พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด กำแพงเพชร

พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด กำแพงเพชร

เผยแพร่เมื่อ 05-03-2020 ผู้ชม 1,206

[16.2349931, 99.4048103, พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด กำแพงเพชร]

         วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๔๙ เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด
         "ประพาสต้น" หมายถึง การเสด็จเยือนราษฎรเป็นการส่วนพระองค์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากให้รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าเฝ้าเจ้าชีวิต เพื่อจะได้ทรงสนทนาปราศรัยทำความคุ้นเคย และล่วงรู้ทุกข์สุขของราษฎรได้โดยตรง ไม่ผ่านข้าราชการปกครอง บางครั้งเมื่อทรงทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านก็มีพระบรมราชโองการให้เจ้าเมืองรับไปจัดการ หรือแม้แต่ทรงเปลี่ยนตัวข้าราชการปกครองเสียเองก็มี ส่วนชาวบ้านเหล่านั้นก็มิได้ทรงละเลยในภายหลังทรงขนามนามพวกเขาว่า "เพื่อนต้น" และพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสม่ำเสมอจนตลอดรัชกาล
         "ประพาสต้น" เริ่มต้นเมื่อ ร.ศ. ๑๒๓ (พ.ศ. ๒๔๔๘) เมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรด้วยทรงคร่ำเคร่งเหน็ดเหนื่อยกับพระราชภารกิจมากไป แพทย์ทูลให้ทรงพักผ่อนเปลี่ยนอากาศบ้างก็ทรงเห็นด้วย แต่มิได้เสด็จแปรพระราชฐานไปที่บางปะอินเฉยๆ หากทรงใช้เวลานี้ลงเรือเสด็จตามแม่น้ำลำคลองเข้าไปตามหมู่บ้านไม่ให้ชาวบ้านรู้ว่าเป็นใคร ปล่อยให้เข้าใจว่าเป็นเรือขุนนางมหาดเล็กตามเสด็จ ต่อจากนั้นก็ทรงใช้วิธีนี้เสด็จไปตามหัวเมืองต่าง ๆ แวะเยี่ยมเยียนราษฎรจนถึงที่อยู่เป็นประจำ
          ธรรมเนียมนี้กลายมาเป็นชื่อว่า" ประพาสต้น" แต่คำนี้มาจากอะไรไม่สามารถชี้ชัดได้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าถึงที่มาว่า "...ไปจนถึงวัดเพลงจึงซื้อเรือมาดประทุน ๔ แจวได้ลำ ๑ พระราชทาน ชื่อเรือว่า เรือต้น ได้ยินรับสั่งถามให้แปลกันว่า เรือต้น แปลว่าอะไร บางท่านแปลว่าเรือเครื่องต้น บางท่านแปลว่าเรือทรงอย่างในเห่เรือว่า 'ทรงเรือตน้งามเฉิดฉาย' ดังนี้ แต่บางท่านที่แปลเอาตื้นๆ ว่าหลวงนายศักดิ์เป็นคนคุมเครื่องมหาดเล็กตามเสด็จหลวงนายศักดิ์ชื่ออ้น รับสั่งเรียกว่าตาอ้น ตาอ้นเสมอ คำว่า เรือต้นนี้ก็จะแปลว่าเรือตาอ้นนั้นเอง แปลชื่อเรือต้นเป็นหลายอย่างดังนี้ อย่างไรจะถูกฉันก็ไม่ทราบแน่ แต่วันนี้กว่าจะเสด็จกลับมาถึงเมืองราชบุรีเกือบยาม ๑ ด้วยต้องทวนน้ำเชี่ยวมาก เหนื่อยบอบมาตามกัน เริ่มเรียกการประพาสวันนี้ว่าประพาสต้น เลยเป็นมูลเหตุที่เรียกการประพาสไปรเวตในวันหลัง ๆ ว่าประพาสต้นต่อมา" จดหมายเหตุของสมเด็จกรมพระยาดำรงฯ เล่าเรื่องเหล่านี้ไว้น่าสนุก ทรงเล่าถึงหลายบ้านที่เสด็จไปเยี่ยมโดยเจ้าของบ้านก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ประทับเสวยร่วมวงกับเจ้าของบ้านอย่างกันเอง เจ้านายที่ตามเสด็จอย่างกรมหมื่นสรรพสาตรศุภกิจ เคยถูกเมียเจ้าของบ้านเอ็ดเพราะทรงใช้จวกตักแกงขึ้นมาชิมโดยไม่ทรงทราบธรรมเนียมว่าเขาถือกัน สมเด็จเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา เสด็จพลาดตกท้องร่องสวนวัดบางสามฟกช้ำดำเขียว เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ถูกหมาเฝ้าสวนริมคลอง สองพี่น้องกัดเอาระหว่างเสด็จประพาส เจ้านายและขุนนางตามเสด็จก็ช่วยกันทำครัวเองไปตามมีตามเกิด หากมื้อไห ไม่ได้แวะบ้านใคร สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพกับกรมพระสมมติอมรพันธุ์ทรงทำหน้าที่คนล้างถ้วยชาม เช่นเดียวกับกับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) และกรมหลวงนครราชสีมา ทุกพระองค์ทรงใช้ชีวิตกันอย่างสามัญชนทั่วไปเวลาเสด็จประพาสต้น
           เจ้าของบ้านที่เสด็จไปเยือนนี้บางบ้านก็ไม่รู้จักพระเจ้าแผ่นดิน บางบ้านก็จำได้ อย่างบ้านยายผึ้งที่หลักหกใกล้คลองดำเนินสะดวก ตัวยายผึ้งไม่รู้ว่าใคร เห็นเรือก็เข้าใจว่าเป็นเรือขุนนางจึงร้องเชิญให้แวะพักแล้วเลยมีน้ำใจหาข้าวปลามาเลี้ยง แต่นายฮวดลูกชายวัยหนุ่มของยายผึ้งจำได้จากพระบรมฉายาลักษณ์ที่ตั้งไว้บูชาก็เลยลงกราบ เป็นอันว่าความแตก จึงพระราชทานเงินเป็นค่าตอบแทนให้หลายเท่าของราคากับข้าว ส่วนนายฮวดภายหลังเรียกกันว่า "นายฮวดมหาดเล็ก" ได้ชื่อว่าเป็นคนหนุ่มเฉลียวฉลาดได้เข้าเฝ้าในพระนครอีกหลายครั้ง และได้เป็นผู้ใหญ่บ้านในละแวกนั้นต่อมาไม่ใช่ว่าทุกบ้านจำพระเจ้าอยู่หัวได้ อย่างบ้านของนายช้างและอำแดงพลับ เป็นคหบดีมีหน้ามีตาอยู่ที่บางหลวงอ้ายเอียง เจ้าของบ้านต้อนรับแข็งขัน แสดงอัธยาศัยดี มานั่งเคียงพระเจ้าอยู่หัวด้วยเข้าใจว่าเป็นข้าราชการคนหนึ่งจากเมืองหลวง จนเสด็จกลับไปแล้วถึงมารู้ในภายหลัง รีบหอบลูกเมียเครือญาติทั้งหมดมาตามหาถึงในพระนคร เพื่อขอขมาเจ้านายทั้งหมดที่เคยล่วงเกินโดยไม่รู้ความจริง หนึ่งร้อยกว่าปีให้หลังบ้านของนายช้างและอำแดงพลับก็ยังตั้งอยู่ที่เดิม ลูกหลานยังจดจำเรื่องราวในอดีตได้จนทุกวันนี้บรรดา "เพื่อนต้น" ที่ได้เข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้เข้าเฝ้าได้อีกหลายครั้ง ณ เรือนต้นใกล้พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นเรือนไทยบรรยากาศสบาย ๆ ไร้พิธีรีตอง แบบเดียวกับชีวิตที่พวกเขาคุ้นเคย เมื่อเสด็จกลับจากยุโรปใน ร. ศ. ๑๒๖ ก็ทรงมีไม้เท้าของนอกเป็นของฝากพระราชทานให้ทั่วทุกคน พวก " เพื่อนต้น" จึงมีไม้เท้าพระราชทานเป็นดังเครื่องยศสำหรับถือเมื่อเข้าเฝ้าในกรุงเทพฯ และเฝ้าตามหัวเมืองเวลาเสด็จประพาสไม่ว่าที่ใด
          เมื่อสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ฯ เสด็จสวรรคตใน พ.ศ. ๒๔๕๓ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พวกเพื่อนต้นเข้ามาทำบุญให้ทานในงานพระบรมศพ และเข้าถวายพระเพลิง เช่นเดียวกับข้าราชการอื่น ๆ นอกจากนี้พระราชทานเครื่องประดับไม้เท้าสลักพระนาม จ.ป.ร. ให้ติดไว้เป็นที่ระลึก ทั้งพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เข้าเฝ้าได้ต่อไป เช่นเดียวกับเมื่อครั้งแผ่นดินก่อนทุกประการ
         พระราชนิพนธ์จดหมายเหตุประพาสต้น เฉพาะที่ตำบลแม่ลาด เมืองกำแพงเพชร วันที่ ๑๙ วันนี้ตื่นสายไป แล้วพระวิเชียรพาคนผมแดงมาให้ดู อันลักษณะผมแดงนั้น เป็นผมม้าแดงอย่างอ่อนหรือเหลืองอย่างแก่ ผมที่แดงนี้มาข้างพันธุ์พ่อ ถ้าผู้หญิงไปได้ผัวผมดำ ลูกออกมาก็ผมดำไปด้วย ผมแดงนั้นเปลี่ยน ๓ อย่าง แรกแดงครั้นอายุมากเข้าก็ดำหม่นลง แก่ก็เลยขาวทีเดียว บอกพืชพันธุ์ว่าทราบว่าตัวมาแต่เวียงจันทน์ แต่มาก่อนอนุเป็นขบถ จะได้ตั้งอยู่นานเท่าไรไม่ทราบ พูดเป็นไทย ประพฤติอาการกริิยาก็เป็นไทย เฉพาะมีมากอยู่ที่เมือขาณุที่กำแพงเพชรนี้มีแต่กระเส็นกระสาย ออกเรือเวลา ๓ โมงตรง เกือบ ๕ โมงจึงได้ขึ้นเรือเหลืองทำกับข้าว แวะเข้าจอดที่ประทับร้อนเพราะระยะสั้น แต่จืดไปไม่สนุกจึงได้ไปจอดหัวหาดแม่ลาดซึ่งมีต้นไม้ร่ม กินข้าวและถ่ายรูปเล่นในที่นั้นแล้วเดินทางต่อมา หมายว่าจะข้ามระยะไปนอนคลองขลุงแต่เห็นเวลาเย็น ที่พลับพลาตำบลบางแขมนี้ทำ ดี ตั้งอยู่ที่หาดและพลับพลาหันหน้าต้องลม จึงได้หยุดพอเวลาบ่าย ๔ โมงตรงอาบน้ำ แล้วมีพวกชาวบ้านลงมา หาเล่าถึงเรื่องไปทัพเงี้ยว เวลาเย็นขึ้นไปเทียวบนบ้านและที่ไร่ ระยะทางเวลาวนั้นสองฝั่งน้ำ ระยะบ้านห่างลงมีป่าคั่นมาก แลดูเหมือนจะไม่จับฝั่งตะวันตกเช่นตอนล่าง ๆ มีตะวันตกบ้างตะวันออกบ้างเช่นบ้านบางแขมนี้ก็เป็นบ้านหมู่ใหญ่อยู่ฝั่งตะวันออก ราษฎรอยู่ข้างจะขี้ขลำด [71] กว่าตอนข้างล่างไม่ใคร่รู้อะไร สังเกตตามเรื่องราวที่ยื่นเป็นขอไม่ให้ต้องทำอะไร ไม่ให้ต้องเสียอะไรมาก

