ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ
เผยแพร่เมื่อ 24-09-2024 ผู้ชม 199
[16.3833469, 99.2020379, ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ]
บทนำ
ความเชื่อ คือ สิ่งที่หยั่งรากลึกลงไปในวิถีชีวิต ความคิด และการกระทําของคนรุ่นสู่รุ่น ความเชื่อในประเทศไทยมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งความเชื่อในตัวบุคคล ความเชื่อในความคิดของช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ความเชื่อเรื่องจาตุคามรามเทพ ความเชื่อในพรรคการเมือง ความเชื่อในศาสนา ความเชื่อใน สิ่งที่เรามองไม่เห็น อาทิ ความเชื่อเรื่องผี เทวดา รวมไปถึงความเชื่อในเรื่องศาสตร์หรือพิธีกรรมต่าง ๆ อาทิ ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ทิศการวางพระ รวมไปถึงสิ่งอื่น ๆ เมื่อเรียกรวม ๆ กันแล้ว คนจีนจะเรียกสิ่งนี้ว่า ฮวงจุ้ย หรือ ศาสตร์ในการกําหนดที่ตั้งให้เหมาะสม และเป็นมงคลสําหรับสร้างสุสาน บ้าน เมือง เป็นต้น โดยมี องค์ประกอบธรรมชาติ เช่น แม่น้ํา ภูเขา ต้นไม้ เข้ามาเกี่ยว
ประเทศไทยก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ความเชื่อแทรกซึมเข้ามาอยู่ทุกช่วงของชีวิตตั้งแต่เกิด บวช แต่งงาน หรือเสียชีวิต พิธีกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อ สิ่งที่ทําได้ สิ่งที่ทําไม่ได้ ถ้าทําแล้วจะเป็นแบบนั้น แบบนี้ เช่นเดียวกับการปลูกต้นทับทิมในบริเวณบ้าน ก็เป็นความเชื่อของคนไทย
ความหมายของความเชื่อ
ภิญโญ จิตต์ธรรม (2522) ได้กล่าวถึงความเชื่อสรุปได้ว่า ความเชื่อ คือสิ่งที่ไม่ให้ถูกลงโทษ และเพื่อให้อํานาจสิ่งลึกรับนั้นพึงพอใจ ต่อมาจึงได้มีพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อบูชาเพียงพอที่จะนํามาใช้พิสูจน์ให้เห็นจริง เกี่ยวกับสิ่งนั้นก็ได้ มนุษย์ค่อย ๆ เรียนรู้ ทําความเข้าใจโลกมาเป็นหลายพันปี และเชื่อ และเชื่อว่ามีอํานาจลึกลับ สามารถบันดาลให้มนุษย์ได้รับผลดีและผลร้าย เมื่อมนุษย์กลัวอํานาจสิ่งลึกลับนั้นก็จะกระทําสิ่งต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ ถูกลงโทษ และเพื่อให้อํานาจสิ่งลึกลับนั้นพึงพอใจ ต่อมาจึงได้มีพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อบูชาเซ่นสรวง เพราะเชื่อสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นต้องมีผู้บันดาลให้เป็น สมปราชญ์ อัมมะพันธ์ (2536) ได้กล่าวถึงความหมายของความเชื่อ ไว้ในหนังสือประเพณีและพิธีกรรมในวรรณคดีไทยไว้หลายประการ ดังนี้ "ความเชื่อ คือ การยอมรับข้อเสนอ ข้อใดข้อหนึ่งไว้ว่าเป็นจริง การยอมรับเช่นนี้โดยสาระสําคัญแล้วเป็นการรับเชิงพุทธิปัญญา แม้ว่าจะมีอารมณ์ สะเทือนใจเข้ามาประกอบร่วมด้วย ความเชื่อจะก่อให้เกิดภาวะทางจิตขึ้นในบุคคลซึ่งอาจเป็นพื้นฐานสําหรับ การกระทําโดยสมัครใจของบุคคลนั้น” “ความเชื่อ คือ คําตอบสิ่งลึกลับที่เกี่ยวกับการดํารงอยู่ของตนโดยให้ พื้นฐานการศรัทธาและอารมณ์มากกว่าที่จะเป็นเหตุผล หรือวิทยาศาสตร์" จันทร์ศรี นิตยฤกษ์ (2523) ได้กล่าวถึง ความเชื่อในหนังสือความรู้เรื่องคติชนวิทยาว่า เชื่อ ความหมายว่า เห็นจริงด้วย นับถือ มั่นใจ อาจจะด้วย ความรู้สึกหรือการไตร่ตรองด้วยเหตุผลก็ตาม เมื่อเกิดความเชื่อแล้วก็มักมีการแสดงออกทางการ คือ การปฏิบัติ และทางวาจา เช่น ตักเตือน สั่งสอน หรือให้ผู้อื่นทราบ ความเชื่อของบุคคลกลุ่มใดย่อมมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด กับประเพณี สุภาษิต คําพังเพย ตลอดจนคติชนแขนงอื่น ๆ เป็นต้น ความเชื่อจึงเป็นสิ่งสําคัญที่จะกําหนดการแสดงออกของคนในสังคม กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ความเชื่อเป็นตัวกําหนดคติชนแขนงอื่น ๆ ในสังคมนั้น ๆ ทั้งนี้เพราะเมื่อคนในสังคมมีความเชื่อเรื่องใดย่อมประพฤติปฏิบัติหรือแสดงออกด้วยประเพณี