เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว

เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว

เผยแพร่เมื่อ 24-09-2024 ผู้ชม 150

[16.4754205, 99.5214035, เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว]

บทนำ
       งานเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกําแพงเพชร เป็นงานมหกรรมอาหารพื้นบ้านของจังหวัด กําแพงเพชร ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบันเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชน และสร้างภาพลักษณ์ในอัตลักษณ์ด้านการกินอาหารเส้นของจังหวัดกําแพงเพชร โดยบทความนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อการศึกษา 1) ประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว 2) ความสําคัญของเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว 

ประวัติความเป็นมาของเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว
       ก๋วยเตี๋ยวเกิดขึ้นเริ่มต้นมาจากจีน แต่เป็นแค่ข้อสันนิษฐานจากหนังสืออิลมีลีโอเน หรือ บันทึกการเดินทาง ของมาโค โปโล ที่ได้กล่าวถึง เส้น (Common team, 2561) โดยเริ่มต้นในราชวงศ์ ช่วง 200 ปี ยุคที่จีนเริ่มมีการติดต่อค้าขายกับเอเชียกลาง และตอนนั้น ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่ได้รับความนิยม ต่อมาสมัยราชวงศ์ซ่ง ก๋วยเตี๋ยวนั้นได้มีการแพร่หลายกว่าเดิม โดยว่ากัน ว่าเมืองจีนในสมัยราชวงศ์ซ่ง ค.ศ. 960-1279 ได้ตั้งร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ทั่วไป ทําให้ก๋วยเตี๋ยวจึงได้เป็นอาหารที่ สามารถรับประทานได้ง่ายในชีวิตประจําวัน สมัยนั้นเป็นการปกครองภายใต้อาณาจักรสุโขทัยและนั้นคือ จุดเริ่มต้นของ “ก๋วยเตี๋ยว” ในประเทศไทย มีหลักฐานการค้าขายกับประเทศจีนจริง ก๋วยเตี๋ยวจึงอาจเข้ามาใน สมัยนั้น แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอ และตอนนั้นอาหารหลักของคนไทย คือ ข้าว (มาลี เพชรพิพัฒน์, 2552) จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า ก๋วยเตี๋ยวเริ่มต้นมาจากจีน ในราชวงศ์ซ่ง ซึ่งอยู่ในสมัยสุโขทัยที่เป็น จุดเริ่มต้นของ “ก๋วยเตี๋ยว” ในประเทศไทย แต่หลักฐานนั้นยังไม่ชัดเจนพอ สมัยนั้นคนไทยนั้นยังไม่นิยมกิน ก๋วยเตี๋ยว เพราะคนนิยมทานข้าวมากกว่าทานก๋วยเตี๋ยวเพราะข้าวในสมัยนั้นคืออาหารหลักของคนไทย
       ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เห็นไปในทางเดียวกัน คือสมัยอยุธยา ยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ค.ศ 1656-1688 ได้มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยวข้อแรก คือ การเข้ามาในสมัยพระนารายณ์มหาราช เนื่องจาก มีการค้าขายกับต่างชาติ จีนก็เข้ามาในช่วงนั้นด้วย อีกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นยุครุ่งเรืองของอาหาร ส่วนก๋วยเตี๋ยวนั้น เป็นเพียงคําบอกเล่ามาจากพ่อค้าจีนที่นําบะหมี่มาต้มกิน คนไทยจึงได้รู้จักกับอาหารประเภทบะหมี่ แต่ตอนนั้น ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน (มาลี เพชรพิพัฒน์, 2552)
       จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า ทางประวัติศาสตร์ ในสมัยอยุธยาได้มีข้อสันนิฐานในเรื่องของการเกิด ขึ้นมาของก๋วยเตี๋ยว ว่ามีความเป็นไปว่า คนไทยอาจจะรู้จักเส้นบะหมี่เพราะพ่อค้าจีนได้มีการนําบะหมี่มาต้มกิน แต่หลักฐานนั้นยังไม่ชัดเจนพอ
       ส่วนอีกข้อสันนิษฐานคือ เข้ามาหลังจากช่วงปลายอยุธยา ที่ได้ตัดความสัมพันธ์กับต่างชาติตะวันตก หลังจากนั้นจีนได้เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น ประกอบกับความชัดเจนในบันทึกที่เกี่ยวกับเส้นบะหมี่ จึงได้ข้อ สันนิษฐานว่า ก๋วยเตี๋ยวมาจากจีนและเป็นคนจีนนั้นเองที่เป็นคนเริ่มสัมผัสกับก๋วยเตี๋ยว และจีนได้ก่อตั้งรกราก ในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา (มาลี เพชรพิพัฒน์, 2552)
       จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า จากข้อสันนิฐานอีกข้อ คนไทยรู้จักก๋วยเตี๋ยวเพราะคนจีนเป็นคน นําเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัสกับก๋วยเตี๋ยว เพราะตอนนั้นคนจีนเริ่มมีอิทธิมากขึ้น จึงทําให้คนจีนได้มีการมาตั้ง ถิ่นฐานที่ประเทศไทยในช่วงสมัยอยุธยา
       ต่อมายุคหลังสมัยรัตนโกสินทร์ ก่อนเกิดการปฏิรูปประเทศสมัยรัชกาลที่ 5 มีการพบหลักฐานที่ กล่าวถึงการกินเส้นก๋วยเตี๋ยวของไทย ปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดาวกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 4 กล่าวถึง เหตุการณ์เมื่อ “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จสวรรคต มีผู้สงสัยว่าทรงพระประชวรด้วยมี ผู้ลอบกระทําคุณไสย ในพระกระยาหารที่เรียกว่า แกงก๋วยเตี๋ยว” และก็ไม่ได้มีการพูดถึงอาหารประเภทเส้น อีกเลย (มาลี เพชรพิพัฒน์, 2552)
       จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า สมัยในช่วงรัชกาลที่ 5 มีการพบหลักฐานว่ามีการกินเส้นก๋วยเตี๋ยวของ คนแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ไม่ได้มีการพูดถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวปรากฏขึ้น เพราะเนื่องจากว่า “พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า เจ้าอยู่หัวจะเสด็จสวรรคต มีผู้สงสัยว่าทรงพระประชวรด้วยมีผู้ลอบกระทําคุณไสย ในพระกระยาหารที่เรียกว่า แกงก๋วยเตี๋ยว” จึงทําให้ไม่ปรากฏอาหารประเภทเส้น
       ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการปรากฏหลักฐานเป็นลาย ลักษณ์อักษรว่า “ทรงโปรดหมี่กรอบและหมี่ผัด” เป็นสูตรที่คนจีนคิดค้นเพื่อให้ถูกลิ้นคนไทย และสมัยนั้นคน ไทยเริ่มหันมาสนใจนิยมอาหารประเภทเส้นมากขึ้น รายการอาหารประเภทเส้นก็เพิ่มขึ้นมากมาย (กาญจนา จันทร์สิงห์, 2565)
       จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดหมี่กรอบและหมี่ผัด เพราะคนจีนนั้นคิดค้น สูตรมาเพื่อถูกปากคนไทย เลยทําให้คนไทยสนใจอาหารประเภทเส้นมากขึ้น
