อใกล้ถึงวันงานพุทธศาสนิกชนมาช่วยกันจัดตกแต่งศาลาหรือสถานที่ที่จะทำบุญ จัดเตรียมเครื่องสักการะ ดอกไม้ธูปเทียน ข้าวตอกอย่างละพันก้อน มีการตั้งธงใหญ่ไว้แปดทิศ และมีศาลเล็ก ๆ เป็นที่เก็บข้าวพันก้อน และเครื่องคาวหวาน สำหรับผีเปรต และมารรอบๆ ศาลาการเปรียญจะแขวนผ้าผะเหวด เป็นเรื่องราวของพระเวสสันดร ตั้งแต่กัณฑ์ที่ 1 ถึงกัณฑ์สุดท้าย
เผยแพร่เมื่อ 30-05-2025 ผู้เช้าชม 16