พิธีกรรมและอื่น ให้สอดคล้องกับความเชื่อนั้น ๆ นอกจากนั้น มารยาท กิจสุวรรณ (2526) ได้กล่าวถึง ความเชื่อของชนชาติไทย ไว้ในวารสารวัฒนธรรมไทย ดังนี้ ความเชื่อของชนชาติไทยแต่งดั้งเดิมก็เหมือนกับชนชาติอื่นในสมัยโบราณ คือ เชื่อในสิ่งที่ไม่เห็นตัวตน โดยเข้าใจว่า มีฤทธิ์อํานาจอยู่เหนือคนอาจบันดาลให้ดีหรือร้ายแก่คนได้ ความเชื่ออันนี้ คือความเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ (Super Nature) ที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิธีทาง วิทยาศาสตร์ใด ๆ แต่ความเชื่อ เช่นนี้ก็มีอิทธิพลเหนือความคิด และการกระทําของคนไม่ว่าจะเป็น ยุคใด ๆ แต่ความเชื่อเหนือสิ่งธรรมชาติ บางชนิดก็อาจจะจัดอยู่ในรูปของศาสนาดั้งเดิม (Primitive Religion) ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นสิ่งใหม่ ๆ
ดังนั้นจึงสามารสรุปได้ว่าความเชื่อ คือ การยอมรับนับถือหรือยึดมั่น ในสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่จําเป็น ต้องมีเหตุผลมาอธิบาย การยอมรับนั้นอาจยอมรับด้วยความศรัทธา ด้วยความจงรักภักดีแฝงไว้ด้วยความกลัว หรือรับสืบเนื่องกันมาและปฏิบัติตามจนกลายเป็นประเพณีและวัฒนธรรมในปัจจุบัน
ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ของคนไทยสมัยโบราณ
ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้นั้น สืบเนื่องมาจากในสมัยโบราณ คนไทยมักจะชอบบ้านที่มีบริเวณ กว้างขวาง แล้วมักจะมีพฤติกรรมรักในการปลูกต้นไม้นานาชนิดไว้รอบบ้าน การปลูกต้นไม้แต่ละต้นจึงมักจะ คํานึงถึงทิศทางทั้งแสงแดด ลม และการใช้ประโยชน์ในการปลูกต้นไม้แต่ละชนิด รวมไปถึงการปลูกไม้มงคล ภายในบริเวณบ้านด้วย ไม้มงคลที่ควรปลูก อาทิ
- ต้นกล้วย กล้วยเป็นไม้ที่ปลูกง่ายและมีประโยชน์มาก ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่ลําต้น ใบ หัวปลี และผล โดยคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า การปลูกกล้วยไว้ในบ้านนั้น ไม่ว่าจะคิดสิ่งใดหรือกระทําสิ่งใด ก็ง่าย สําเร็จได้โดยง่าย ต้นกล้วยควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของบ้านเสมอ
- ต้นคูน หรือต้นราชพฤกษ์ คนไทยเชื่อกันว่าหากปลูกไว้ในบ้านจะร่ำรวย ทรัพย์สินเงินทองจะทวีคูณ ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เมื่อกล่าวถึงทิศการปลูกต้นคูณนั้นโบราณกล่าวว่า ต้นคูณควรปลูกไว้ทางทิศใต้
- ต้นมะพร้าว หรือ ต้นไผ่สีสุข โบราณกล่าวไว้ว่าควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออก ซึ่งมีความเชื่อว่าจะทําให้ คนในบ้านหรือคนในครอบครัวปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ
- ต้นโป๊ยเซียน ปลูกแล้วจะทําให้ร่ำรวย ให้โชคลาภเจริญรุ่งเรือง ทิศที่เหมาะกับการปลูก คือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
- ต้นจําปี ใครปลูกไว้ในบ้าน จะทําให้เกิดความสบายอกสบายใจ ไม่มีเรื่องกังวลใจ ต้นจําปี โบราณ กล่าวไว้ว่า ควรปลูกในทิศตะวันตก
- ต้นมะม่วง ปลูกมะม่วงไว้ทางทิศใต้จะช่วยป้องกันคนอื่นมารังแก
- ต้นฝรั่ง ป้องกันคาถาอาคม เวทมนต์ หรือ คุณไสย ต่าง ๆ บางท้องถิ่นเชื่อกันว่า ต้นฝรั่ง สามารถ ป้องกันภูตผีปีศาลได้ด้วย ควรปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
- ต้นขนุน โบราณเชื่อว่า ปลูกไว้ในบ้านจะมีคนสรรเสริญ ป้องกันอันตรายและคนใส่ร้าย อีกทั้งมีผู้อุปการะอุดหนุนคอยให้ความช่วยเหลือ ทิศที่เหมาะสมคือ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
- ต้นมะยม เชื่อกันว่า ปลูกแล้วจะได้รับความนิยมชมชอบ มีชื่อเสียง มีคนรักใคร่ มะยม ทิศทางที่ ควรปลูก คือ ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน
- ต้นมะขาม ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตก เพื่อป้องกันคดีความ ผีซ้ำด้ามพลอย และทําให้คนชื่นชอบ เป็นที่น่าเกรงขาม