       ต่อมาในสมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นคนที่ทําให้ก๋วยเตี๋ยวแพร่หลายไปทั่วประเทศไทย เล่าย้อน ความในช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะข้าวยากหมากแพง เกิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงทําให้เศรษฐกิจตก เหมือนช่วงสงครามโควิด 19 ทําให้จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ออกนโยบายรัฐนิยมที่สนับสนุนให้คนไทยหันมา กินก๋วยเตี๋ยว เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับคนไทยได้กินอาหารราคาถูก มีคุณค่าต่อสุขภาพและที่สําคัญคือ อยากให้คนไทยหันมาทําอาชีพค้าขายมากขึ้น เพราะสมัยนั้นคนไทยไม่นิยมค้าขาย จึงทําให้การค้าขายตกไปอยู่ ในกํามือของคนจีน และได้มีการแจกรถให้เร่ขาย ตั้งชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวสามัคคีชัย” ตามชื่อของทําเนียบรัฐบาล ตอนนั้น โดยสูตรก๋วยเตี๋ยวสามัคคีชัย จะใส่ถั่งงอกแทนผักจีน เพราะถั่งงอกเพาะง่ายจากถั่วเขียว (กาญจนา จันทร์สิงห์, 2565)
       จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงข้าวยากหมากแพง จึงทําให้มีการ ตั้งนโยบายรัฐนิยมเพื่อสนับสนุนให้คนไทย หันมาสนใจกินก๋วยเตี๋ยว เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมให้ คนไทยกินอาหารราคาถูกที่ดีต่อสุขภาพ
       ต่อมาสมัยจอมพล แปลก ได้มีการเริ่มพัฒนาเป็นบะหมี่ชากังราว จังหวัดกําแพงเพชร เพื่อสนับสนุนให้ คนไทยกินก๋วยเตี๋ยวมากขึ้น สมัยสงครามครั้งที่ 2 มีชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเสียง คือ ร้านเจ๊กเท่ง ร้านเจ๊กฮ่อ และร้านเจ๊กเลี้ยง ซึ่ง “บะหมี่ชากังราว” เป็นบะหมี่ชั้นหนึ่งคู่เมืองจังหวัดกําแพงเพชร และปัจจุบันได้มีการจัด เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว ประจําเดือนธันวาคมของต้นเดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดกําแพงเพชร (ชมนําพา, 2562)
       จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า จอมพล แปลก ได้มีการพัฒนาบะหมี่ชากังราว ของจังหวัด กําแพงเพชรขึ้น และปัจจุบันได้มีการจัดเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด
       จังหวัดกําแพงเพชร เป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO เป็นมรดกโลกคือ อุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชร และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยม อีกเรื่องที่สําคัญคือ อาหารการกิน หอการค้าจังหวัดกําแพงเพชรจึงได้จัดงาน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวเที่ยวเมืองกําแพงเพชรขึ้น เรียกสั้น ๆ ว่า “งานก๋วยเตี๋ยว” จัดครั้งแรก เมื่อวันที่ 3-5 ธันวาคม 2542 ในปีที่ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตทางเศรษฐกิจ อย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อแรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการถูกเลิกจ้าง ทําให้นายพิทักษ์ ประธานหอการค้า ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัด ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี 2560-2564 เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกําแพงเพชร ปี พ.ศ. 2560 จัดขึ้น วันที่ 1-3 ธันวาคม ณ ลานอนุรักษ์วัฒนธรรม ถนนเลียบแม่น้ําปิง อําเภอเมืองกําแพงเพชร จังหวัดกําแพงเพชร กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การออกร้านจําหน่ายอาหารและก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกําแพงเพชร ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเลือกได้ตามใจชอบ รวมทั้งมีการออกร้านจําหน่ายสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งในจังหวัดกําแพงเพชรมีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ หลายร้านที่อร่อยแบบไม่ต้องเติมเครื่องปรุงอีกด้วย ต่อมาปี พ.ศ.2561 จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2561 ที่ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยสิริจิตอุทยานริมแม่น้ําปิง อําเภอเมือง จังหวัดกําแพงเพชร โดยปี 2561 มีการจัดแสดงจากโรงเรียนเทศบาล 1 เกริกกฤตยาอุปถัมภ์ โรงเรียนเทศบาล 2 วัดทุ่งสวน และการแสดงของเด็กนักเรียน ว.ธวิชการดนตรี และวงดนตรีของเด็กนักเรียน โรงเรียนกําแพงเพชรพิทยาคม ร่วมสร้างสรรค์บนเวทีให้ความบันเทิงกับผู้ที่มาร่วมงาน ต่อมาปี พ.ศ.2562 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ที่ลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยสิริจิตอุทยาน ริมแม่น้ําปิง อําเภอเมือง จังหวัดกําแพงเพชร โดยภายในงานมีการแสดงจากนักโรงเรียนปัทมดรุณวิทย์ ร่วมสร้างสรรค์ บนเวทีให้ความบันเทิงกับผู้ที่มาร่วมงาน และร้านอาหารที่หลากหลายมาเปิดบริการให้ชิมกันถึงที่เกือบทุกชนิด และอาหารประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ต่อมาปี พ.ศ.2563 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-13 ธันวาคม 2563 ณ บริเวณ หน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน ริมแม่น้ําปิง โดยภายในงานจะพบกับซุ้มจําหน่ายอาหารพื้นบ้าน อาหารนานาชนิด การแสดงจากสถาบันการศึกษา โรงเรียนต่าง ๆ การประกวดวงดนตรีเยาวชน และกิจกรรม อื่น ๆ และปี พ.ศ. 2564 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 - 5 ธันวาคม 2561 ณ ลานวัฒนธรรมสิริจิตอุทยาน ๆ ริมแม่น้ําปิง อําเภอเมืองกําแพงเพชร จังหวัดกําแพงเพชร โดยภายในงานประกอบด้วยการออกร้านจําหน่ายก๋วยเตี๋ยวจากร้านที่มีชื่อเสียงในจังหวัดกําแพงเพชร ผลิตภัณฑ์ OTOP ขึ้นชื่อ และการแสดงจากเยาวชนในจังหวัดกําแพงเพชร อีกทั้ง ยังเป็นการช่วยส่งเสริมประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวในจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักให้มากขึ้น เพราะก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานด่วนและเป็นที่นิยมของคนกําแพงเพชรอีกด้วย (วิทยา จตุรภาค, 2562)
         จากข้อมูลข้างต้นผู้เขียนสรุปได้ว่า จังหวัดกําแพงเพชร ได้มีการจัดเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวขึ้นทุกปีของต้นเดือนธันวาคม โดยภายในงานแต่ละปีก็จะมีการออกร้านจําหน่ายก๋วยเตี๋ยวจากร้านที่มีชื่อเสียงในจังหวัดกําแพงเพชร ผลิตภัณฑ์ OTOP ขึ้นชื่อ และการแสดงจากเยาวชนในจังหวัดกําแพงเพชรของทุกปี โดยสถานที่ ในการจัดเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวของทุกปีก็จะเป็น ณ ลานวัฒนธรรมสิริจิตอุทยาน ริมแม่น้ําปิง อําเภอเมืองกําแพงเพชร จังหวัดกําแพงเพชร โดยการจัดเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวมีจุดประสงค์ขึ้นเพื่อเป็นการสร้างรายได้ ให้กับประชาชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดกําแพงเพชร และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด ภายใต้ชื่อ “เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว” รายได้ให้กับประชาชน

ความสําคัญเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว
       จุดประสงค์หลักที่มีการจัดเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวขึ้นเป็นประจําทุกเดือนธันวาคม เพื่อเป็นการสร้าง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดกําแพงเพชร และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดกําแพงเพชร โดยมหกรรมอาหารพื้นบ้านหรือเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารจานด่วนยอดนิยมของคนจังหวัด กําแพงเพชร ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของ ก๋วยเตี๋ยวชากังราว ก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวโบราณ ผัดไท และอาหาร พื้นบ้านอื่น ๆ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนในของจังหวัดกําแพงเพชรได้มีการโชว์ฝีมือการทําก๋วยเตี๋ยวขึ้น ชื่อของจังหวัด และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดกําแพงเพชร และยังเป็นการเปิดโอกาสให้กับคนจังหวัดอื่นได้มาออกร้านเพื่อเป็นการโชว์สินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดตนเองด้วย จึงทําให้เกิดมหกรรมอาหารพื้นบ้าน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยวเที่ยวเมืองกําแพงเพชร จังหวัดกําแพงเพชร ขึ้นเป็นประจําทุกต้นเดือนธันวาคมของแต่ละปี ภายในงาน ก็จะประกอบด้วยการแสดงของนักเรียนและนักศึกษา อาหารพื้นบ้านของจังหวัดกําแพงเพชรและจังหวัดอื่น ๆ และร่วมไปถึงก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกําแพงเพชร เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เลือกตามใจชอบได้เลย