คำสำคัญ : พระพุทธเจ้าหลวง, ประพาสต้น

ที่มา : องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาด. (2558). วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา ตำบลแม่ลาด อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร. กำแพงเพชร: องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาด.

รวบรวมและจัดทำข้อมูล : กาญจนา จันทร์สิงห์


สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มาหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2563). พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด กำแพงเพชร. สืบค้น 25 เมษายน 2567, จาก https://arit.kpru.ac.th/ap/local/?nu=pages&page_id=1348&code_db=610001&code_type=03

Facebook Twitter LINE Linkedin

PDF

https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1348&code_db=610001&code_type=03

Google search

Mic

คลองขลุง

คลองขลุง

“คลองขลุง” สาเหตุที่เรียกว่า “คลองขลุง” สืบเนื่องมาจาก 3 สาเหตุ คือ สาเหตุแรก ในสมัยก่อนน้ำจากคลองวังไทรไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิง จึงเรียกตรงจุดที่น้ำมาบรรจบกันว่า “คลองคลุ้ง” ชาวบ้านเรียกว่า “บ้านคลองคลุ้ง” สาเหตุที่สองของชื่อ “คลองขลุง” สืบเนื่องมาจากบริเวณที่ตั้งหมู่บ้านคลองขลุงสมัยก่อนจะมีกรเลี้ยงช้างไว้เป็นจำนวนมาก เพื่อชักลากซุง ชาวบ้านจึงเรียกชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านคลองโขลง” และอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นที่มาของชื่อ “คลองขลุง” คือ บริเวณที่น้ำคลองวังไทรไหลมาบรรจบกับแม่น้ำปิงสมัยก่อนจะมีจระเข้ และตะโขงเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกหมู่บ้านว่า “บ้านคลองโขง” จากชื่อเรียกตามแหล่งกำเนิดต่างๆ ว่า คลองคลุ้ง, คลองโขลง, คลองโขง ต่อมาจึงเรียกเป็น “คลองขลุง” จนถึงปัจจุบันนี้

เผยแพร่เมื่อ 24-04-2020 ผู้เช้าชม 1,096

ประวัติอำเภอคลองขลุง

ประวัติอำเภอคลองขลุง

ดินแดนหลวงพ่อปลอดภัย  ผลไม้รสดี  มีชื่อไม้ดอกไม้ประดับ อำเภอคลองขลุง เป็นอำเภอที่อุดมสมบูรณ์มาก เพราะมีคลองขลุงไหลผ่าน บรรจบกับแม่น้ำปิงที่ตำบลคลองขลุง เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2464 เรียกอำเภอนี้ว่า อำเภอขาณุ ต่อมาได้เปลี่ยนอำเภอเป็นคลองขลุง" เนื่องจากบริเวณที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอมีลำน้ำคลองขลุงไหลผ่าน

เผยแพร่เมื่อ 12-02-2018 ผู้เช้าชม 2,865

พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด กำแพงเพชร

พระพุทธเจ้าหลวง เสด็จประพาสต้น ตำบลแม่ลาด กำแพงเพชร

"ประพาสต้น" หมายถึง การเสด็จเยือนราษฎรเป็นการส่วนพระองค์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากให้รู้ว่าพวกเขากำลังเข้าเฝ้าเจ้าชีวิต เพื่อจะได้ทรงสนทนาปราศรัยทำความคุ้นเคย และล่วงรู้ทุกข์สุขของราษฎรได้โดยตรง ไม่ผ่านข้าราชการปกครอง บางครั้งเมื่อทรงทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านก็มีพระบรมราชโองการให้เจ้าเมืองรับไปจัดการ หรือแม้แต่ทรงเปลี่ยนตัวข้าราชการปกครองเสียเองก็มี ส่วนชาวบ้านเหล่านั้นก็มิได้ทรงละเลยในภายหลังทรงขนามนามพวกเขาว่า "เพื่อนต้น" และพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอย่างสม่ำเสมอจนตลอดรัชกาล

เผยแพร่เมื่อ 05-03-2020 ผู้เช้าชม 1,206