ส่วนพันธุ์ไม้ที่คนโบราณห้ามปลูกไว้ในบ้าน เนื่องจากจะนําความวุ่นวายมาสู่ครอบครัว ได้แก่
- ต้นตะเคียน เชื่อกันว่ามีวิญญาณฯหญิงสาวมาสิงสู่ จะทําให้คนที่อยู่ในบ้านไม่เจริญ
- ต้นไทร โบราณมีความเชื่อว่าไม่ควรปลูกต้นไทรไว้ในบ้านเพราะจะทําให้ครอบครัว เกิดความวุ่นวาย
- ต้นยาง เป็นไม้ที่นิยมนํามาทําหีบศพ เชื่อว่าปลูกไว้ในบ้านแล้วจะทําให้คนในครอบครัวถูกอาเพศ
- ต้นโศก ระกํา สั่นทม เป็นชื่อที่ไม่มีความมงคล จึงไม่นิยมให้ปลูกในบ้าน เชื่อว่าจะทําให้เกิดความ อัปมงคลกับคนในบ้าน จะเกิดทุกข์เกิดเรื่องไม่ดีกับคนในครอบครัว
- เฟื่องฟ้า เป็นไม้ที่มีหนามแหลมคม คนโบราณจึงไม่ให้ปลูกไว้ในบ้าน โดยเชื่อกันว่า ถ้าบ้านไหนมีลูกสาว ลูกสาวก็จะไร้คู่ เป็นต้น ปัจจุบันความเชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา เพราะมีกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
สําหรับต้นทับทิมนั้น คนไทยมีความเชื่อว่า ต้นทับทิมนั้นเป็นอัญมณีแห่งผลไม้ คือ ชื่อเรียกขานผลทับทิม ตามความเชื่อของคนโบราณโดยมีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่มรื่น และน่ายินดี โดยเฉพาะชาวจีนมักนิยมนําผลทับทิมให้เป็นของขวัญแก่คู่แต่งงานเพื่อเป็นการอวยพรให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง นอกจากนั้นแล้วยังมีความเชื่ออีกว่า ใบหรือกิ่งของต้นทับทิมให้คุณด้านการป้องกันภัยจากภูตผี เราจึงมักเห็นการใช้ใบหรือกิ่งทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ล้างมือ พรมศีรษะหลังกลับจากการร่วมงานศพเพื่อปัดเป่า สิ่งไม่ดีที่ติดตามมา (Kaset Today, ม.ป.ป.)
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิมในแต่ละประเทศ
ประเทศจีน
ประเทศจีนถือว่าต้นทับทิมเป็นไม้มงคล และเนื่องจากผลทับทิมมีเมล็ดมาก ชาวจีนจึงยกให้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความมีลูกหลานมากมาย จึงนิยมให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่บ่าวสาว ในพิธีแต่งงานเพื่อให้มีลูกหลานมาก ๆ ในพิธีแต่งงานก็นิยมปักยอดทับทิมไว้ที่ผมบ่าวสาว และปักยอดทับทิมไว้ ที่สิ่งของเซ่นไหว้เจ้า ชาวจีนยังเชื่อว่า ใบหรือกิ่งทับทิมมีอํานาจไล่ภูตผีปีศาจได้ จึงนิยมปลูกต้นทับทิมไว้ใน บริเวณหน้าบ้าน และใช้ใบทับทิมแช่น้ำ ล้างหน้า ล้างมือ หลังกลับจากงานศพ เพื่อมิให้ปีศาจติดตามมา
ประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าผลทับทิมเป็นเสมือนเจ้าแม่ที่คอยปกป้องรักษาเด็ก ๆ ให้ปลอดภัย และเชื่อว่า เมื่อเด็ก ๆ ได้รับประทานผลของทับทิมแล้วจะปลอดภัยจากภูติ ผี ปีศาจทั้งปวง ผลไม้ชนิดนี้จึงเป็นที่นิยม ในญี่ปุ่น อีกทั้งยังเชื่อว่า การรับประทานทับทิมจะช่วยทําให้ความจําดีขึ้น ช่วยป้องกันมะเร็งในผู้สูงอายุ โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมถึงความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ทับทิมยังเป็นผลไม้ชะลอความชราแล้วยังสามารถ ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยล้าจากการทํางานได้ดีเนื่องจากในผลทับทิมมีสารที่เรียกว่า กรดซิตริก
ประเทศกรีก
ประเทศกรีกมีความเชื่อว่าต้นทับทิมเกิดจากโลหิตของไดโอนีซุส ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเทพเจ้าทั้งปวง และเทวีนาน่า ซึ่งเป็นพรหมจารีย์ตั้งครรภ์ขึ้นโดยการสอดใส่ผลทับทิม และให้เกิดเทพเจ้าแอตติส ดังนั้นผู้ที่เคารพนับถือเทพแอตติสจึงไม่กินผลทับทิม ชาวยิวในสมัยพระเจ้าโซโลมอนก็ถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏอยู่บนยอดเสาของวิหารกษัตริย์โซโลมอน ชาวฮินดู ในอินเดียเชื่อว่า พระพิฆเนศทรงโปรดทับทิม ผู้ที่เคารพพระพิฆเนศจึงนิยมนําผลทับทิมไปถวาย นอกจากนี้ยังใช้ดอกทับทิมบวงสรวงบูชาพระอาทิตย์ พระนารายณ์ และเทวีลักษมี อีกด้วย