บทสรุป
       จากการศึกษาเทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกําแพงเพชร วัตถุประสงค์ที่ 1) ประวัติความเป็นมา เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว พบว่า ก๋วยเตี๋ยวเริ่มต้นมาจากจีน ในราชวงศ์ซ่ง ซึ่งอยู่ในสมัยสุโขทัยที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “ก๋วยเตี๋ยว” ในประเทศไทย และได้มีข้อสัณฐานในเรื่องของการเกิดมาขึ้นมาของก๋วยเตี๋ยว ว่ามีความเป็นไปว่า คนไทยอาจจะรู้จักเส้นบะหมี่ เพราะพ่อค้าจีนได้มีการนําบะหมี่มาต้มกิน แต่หลักฐานนั้นยังไม่ชัดเจนพอ ต่อมา จากข้อสันนิฐานอีกข้อ คนไทยรู้จักก๋วยเตี๋ยวเพราะคนประเทศจีนเป็นคนนําเข้ามาให้คนไทยได้สัมผัสกับ ก๋วยเตี๋ยว เพราะตอนนั้นคนจีนเริ่มมีอิทธิมากขึ้น จึงทําให้คนจีนได้มีการมาตั้งถิ่นฐานที่ประเทศไทย แต่สมัยนั้น คนไทยนั้นยังไม่นิยมกินก๋วยเตี๋ยว เพราะคนไทยนิยมทานข้าวมากกว่าทานก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากข้าวในสมัยนั้น คืออาหารหลักของคนไทย ต่อมาในช่วงรัชกาลที่ 5 มีการพบหลักฐานว่ามีการกินเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่สมัยรัชกาลที่ 4 ไม่ได้มีการพูดถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวปรากฏขึ้น แต่รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดหมี่กรอบและหมี่ผัด เพราะคนจีนนั้นคิดค้น สูตรมาเพื่อถูกปากคนไทย เลยทําให้คนไทยสนใจอาหารประเภทเส้นมากขึ้น พอเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ได้มีการเกิดข้าวยากหมากแพง จึงทําให้มีการตั้งนโยบายรัฐนิยมเพื่อให้คนไทยหันมาสนใจกินก๋วยเตี๋ยว