จากข้อมูลข้างต้นเกี่ยวกับต้นทับทิมของทั้ง 3 ประเทศ พบว่าทั้ง 3 ประเทศมีความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิม ที่แตกต่างกันออกไป โดยในประเทศจีนและญี่ปุ่นจะมีจุดประสงค์ไปในทางเดียวกันคือ ต้นทับทิมสามารถปกปัก รักษาจากสิ่งที่ไม่ดีจากภูติผีปีศาจได้ แต่ในประเทศกรีกต้นทับทิมถือเป็นสิ่งที่นิยมใช้บูชาเทพเจ้าที่นับถือให้เป็น ศิริมงคลกับตัวเอง (จารุพันธ์ ทองแถม, 2519)
ความเชื่อในแต่ละศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้นมีความเชื่อว่าทับทิมเป็นผลไม้วิเศษมีเทพหลายองค์โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ เช่น ตํานานในศาสนาฮินดูเล่าว่า ใครใดที่นําทับทิมที่สวยงามไร้ตําหนิถวายแด่องค์เทพกฤษณะ ความปรารถนา ของเขาจะสัมฤทธิ์ผล และเช่นเดียวกันพระพิฆเนศที่โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ด้วย และยังเชื่อกันว่าน้ำที่แช่ ใบทับทิมถือกันว่าเป็น "น้ำมงคล" คือ มีพลังที่ดีจากธรรมชาติ แต่ถ้าแช่กิ่งไปในน้ำเฉยๆโดยไม่มีการกล่าว บทสวดหรือท่องคาถาตามศาสนพิธีก็จะไม่เรียกว่าน้ำมนต์
พุทธมหายาน
ในนิกายนี้พุทธมหายานมักนํากิ่งใบทับทิมเป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบในพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์มีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองป้องกันภัย และยังนํากิ่งทับทิมไปใช้ประพรมน้ำพุทธมนต์-น้ำเทพมนต์ หรือนําไปแช่ในน้ําสะอาดประพรมกันหรือแก้อาถรรพ์ได้ เช่น ประพรมหลังจากกลับจากงานศพ เป็นต้น
ศาสนาของชาวอียิปต์โบราณ
ในศาสนาอียิปต์โบราณถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากเมล็ดทับทิมมีลักษณะคล้ายอัญมณีล้ํา ค่าแสดงถึงความมั่งคั่งร่ํารวยและเมล็ดของผลทับทิมยังแสดงถึงการมีลูกหลานมากมายอีกด้วย นอกจากนั้น ยังนิยมนําไปบูชาเทพเจ้าของชาวอียิปต์ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้ารา (สุริยเทพ) เทพเจ้าอามุน (เทพอากาศ/ราชาแห่ง ปวงเทพ) เทพเจ้าอนูบิส (เทพแห่งความตายและการรักษาศพ) เป็นต้น และขับไล่ภูติ ผี ปีศาจที่มีเจตนา จะทําร้ายรุกราน (จารุพันธ์ ทองแถม, 2519)
ประสบการณ์ความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้ทับทิม
ต้นทับทิม จัดเป็นต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้านที่ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยสามารถนําใบต้นทับทิมมาปะ พรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือขจัดสิ่งชั่วร้ายได้ อีกทั้งผลทับทิมก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและบํารุงฟันให้แข็งแรง ทับทิมเป็นผลไม้มงคลของจีน กิ่งใบทับทิม เป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์และ มีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองกันภัย มีเรื่องเล่าว่า เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกนํามาเผยแพร่ในเมืองจีนพร้อมกับ พระพุทธศาสนา ซึ่งประวัติศาสตร์ บันทึกไว้ว่า " พระถังซัมจั๋ง " ได้ไปอาราธนาพระไตรปิฎกที่อินเดีย ท่านได้นําพันธุ์ไม้ต่าง ๆ มาด้วย และหนึ่งในนั้น ก็คือ ทับทิม ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมาก จึงสื่อความหมายถึงการ ให้มีลูกชายมาก ๆ จึงได้กลายเป็นความเชื่อ ที่ว่า หากมีวิญญาณตามติดเรามา ถ้าเมื่อมาเจอต้นทับทิมที่เราปลูกเอาไว้ ภายหน้าบ้านพวกเขาจะเกิดการกลัว และไม่กล้าเข้ามาในบ้านเรา การไปงานศพเมื่อกลับมา ก็ให้เอาใบทับทิมแช่น้ําแล้วให้เอามาพรมก่อนเข้าบ้าน เพื่อป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็นไม่ให้ตามเราเข้าบ้าน นั่นเอง และเราจะสังเกตได้ว่าที่ไหนที่เขาปลูกต้นทับทิมเอาไว้ บริเวณหน้าบ้าน เมื่อที่พวกเขาเวลากลับมาจากงานที่ไม่เป็นมงคล ก็จะนําก้านทับทิมที่แช่น้ำไว้หน้าบ้าน นํามาพรมบนร่างกายก่อนเข้าบ้านเสมอเพราะด้วยลักษณะของต้นไม้ชนิดนั่นเองซึ่งความเชื่อนี้ได้รับอิทธิพล มาจากประเทศจีน อย่างบางตําราว่ากันว่า ต้นทับทิม ถือเป็นต้นไม้หรือพันธุ์ไม้มงคล ที่สามารถช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ออกไปได้ และช่วยในเรื่องของการเสริมดวงให้กับผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงงานมงคลพิธีสำคัญต่าง ๆ ก็จะใช้ยอดจากต้นทับทิม นำไปปักไว้เพื่อให้เกิดเรื่องราวดี ๆ ในอนาคตนั่นเอง จากประสบการณ์ข้าพเจ้า โปรดใช้ วิจารณญาณก่อนอ่าน เมื่อหลายปีก่อนปู่ของข้าพเจ้าได้ประสบอุบัติเหตุรถล้มร่างกายไม่แข็งแรงเลย การล้มในครั้งนั้นรุนแรงมีกระดูกทิ่มปอดและมีน้ำในปอดด้วยร่างกายที่แก่มากแล้วจึงทำให้ท่านทรุดหนักมากจนถึงขั้นเข้าห้อง ICU ญาติของข้าพเจ้าจึงได้นำกิ่งของต้นทับทิมมาทำน้ำมนต์และนำน้ำมาให้กินรวมทั้งทาตามตัว หลังจากนั้นหนึ่งวันอาการของปู่ก็เริ่มอาการดีขึ้นรู้สึกตัวสามารถพูดได้ขยับตัวได้หลังจากที่นอนไม่มีแรงมา หลายวันค่ะ หลังจากนั้นบ้านข้าพเจ้ามีความเชื่อว่าต้นทับทิมนั้นปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายได้จึงนิยมนํามาปลูกไว้เพื่อ ไม่ให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาภายในตัวบ้าน และในพื้นที่บริเวณตำบลข้าพเจ้าก็มีการนําต้นทับทิมไปใช้ในเรื่องต่าง ๆ เช่น บางบ้านที่ทําการค้าขายก็มักปลูกต้นทับทิมไว้ในบ้านเพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งและมั่งคงในการทํางาน หรือทําให้ความค้าขายมีความรุ่งเรืองธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วแต่ในความเชื่อของคนเชื้อสายจีนนั้นเชื่อว่า การปลูกต้นทับทิมไว้ในบ้านจะเสริมเรื่องของชีวิตคู่การที่ลูกทับทิมมีเมล็ดเยอะแสดงถึงการมีลูกดก คนจีนจึงนิยมนํามาเป็นของขวัญให้คู่บ่าวสาว การปลูกต้นทับทิมภายในบ้าน
1. ทิศทางที่มงคล
ทิศเหนือ : เป็นที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับหน้าที่การงาน เสริมในเรื่องการงานรุ่งเรือง ในการทำงานอาจจะช่วยในการเลื่อนขั้นได้
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นทิศทางที่ช่วยในด้านสติปัญญาและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ทิศตะวันออก : มีความเชื่อว่าหากปลูกต้นไม้ในทิศนี้จะช่วยให้คนในบ้านมีสุขภาพแข็งแรง รวมถึง การมีชื่อเสียง หน้าที่การงานเป็นไปในทางที่ดี
ทิศตะวันออกเฉียวใต้ : เป็นทิศทางแห่งความร่ำรวย และอุดมสมบูรณ์
ทิศใต้ : เป็นทิศที่ช่วยในเรื่องหน้าที่การงาน และอำนาจบารมี
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศทางที่ช่วยส่งเสริมดวงความรัก และคนในบ้านมีความสงบสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง
ทิศตะวันตก : เป็นทิศทางที่ช่วยเรื่องหน้าที่การงานรวมถึงการศึกษาความรู้ ทิศตะวันออกเฉียวเหนือ : เป็นทิศทางเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ และการเริ่มต้นสิ่งใหม่
2. เวลาที่เหมาะสม
เวลาย้ายต้นไม้ที่ดีที่สุดควรเป็นช่วงบ่าย เพราะเป็นเวลาที่อาทิตย์ใกล้ตก อุณหภูมิของอากาศจะค่อยลด และต่ำลง ทําให้ต้นไม้ไม่ได้รับความร้อนต่อเนื่องเป็นเวลานานจนถึงรุ่งเช้า และควรปลูกในช่วงหน้าฝนถึงกลาง ฤดูฝน จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ต้นไม้แข็งแรงได้เร็ว
3. ช่วยในเรื่องใดบ้าง
ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายโดยสามารถนําใบต้นทับทิมมาปะพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือขจัดความชั่วร้ายได้ อีกทั้งผลทับทิมก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตาม ไรฟันและบํารุงฟันให้แข็งแรง (Kapook, ม.ป.ป.)