คำสำคัญ : ก๋วยเตี๋ยว

ที่มา : วนัสนันท์ นุชนารถ และคนอื่น ๆ. (2566). เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว. วารสารกำแพงเพชรศึกษา, 6(6). 69-78.

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2567). เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว. สืบค้น 13 พฤษภาคม 2568, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=2256&code_db=610004&code_type=01

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=2256&code_db=610004&code_type=01

Google search

Mic

ตลาดชาวบ้าน

ตลาดชาวบ้าน

ในงานเฉลิมฉลองครบรอบร้อยปี การเสด็จประพาสต้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร เมื่อวันที่ 18-27 สิงหาคม พ.ศ. 2449 จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการสนับสนุน จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดตลาดชาวบ้านและตลาดชาววังขึ้น ในส่วนของตลาดชาวบ้านนั้น ได้รับความอนุเคราะห์จากเทศบาลตำบลนครชุม ซึ่งชาวบ้านได้รักษาวิถีชีวิตของชุมชนไว้ได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ในวันที่ 20-21 สิงหาคม 2549 จึงเกิดตลาดชาวบ้านขึ้นผู้แสดงล้วนมาจากตำบลนครชุมทั้งสิ้น

เผยแพร่เมื่อ 20-02-2017 ผู้เช้าชม 2,499

สาวปากคลองที่ยังไม่ได้แต่งงานต้องสวมกำไลข้อเท้า

สาวปากคลองที่ยังไม่ได้แต่งงานต้องสวมกำไลข้อเท้า

“ข้าจะกลับมา ปากคลองจะเป็นเรือนตายของข้าต่อไป เมื่อขายของเก็บเงินที่ติดค้างอยู่เสร็จแล้ว ข้าจะมาสร้างบ้านใหม่ที่นี่เป็นเรือนหอของเรา การถอดกำไลของเอ็งจะไม่ต้องอับอายขายหน้าใคร เราจะอยู่กินด้วยกัน มีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง เราจะทำคลองให้เจริญรุ่งเรืองกว่านี้ และบางทีนานไปวันหนึ่งปากคลองจะเป็นของเรา ปากคลองที่เต็มไปด้วยป่าไม้ ข้าว ไต้ น้ำมันยาง สีเสียด ยาสูบ หนังสัตว์” รื่นหนุ่มวังแขม อายุ 32 ปี บอกแก่สุดใจสาวสวยแห่งคลองสวนหมากวัย 16 ปี ใต้ต้นมะม่วงสายทองริมท่าน้ำคลองสวนหมาก วันสงกรานต์ปี พ.ศ. 2433 จาก ทุ่งมหาราช ของ เรียมเอง (มาลัย ชูพินิจ)