คาถา
วิธีในการทําน้ำมนต์และบทสวด
1. ชะเอมเทศ ซื้อมาเป็นกิ่งตัดยาวประมาณ 2 นิ้ว ใช้ทั้งหมด 5 กิ่ง ถ้าเหลือเก็บในตู้เย็นไว้ใช้งานหลังได้
2. ขันน้ำมนต์ 1 ใบ (อันนี้เราใช้ขันน้ำใหม่ เสร็จงานก็เอามาใช้ต่อ)
3. น้ำเปล่า 1 ขวด (เราใช้ขวดลิตร 1 ขวด)
4. กิ่งทับทิม 5 กิ่ง มัดรวมกัน (เลือกกิ่งใหญ่หน่อย เพราะพอใช้พรมน้ำแล้วมันจะเหี่ยว)
วิธีการทํา
1. เทน้ำเปล่าลงในขันน้ำมนต์ ใส่ชะเอมเทศ และกิ่งทับทิมลงไป
2. นําไปวางที่หน้าโต๊ะหมู่หรือหิ้งพระก่อน แล้วค่อยไปทําที่เจ้าที่โดยอธิษฐานดังต่อไปนี้" (ตั้งนโม 3 จบ) วันนี้เป็นวันดีของลูกช้าง ลูกช้างขอทําการจัดฮวงจุ้ยขออัญเชิญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ สถานที่แห่งนี้ลงมาช่วยอธิษฐานจิต จัดทําน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประสานแผ่นดิน ธาตุทั้ง 5 ของบ้าน เข้าด้วยกัน และหลังจากประพรมน้ำมนต์แล้ว .......................) โดยทั้ง 2 ที่หลังจากจุดธูปแล้ว ทิ้งไว้ ขอให้ (ว่าไปเลย) 5-10 นาทีแล้ว ค่อยลา
3. จากนั้นเดินพรมน้ำมนต์ให้ทั่วบ้าน ถ้าเหลือจะเก็บไว้ หรือเอาไปรดน้ำต้นไม้ก็ได้
บทสรุป
จากบทความข้างต้นสรุปได้ดังนี้ว่าความเชื่อ คือ การยอมรับ นับถือหรือยึดมั่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีตัวตน หรือไม่มีตัวตนก็ตาม ว่าเป็นความจริงหรือมีอยู่จริง การยอมรับ หรือการยึดมั่นนี้อาจมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ หรืออาจไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์สิ่งนั้นได้ ความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิมจึงหมายถึงการยึดมั่นเกี่ยวกับต้นทับทิม ว่าหากปลูกต้นทับทิมแล้วจะเป็นสิริมงคล คนโบราณมีความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความร่มรื่น และน่ายินดี ใบหรือกิ่งของต้นทับทิมให้คุณด้านการป้องกันภัยจากภูตผี เราจึงมักเห็นการใช้ใบหรือ กิ่งทับทิมแช่น้ำล้างหน้า ล้างมือ พรมศีรษะหลังกลับจากการร่วมงานศพเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่ติดตามมา ความเชื่อ เกี่ยวกับคนทับทิมในแต่ละประเทศแต่ละศาสนาก็แตกต่างกัน โดยประเทศจีนถือว่าต้นทับทิมเป็นไม้มงคล และ เนื่องจากผลทับทิมมีเมล็ดมาก ชาวจีนจึงยกให้ทับทิมเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ ความมีลูกหลาน มากมาย จึงนิยมให้ผลทับทิมเป็นของขวัญแก่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานเพื่อให้มีลูกหลานมาก ๆ ในพิธีแต่งงาน ก็นิยมปักยอดทับทิมไว้ที่ผมบ่าวสาว และปักยอดทับทิมไว้ที่สิ่งของเซ่นไหว้เจ้า ประเทศญี่ปุ่นเชื่อว่าผลทับทิม เป็นเสมือนเจ้าแม่ที่คอยปกป้องรักษาเด็ก ๆ ให้ปลอดภัย และเชื่อว่าเมื่อเด็ก ๆ ได้รับประทานผลของทับทิม แล้วจะปลอดภัยจากภูติ ผี ปีศาจทั้งปวง ผลไม้ชนิดนี้จึงเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น ประเทศกรีกมีความเชื่อว่าต้นทับทิม เกิดจากโลหิตของไดโอนีซุส ซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งเทพเจ้าทั้งปวงและเทวีนาน่า ซึ่งเป็นพรหมจารีย์ตั้งครรภ์ขึ้น โดยการสอดใส่ผลทับทิม และให้เกิดเทพเจ้าแอตติส ดังนั้นผู้ที่เคารพนับถือเทพแอตติสจึงไม่กินผลทับทิม ชาวยิวในสมัยพระเจ้าโซโลมอนก็ถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ ดังปรากฏอยู่บนยอดเสาของวิหารกษัตริย์โซโลมอน ชาวฮินดูในอินเดียเชื่อว่า พระพิฆเนศทรงโปรดทับทิม ผู้ที่เคารพพระพิฆเนศจึงนิยมนําผลทับทิมไปถวาย นอกจากนี้ ยังใช้ดอกทับทิมบวงสรวงบูชาพระอาทิตย์ พระนารายณ์ และเทวีลักษมี อีกในทางศาสนาก็เชื่อ ต่างกัน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูนั้นมีความเชื่อว่าทับทิมเป็นผลไม้วิเศษมีเทพหลายองค์โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ เช่น ตํานานในศาสนาฮินดูเล่าว่า ใครใดที่นําทับทิมที่สวยงายไรตําหนิถวายแด่องค์เทพกฤษณะ ความปรารถนา ของเขาจะสัมฤทธิ์ผล และเช่นเดียวกันพระพิฆเนศที่โปรดปรานผลไม้ชนิดนี้ด้วย และยังเชื่อกันว่าน้ำที่แช่ใบทับทิม ถือกันว่าเป็น "น้ำมงคล" คือ มีพลังที่ดีจากธรรมชาติ แต่ถ้าแช่กิ่งไปในน้ำเฉย ๆ โดยไม่มีการกล่าวบทสวดหรือ ท่องคาถาตามศาสนพิธีก็จะไม่เรียกว่าน้ำมนต์ ในศาสนาอียิปต์โบราณถือว่าทับทิมเป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เนื่องจากเมล็ดทับทิมมีลักษณะคล้ายอัญมณีล้ำค่าแสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวยและเมล็ดของผลทับทิมยังแสดงถึงการมีลูกหลานมากมายอีกด้วย
นอกจากนั้นยังนิยมนําไปบูชาเทพเจ้าของชาวอียิปต์อีกด้วยในเรื่องของทิศทาง การปลูกต้นทับทิมในแต่ละทิศจะเป็นมงคลแตกต่างกันในเรื่องต่าง ๆ เวลาที่ดีที่สุดในการปลูกต้นทับทิมจะเป็นเวลาในช่วงบ่าย ส่วนในเรื่องคาถาที่ใช้สวดตอนพรมน้ำมนต์อยู่ในข้อมูลข้างต้น
ที่มา : อรัญญารัตน์ ศรีสุพัฒนะกุล และคนอื่น ๆ. (2566). ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ. วารสารกำแพงเพชรศึกษา, 6(6). 11-18.
รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2567). ต้นทับทิมกับฮวงจุ้ยแบบไทยๆ. สืบค้น 6 พฤศจิกายน 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=2255&code_db=610004&code_type=01
Google search
รําแม่ศรี เป็นชื่อที่ใช้เรียกการรํา ที่ได้นําการละเล่นการเข้าทรงในสมัยโบราณมาประยุกต์ให้เข้ากับศิลปะการรําของภาคกลางของชาวบ้านปากคลองสวนหมากหรือในปัจจุบันคือนครชุม โดยเป็นการเข้าทรงแม่ศรี หลักเมือง ตํานานกล่าวกันว่าที่เวียงจันทน์มีสตรีนามว่าสีได้ตั้งครรภ์ท้องแก่ได้ยอมสละชีวิตตัวเองลงไปฝังอยู่กับเสาหลักเมืองเพื่อเป็นผีบรรพบุรุษคอยปกป้องคุ้มครองลูกหลาน คนสมัยก่อนจึงมีความเชื่อเรื่องการเข้าทรง เพื่อให้แม่ศรีหลักเมืองอยู่คุ้มครองลูกหลาน
เผยแพร่เมื่อ 24-09-2024 ผู้เช้าชม 97
แม่ศรีเป็นการละเล่นพื้นบ้านตามความเชื่อของชาวบ้านในเรื่องการเข้าทรง จากวรรณกรรมเรื่องทุ่งมหาราชของครูมาลัย ชูพินิจ ได้กล่าวถึงการรำแม่ศรี เพื่อคัดเลือกสาวงามประจำหมู่บ้าน นิยมเล่นกันในงานสงกรานต์ ผู้สืบค้นคือ แม่เฟี้ยม กิตติขจร แสดงโดยแม่บ้านตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร วิธีการเล่น แม่ศรีจะเลือกจากหญิงสาวที่มีหน้าตาสวยงาม รำสวยที่สุดในหมู่บ้าน ผู้รำแม่ศรีจะถือกรวยดอกไม้ธูปเทียน นั่งอยู่กลางวง ผู้เล่นคนอื่นจะร้องเพลงเชิญแม่ศรีร้องซ้ำไปมาจนแม่ศรีเข้าร่างทรงจะวางดอกไม้และเริ่มลุกรำ
เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 28,076
เนื่องจากก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารจานด่วนยอดนิยมของคนกำแพงเพชร ทั้งก๋วยเตี๋ยวไก่ ก๋วยเตี๋ยวโบราณ และผัดไท ทางจังหวัดจึงได้จัดงานมหกรรมอาหารพื้นบ้าน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร ดังกล่าวขึ้นเป็นประ จำทุกปี กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายอาหารและก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดกำแพงเพชร ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเลือกได้ตามใจชอบ
เผยแพร่เมื่อ 20-02-2017 ผู้เช้าชม 2,781
เพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของไทยและของท้องถิ่น อีกทั้งเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการท่อง เที่ยวของจังหวัดกำแพงเพชร และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับประชาชนด้วย