เผยแพร่เมื่อ 17-04-2020 ผู้เช้าชม 2,429

วันเข้าพรรษา

วันเข้าพรรษา

การเข้าพรรษา เป็นพุทธบัญญัติ ซึ่งพระภิกษุทุกรูปจะต้องปฏิบัติตาม หมายถึง การอธิษฐานอยู่ประจำที่ไม่เที่ยวจาริกไปยังสถานที่ต่างๆ เว้นแต่มีกิจจำเป็นจริง ๆช่วงจำพรรษาจะอยู่ในช่วงฤดูฝนคือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึง ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี ดังนั้น วันเข้าพรรษา หมายถึง วันที่พระภิกษุในพระพุทธศาสนาอธิษฐานอยู่ประจำในวัด หรือเสนาสนะที่คุ้มแดดคุ้มฝนได้แห่งหนึ่งไม่ไปค้างแรมในที่อื่น ตลอด ๓ เดือนในฤดูฝน

เผยแพร่เมื่อ 23-02-2017 ผู้เช้าชม 2,740

ประเพณีกินสี่ถ้วย (ประเพณีการแต่งงานของชาวปากคลอง)

ประเพณีกินสี่ถ้วย (ประเพณีการแต่งงานของชาวปากคลอง)

เมื่อชาวปากคลองแต่งงาน จะมีประเพณีหนึ่งที่รับมาจากภาคกลาง หรือภาคกลางรับไปจากปากคลองไม่เป็นที่ยืนยัน ชาวบ้านจะเรียกว่า ไปกินสี่ถ้วย แปลว่าไปงานแต่งงาน ชาวปากคลองจะถามกันว่า วันนี้จะไปกินสี่ถ้วยหรือเปล่า หมายถึงว่าจะไปงานมงคลสมรสหรือเปล่าเพราะ มีอาหารที่รับรองแขก หมายถึงการเลี้ยงขนมสี่อย่าง โดยขนมทั้งสี่อย่างเป็นขนมโบราณแต่ดั้งเดิมของไทย ได้แก่ เม็ดแมงลักน้ำกะทิ หรือ "ไข่กบ" ลอดช่องน้ำกะทิ หรือ "นกปล่อย" ข้าวตอกน้ำกะทิ หรือ "นางลอย" และข้าวเหนียวน้ำกะทิ หรือ "อ้ายตื้อ" ซึ่งทั้งหมดล้วนมีความหมายในทางมงคล 

เผยแพร่เมื่อ 17-04-2020 ผู้เช้าชม 6,596

ประเพณีบายศรีสู่ขวัญข้าว

ประเพณีบายศรีสู่ขวัญข้าว

ตามประเพณีไทย สิ่งที่มีบุญคุณกับคนไทยและมองไม่เห็นจะเรียกว่าแม่เสมอ เช่นน้ำเรียกกันว่า แม่คงคา พื้นดิน เรียกว่า แม่ธรณี ข้าวเรียกว่าแม่โพสพ ทุกสิ่งล้วนมีพระคุณต่อวิถีชีวิตของคนไทย มาตั้งแต่ตั้งเป็นชาติไทย ประเพณี การบูชาแม่โพสพ หรือข้าวนั้น คนไทยนิยมทำกันมาช้านานถือว่า แม่โพสพมีพระคุณกับคนไทยทั้งประเทศ เพราะข้าวนั้นเลี้ยงคนไทย แม่โพสพจึงมีความหมายอย่างลึกซึ้งและเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตคนไทยมาโดยตลอด

เผยแพร่เมื่อ 09-01-2020 ผู้เช้าชม 12,382

ประเพณีเผาข้าวหลาม เพ็ญเดือนสาม ไหว้พระบรมธาตุกำแพงเพชร

ประเพณีเผาข้าวหลาม เพ็ญเดือนสาม ไหว้พระบรมธาตุกำแพงเพชร

ประเพณีเผาข้าวหลาม ไหว้พระบรมธาตุนครชุม จังหวัดกำแพงเพชร โดยตำนานการเผาข้าวหลามของชาวนครชุม จังหวัดกำแพงเพชร มีการเล่าขานสืบต่อกันมาว่า ในช่วงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 ของทุกปี ช่วงนี้เกษตรกรชาวนาชาวไร่ เสร็จจากฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวและถั่ว ชาวบ้านจึงนิยมนำข้าวใหม่และถั่วที่ได้จากการเพาะปลูกมาทำบุญ ซึ่งถือว่าเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับแม่โพสพ และพิธีเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตซึ่งเป็นวิถีชีวิตของเกษตรกร และชาวบ้านในชนบท กระบวนการผลิตข้าวหลามเริ่มตั้งแต่การเตรียมข้าวเหนียว ถ้าเป็นข้าวใหม่จะอร่อย สำหรับการทำข้าวหลามของชาวนครชุม เป็นการเผาข้าวหลามแบบท้องถิ่นในสมัยดั้งเดิมทำกันมาโดยการตั้งเผากับดิน 