เผยแพร่เมื่อ 05-02-2017 ผู้เช้าชม 2,793
ต้นทับทิม จัดเป็นต้นไม้มงคลปลูกหน้าบ้านที่ช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย โดยสามารถนําใบต้นทับทิมมาปะพรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลหรือขจัดสิ่งชั่วร้ายได้ อีกทั้งผลทับทิมก็ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและบํารุงฟันให้แข็งแรง ทับทิมเป็นผลไม้มงคลของจีน กิ่งใบทับทิม เป็นใบไม้สิริมงคลที่ใช้ทุกงานที่มีน้ำมนต์ประกอบพิธี โดยจะใช้พรมน้ำมนต์และมีไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองกันภัย มีเรื่องเล่าว่าเพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกนํามาเผยแพร่ในเมืองจีนพร้อมกับพระพุทธศาสนา
เผยแพร่เมื่อ 24-09-2024 ผู้เช้าชม 199
เทศบาลเมืองกำแพงเพชรจัดงาน "ชากังราวว่าวไทย" เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมการเล่นว่าว ในประเทศไทยขึ้นเป็นประจำทุกปี ณ บริเวณลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน ภายในงานมีกิจกรรมดังนี้ การประกวดว่าวไทย ในระดับเยาวชนและประชาชนทั่วไป การประกวดปลากัดและปลาสวยงาม เพื่อส่งเสริมกิจกรรม ยามว่างของเยาวชนและประชาชนทั่วไป ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมอีกด้วย
เผยแพร่เมื่อ 20-02-2017 ผู้เช้าชม 1,630
ชุมชนบ้านวังพระธาตุ ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นชุมชนโบราณมีความเป็นมาตั้งแต่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์หลายด้าน เช่น นิทานเรื่องท้าวแสนปม การละเล่นพื้นบ้านต่างๆ และขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลงระบำ ก. ไก่ ซึ่งมีลักษณะการใช้ภาษาที่โดดเด่นเล่นคำอักษร ก ถึง ฮ เนื้อหาของบทร้องเป็นไปในเชิงเกี้ยวพาราสี โดยสะท้อนถึงชีวิตของคนไทยสมัยหนึ่ง จึงเป็นกิจกรรมที่พึงกระทำ และเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่อมา
เผยแพร่เมื่อ 13-02-2018 ผู้เช้าชม 7,779
ความรักและบุเพสันนิวาส เป็นสิ่งที่ไม่มีคำตอบและคำถาม ว่าทำไมคนสองคนที่อยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลก จึงมีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน ได้รักกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะโลกไร้พรมแดนอย่างจริงจัง การที่สาวไทยไปแต่งงานกับคนต่างชาติ มีมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย พม่า กะเหรี่ยง เวียดนาม ลาว หรือชาติบ้านใกล้เรือนเคียง ปัจจุบันยุโรปและอเมริกา คนละซีกโลก แต่เพียงลัดนิ้วมือเดียว ก็ลัดฟ้ามาพบกันได้ เราจึงเรียกเขยฝรั่งเหล่านี้ว่า สานสัมพันธ์วัฒนธรรมข้ามโลก ดำเนินการโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร
เผยแพร่เมื่อ 22-02-2017 ผู้เช้าชม 1,039
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนจะต้องประสบและไม่สามารถหลีกหนีจุดจบของชีวิตได้ ประเพณีไทยมีพิธีกรรมในการจัดการกับศพเพื่อแสดงถึงความรักและอาลัยให้แก่ผู้ตายและเป็นการส่งวิญญาณผู้ตายให้ไปสู่สุขคติ
เผยแพร่เมื่อ 26-02-2017 ผู้เช้าชม 7,719
ศาลพระภูมิเจ้าที่เป็นศาสนสถานที่สำคัญของชุมชนอาข่า เป็นที่กราบไหว้บูชาของชุมชนอาข่า ศาลพระภูมิเจ้าที่จะมีการสร้างประมาณเดือนเมษายนของทุกปี หลังจากปลูกสร้างประตูหมู่บ้านแล้ว และจะมีการบูชาทุกปี ปีละครั้ง หรือถ้าปีไหนมีโรคระบาดเยอะ หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมาเยือนชุมชนบ่อยๆ ก็อาจประกอบพิธี 2 ครั้งใน 1 ปี สร้างไว้ทางทิศเหนือของชุมชน ห่างจากชุมชนประมาณ 500 เมตร ทำเลในการจะสร้างศาลพระภูมิเจ้าที่จะต้องอยู่สูงกว่าระดับ
เผยแพร่เมื่อ 25-02-2017 ผู้เช้าชม 2,821