เผยแพร่เมื่อ 27-06-2022 ผู้เช้าชม 4,254

เพลงฉ่อยตำบลลานดอกไม้

เพลงฉ่อยตำบลลานดอกไม้

บ้านร้านดอกไม้ ในอดีต กลายมาเป็นบ้านลานดอกไม้ในปัจจุบัน ริมฝั่งน้ำปิงเหนือเมืองกำแพงเพชรไปเล็กน้อย มีชุมชนโบราณที่สำคัญแห่งหนึ่งคือ ชุมชนโบราณบ้านลานดอกไม้ ในชุมชนแห่งนี้ เป็นชุมชนดั้งเดิม ประชาชนอาศัยอยู่สืบทอดมาหลายชั่วอายุคน ดังนั้นศิลปวัฒนธรรมจึงฝังรากลึก ในบ้านลานดอกไม้ เพลงพื้นบ้านที่เล่นกันมากว่าร้อยปี จึงอยู่ในสายเลือดของชาวบ้าน การตามหาเพลงพื้นบ้าน โดยการไปพบแม่เปรื่อง ผิวพรรณ วัย 70 ปี ลูกศิษย์เอกของแม่ต่อ นุ่มน่วม แม่เพลงในอดีต ที่เสียชีวิตไปแล้ว

เผยแพร่เมื่อ 09-01-2020 ผู้เช้าชม 2,781

ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ

ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ

ต้นทับทิม จัดเป็นต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้านที่ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยสามารถนําใบต้นทับทิมมาปะพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือขจัดสิ่งชั่วร้ายได้ อีกทั้งผลทับทิมก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและบํารุงฟันให้แข็งแรง ทับทิมเป็นผลไม้มงคลของจีน กิ่งใบทับทิม เป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์และมีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองกันภัย มีเรื่องเล่าว่าเพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกนํามาเผยแพร่ในเมืองจีนพร้อมกับพระพุทธศาสนา

เผยแพร่เมื่อ 24-09-2024 ผู้เช้าชม 2,121

ระบำร้องแก้

ระบำร้องแก้

ระบำร้องแก้ มีมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นิยมเล่นกันเมื่อเสร็จงานบ้านและทำไร่นา งานเทศกาลต่างๆ หนุ่มสาวจะมาจับกลุ่มร้องเกี้ยวพาราสีกัน เนื้อร้องนิยมใช้คำเปรียบเปรยเรื่องความรัก ความงาม วิธีการเล่น หนุ่มสาวล้อมลงหนุ่มสาวคู่แรกเดินออกมากลางวง ร้องโต้ตอบเป็นบทกลอน โดยมีท่ารำประกอบบทร้อง เพื่อนหญิงชายที่ล้อมวงจะรับเป็นลูกคู่ สลับคู่กันจนครบทุกคู่

เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 2,971

วัฒนธรรมการกินหมากของคนไทย

วัฒนธรรมการกินหมากของคนไทย

ความงามของนางในวรรณคดีของไทยทุกเรื่อง นางเอกต้องมีฟันดำราวกับนิล จึงจะถือว่างดงาม ดังนั้นการกินหมากจึงอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน และกำลังจะสูญหายไปจากสังคมไทยในไม่กี่ปีข้างหน้า เพราะคนไทยทุกคนเลิกกินหมาก เราจึงบันทึกวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตไว้ให้เป็นหลักฐาน เพื่ออนุชนที่รักของเราได้เข้าใจในวัฒนธรรมการกินหมาก การกินหมากในสังคมไทยมีมาหลายศตวรรษ ประเทศในแถบตะวันออกใช้หมากเป็นเครื่องดับกลิ่นปากและทำให้ฟันคงทน จากวรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ มีคำว่า สลา ซึ่งหมายถึงหมากปู่เจ้าสมิงพราย เสกหมากให้พระลอเสวย ที่เรียกกันว่าสลาเหิน หรือหมากบิน

เผยแพร่เมื่อ 03-03-2020 ผู้เช้าชม 3,922